ลักษณะ ของ หนอนตัวแบน

Platyhelminthes มาจากภาษากรีกสองคำคือ platy (แปลว่า แบน) และ helminth (แปลว่า หนอน) ซึ่งแสดงถึงลักษณะเด่น

เนื้อเยื่อ

หนอนตัวแบน เป็นสัตว์จำพวกแรกที่มีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น ได้แก่ เอ็กโทเดิร์ม มีโซเดิร์ม และเอนโดเดิร์ม แต่ยังไม่มีช่องว่างในลำตัวที่แท้จริง ยกเว้นอาจจะพบได้ใน กึ๋น (gut)

ผิวหนังด้านนอก (ectoderm) แตกต่างกันไปโดย พวก Turbellaria มีลักษณะเป็นซีเลียปกคลุม แต่พวก Cestoda และ Trematoda จะเป็นลักษณะของ Culticle ปกคลุมแทนเอ็กโทเดิร์ม (ectoderm) เป็นเนื้อเยื่อแรกที่ปกคลุมพื้นผิวของร่างกาย เกิดขึ้นมาเป็นชั้นแรกและอยู่ชั้นนอกสุดของ germ layer กล่าวโดยทั่วไป เอ็กโทเดิร์มเจริญไปเป็นระบบประสาท, หนังกำพร้า, และส่วนนอกของระบบปกคลุมร่างกาย ในสัตว์มีกระดูกสันหลัง เอ็กโทเดิร์มแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ external ectoderm (หรือ surface ectoderm) , นิวรัล เครสต์ (neural crest) , และนิวรัล ทูบ (neural tube) ซึ่งสองอันหลังนี้เรียกรวมกันว่า นิวโรเอ็กโทเดิร์ม (neuroectoderm)เมโซเดิร์ม (mesoderm) เจริญขึ้นภายในเอ็มบริโอของสัตว์จำพวกไตรโพลบลาสติก ในระหว่างกระบวนการแกสตรูเลชัน เซลล์บางส่วนที่เคลื่อนที่เข้าไปด้านในจะเจริญไปเป็นเมโซเดิร์มซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ระหว่างเอ็กโทเดิร์มและเอนโดเดิร์มวิวัฒนาการของเมโซเดิร์มเกิดขึ้นมาเมื่อหลายร้อยล้านปีมาแล้วซึ่งเป็นวิวัฒนาการที่สำคัญที่ทำให้สัตว์มีโครงสร้างที่ซับซ้อนอย่างมาก การเกิดเมโซเดิร์มทำให้มีการเจริญของช่องตัว (coelom) อวัยวะที่สร้างขึ้นภายในช่องตัวสามารถเคลื่อนที่ เจริญเติบโตได้อย่างอิสระโดยไม่มีผนังลำตัวจำกัดและยังมีของเหลวหุ้มช่วยในการป้องกันอันตรายด้วยเมโซเดิร์มเจริญไปเป็นอวัยวะต่าง ๆ ได้แก่ กล้ามเนื้อโครงร่าง, โครงกระดูก, ชั้นหนังแท้ของผิวหนัง, คริสตัลเลนส์ของตา, เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน, ระบบสืบพันธุ์และขับถ่ายปัสสาวะ, หัวใจ, เลือด (เซลล์น้ำเหลือง) และม้ามเอนโดเดิร์ม (endoderm) เป็นหนึ่งใน germ layer ที่สร้างขึ้นระหว่างการเกิดเอ็มบริโอของสัตว์ เกิดจากเซลล์เดินทางเข้าด้านในผ่านอาร์เคนเทอรอน (archenteron; ส่วนเจริญเป็นทางเดินอาหาร) เกิดเป็นชั้นด้านในของแกสตรูลา ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นเอนโดเดิร์มในระยะแรกเอนโดเดิร์มประกอบด้วยชั้นเซลล์แบน ๆ ซึ่งต่อมาจะมีรูปทรงกระบอก (columnar) เนื้อเยื่อชั้นนี้จะสร้างเป็นเนื้อเยื่อบุผิวของท่อทางเดินอาหารทั้งหมด ยกเว้นส่วนปาก คอหอย และส่วนปลายของไส้ตรง (ซึ่งดาดโดยส่วนหวำของเอ็กโทเดิร์ม) นอกจากนี้ยังสร้างเป็นเซลล์บุของต่อมทั้งหมดที่เปิดออกสู่ท่อทางเดินอาหาร รวมทั้งตับและตับอ่อน เนื้อเยื่อบุผิวของท่อหู (auditory tube) และโพรงหูส่วนกลาง (tympanic cavity) ได้แก่ ท่อลม, หลอดลม, และถุงลมภายในปอด, กระเพาะปัสสาวะ, และส่วนของท่อปัสสาวะ ฟอลลิเคิลของต่อมไทรอยด์และต่อมไทมัส

ระบบย่อยอาหาร

ระบบทางเดินอาหารไม่สมบูรณ์ (digestive system) มีแต่ปาก ไม่มีทวารหนัก

ระบบขับถ่าย

ใช้แฟลมเซลล์ (flame cell) ในการขับถ่าย

ระบบแลกเปลี่ยนแก๊ส

ไม่มีระบบหายใจ (Respiratory system) การแลกเปลี่ยนก๊าซใช้การแพร่ผ่านผนังลำตัว

ระบบประสาท

ระบบประสาทแบบวงแหวน (Nerve ring) หรือแบบขั้นบันได แล้วแต่วงศ์ มีปมประสาท (ganglion) บริเวณส่วนหัวมีจุดรวมประสาท และ photorecetor อยู่ในบางชนิด

ระบบโครงร่างค้ำจุน

ไม่มีระบบโครงค้ำจุน

ระบบหมุนเวียน

ไม่มีระบบหมุนเวียน (Circulatory system) อาศัยการแลกเปลี่ยนก๊าซและของเสียทางผิวหนังโดยตรง ดังนั้นผิวหนังจึงสร้างความชุ่มชื้นอยู่เสมอ บางชนิดอาจมีอวัยวะพิเศษช่วยในการกำจัดของเสียที่เรียก เนฟิเดีย (nephridia flame cell)

ระบบสืบพันธุ์

สามารถสืบพันธุ์ได้ทั้งแบบไม่อาศัยเพศ โดยอาศัยการงอกใหม่ (regeneration) และโดยมีอาศัยเพศ แบบสองเพศในตัวเดียวกัน (hermaphodise) และสามารถผสมข้ามตัว หรือผสมภายในตัวเอง แล้วแต่วงศ์ ไข่มีขนาดเล็ก เมื่อผสมแล้วจะปล่อยออกภายนอกตัว มีทั้งที่หากินเป็นอิสระและเป็นปรสิต