หลันเจี๋ยอิง (
จีน:蓝洁瑛;
พินอิน :Lán Jiéyīng;
กวางตุ้ง :Laam4 Git3 Ying1; 27 เมษายน พ.ศ. 2506 – พฤศจิกายน พ.ศ. 2561) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Yammie Lam "ยัมมี่ หลิน" เป็นอดีตนักแสดงหญิงชาว
ฮ่องกง ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วเอเชียในยุคกลางทศวรรษที่ 80-90 ด้วยใบหน้าที่สวยงามตามธรรมชาติของเธอในยุคสมัยนั้น เธอจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่สวยมากคนหนึ่งของ "
สถานีโทรทัศน์ทีวีบี" จนถูกทางช่องทีวีบี (TVB) ปลุกปั้นขึ้นมาให้เป็น 1 ใน 5 นักแสดงหญิงสาวสวยมาแรงของทางช่องในตอนนั้นที่เรียกว่ากลุ่ม "
5 ธิดามังกร" (TVB's 5 Dragon Girls) ซึ่งประกอบไปด้วย
หลันเจี๋ยอิง (蓝洁瑛),
เฉิน อี้ว์เหลียน (陈玉莲),
ชี เหม่ยเจิน (戚美珍),
เจิ้ง หัวเชียน (曾華倩) และ
หลี เหม่ยเสียน (黎美嫻) ส่วนในชีวิตการแสดงของเธอนั้นมีผลงานที่โดดเด่นมากมาย ทั้งในจอโทรทัศน์ และภาพยนตร์ อีกทั้งตัวเธอเองก็ถือได้ว่าเป็นนักแสดงที่อาภัพมากที่สุดคนหนึ่งในวงการบันเทิงฮ่องกง เพราะชีวิตช่วงหลังของเธอกลับตกต่ำถึงขีดสุด.
[1][2][3][4][5][6][7][8][9][10][11][12][13][14][15][16][17][18][19][20][21][22][23]นอกจากความสวยแล้ว เธอยังเป็นที่ยอมรับในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาทอีกด้วย ในช่วงชีวิตการแสดงเธอเคยรับบทเป็นทั้ง นางเอก, นางรอง และ นางร้าย เพราะเธอสามารถเล่นได้หลากหลายบทบาท ทั้ง บทคนบ้าเสียสติ, บทตลก, บทสาวเรียบร้อยอ่อนหวาน หรือ บทตำรวจสาวแกร่ง แต่ทว่า...บทบาทที่สร้างชื่อให้เธอที่สุดและเป็นที่จดจำของผู้ชมมากที่สุดกลับเป็นบทดราม่าหนัก ๆ อย่าง การสวมบทเป็นแม่ของพระเอกที่ถูกใส่ร้ายจนต้องโทษถูกแขวนคอตายในคุก ในละครสากลสุดฮิตเรื่อง "
คู่แค้นสายโลหิต" และบทบาท "อาเหมย" หญิงแกร่งทรหดที่ต่อสู้เลี้ยงดูเด็กทั้งสี่คนที่ไม่ใช่ลูกของตนเองซ้ำยังเคราะห์ร้ายถูกกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจจนมีอาการทางประสาท ในละครสากลเรื่อง "
เจ้าพ่อตลาดหุ้น" ซึ่งทั้ง 2 บทบาทที่กล่าวมานี้เป็นบทชีวิตเข้มข้นที่ หลันเจี๋ยอิง สามารถแสดงอารมณ์ของตัวละครที่แสนจะรันทด นี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมละครในตอนนั้นเป็นอย่างมาก ผลงานละครที่โดดเด่น เรื่องอื่น ๆ ของเธอก็มี เช่น "
มารพิณพิฆาต", "
ลิขิตฮ่องเต้", "
5คู่ชูชื่น", "
อิทธิฤทธิ์นางจิ้งจอก", "
สวนทางรัก" และ "
จอมยุทธผงาดฟ้า" เป็นต้น นอกจากนี้เธอยังได้มีส่วนร่วมแสดงในผลงานภาพยนตร์ดังเรื่อง "
ไซอิ๋ว เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน" ภาค 1 และ 2 กับการสวมบทบาทเป็น
ปีศาจแมงมุมสาว (สไปเดอร์ วูแมน) จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมในชีวิตเธอเริ่มขึ้นในปีพ.ศ. 2538-2539 (1995-1996) ในช่วงที่ภาพยนตร์ดังเรื่อง "
ไซอิ๋วเดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน" ภาค 1 และ 2 ที่เธอร่วมแสดงได้เข้าโรงฉายและได้รับความนิยม แต่เธอต้องพบกับการสูญเสียทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของเธอในเวลาไล่เลี่ยกันซึ่งยากที่เธอจะทำใจได้และในช่วงนี้เองที่แหล่งข่าวในตอนหลังระบุว่าเธอโดนดาราผู้มีอิทธิพลในวงการบันเทิง 2 คน ข่มขืนซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่เธอไปทำงานยังประเทศ
สิงคโปร์ แต่ตอนนั้นที่ไม่เป็นข่าวปรากฏออกมาเพราะเธอไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่โตเลยไม่ได้ไปแจ้งความ อีกทั้งก่อนหน้านั้นเธอเคยประสบปัญหาความรักที่ล้มเหลวในระยะเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 ครั้งซึ่งแฟนหนุ่มที่เธอรักทั้งสองคนต่างก็
ฆ่าตัวตาย คนหนึ่งเป็นพิธีกรหนุ่ม-ดีเจชื่อดังอย่างนาย
จงเป่าลว๋อ (鍾保羅) หรือที่รู้จักกันในนาม "
พอล จง" เขาคนนี้ฆ่าตัวตายโดยการกระโดดตึกลงมา ส่วนอีกคนเป็นลูกชายของ
ตุลาการคนหนึ่งแซ่เติ้ง เขาคนนี้ก็ฆ่าตัวตายโดยการเปิดก๊าซ จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจให้แก่เธอเป็นอย่างมาก และในปีพ.ศ. 2541 (1998) เธอก็ประสบอุบัติเหตุจนบาดเจ็บและต้องพักรักษาตัวนานทำให้เธอไม่มีงานในวงการบันเทิง ซึ่งปัญหาต่าง ๆ ที่ถาโถมรุมเร้าเข้ามามากมายติด ๆ กันได้ทำให้เธอกลายเป็น "โรคซึมเศร้า" จนในปีพ.ศ. 2542 (1999) หลินเจี๋ยอิง ต้องเข้ารับการรักษาใน
สถานบำบัดผู้ป่วยทางจิตแห่งหนึ่งต่อมาเมื่อเธอได้เข้ารับการบำบัดทางจิตแล้วเธอก็พยายามจะเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยการหวนกลับเข้าสู่ในวงการบันเทิงอีกครั้งแต่บทที่เธอได้รับกลับไม่โดดเด่นเหมือนอดีตทั้งละครและภาพยนตร์ก็ไม่ได้รับความนิยมเลยจนไม่มีใครจ้างงาน ต่อมาเธอได้ตัดสินใจหันหลังให้กลับวงการและไปทำธุรกิจเกี่ยวกับความงามซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นอาชีพที่เหมาะกับเธอเป็นอย่างมาก แต่แล้วเธอก็ต้องพบวิบากกรรมอีกครั้งเมื่อธุรกิจของเธอประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง จนเธอต้องร้องต่อศาลให้เธอกลายเป็นบุคคลล้มละลายในเวลาต่อมา และมีชีวิตอยู่ด้วยเบี้ยเลี้ยงยังชีพของรัฐบาลต่อเดือนเพียง 3,700 เหรียญฮ่องกง เธอกลายเป็นดาราคนแรกในวงการบันเทิงฮ่องกงที่ตกอับจนต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ประจวบกับที่เธอต้องประสบพบเจอกับความรักที่ผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าตามมาอีกถึงขนาดที่เธอพยายามจะฆ่าตัวตาย ซึ่งปัญหาชีวิตเหล่านี้ทำให้เธอต้องกลับเข้าไปรักษาที่
โรงพยาบาลจิตเวชอีกครั้งและนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มักจะมีข่าวด้านลบเกี่ยวกับพฤติกรรมผิดปกติของเธอออกมาให้เป็นข่าวเป็นระยะ ๆ เช่น มีภาพของเธอดูเหม่อลอยเดินพุงป่องไร้จุดหมายอยู่บนท้องถนนของฮ่องกง, ภาพเธอมีหงอกเต็มหัวนั่งสูบบุหรี่อยู่ริมถนนเหมือนคนอนาถา หรือภาพเธอเมาหนักจนต้องนอนอยู่ริมฟุตบาทข้างทาง ซึ่งภาพเหล่านั้นที่เป็นข่าวได้สร้างความตกใจและสะเทือนใจแก่ผู้คนที่เคยรู้จักเธอมาตั้งแต่ในอดีต แต่ด้วยนิสัยรักศักดิ์ศรีของเธอ เธอเลยไม่ค่อยจะร้องขอให้คนเข้ามาช่วยเหลือเธอมากนัก โดยในช่วงนั้นเธอต้องอาศัยอยู่ในบ้านพัก
สงเคราะห์และพักพิง (บ้านพักช่วยเหลือฉุกเฉิน) ของรัฐบาลเพราะเธอไม่มีงานประจำทำ แต่ในความโชคร้ายก็ยังคงมีความโชคดีอยู่บ้าง เมื่อผู้คนได้รับรู้ถึงโชคชะตาที่เล่นตลกกับเธอ ทั้งพี่น้องของเธอและเหล่าเพื่อนดาราก็ต่างเข้ามาช่วยเหลือเธอให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมาบ้าง เช่น
หลิวเต๋อหัว,
หลิวเจียหลิง,
เจิงหัวเชี่ยน,
อู๋จวินหยูและคนอื่น ๆ มีเพื่อนดาราบางคนก็พยายามหางานแสดงและติดต่อให้เธอมาร่วมเล่น แต่ด้วยโรคซึมเศร้าที่เธอเป็นอยู่ในขณะนั้นบวกกับอารมณ์ที่แปรปรวนเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำให้เธอไม่สามารถรับงานแสดงในวงการได้เลย และโชคร้ายไปกว่านั้นด้วยนิสัยของเธอที่มักจะเปลี่ยนทั้งเบอร์และโทรศัพท์อยู่บ่อย ๆ ทำให้เพื่อนดาราเหล่านั้นขาดการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเพราะไม่สามารถติดต่อเธอได้เลย จนต่อมาก็มีข่าวออกมาอีกว่าที่เธอเป็นแบบนี้สาเหตุหลักเพราะเธอเคยถูกดารามาเฟียชาย 2 คนข่มขืนโดยตอนหลังได้มีการเปิดเผยรายชื่อออกมาคือนักแสดงตัวร้ายรุ่นเก่าอย่างนาย
เติ้งกวงหยง (เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว) และอีกคนคือดาราตลกที่อดีตเคยโด่งดังอย่างนาย
เจิ้งจื่อเหว่ย เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกมาแน่นอนว่านาย "เจิ้งจื่อเหว่ย" ก็รีบออกมาปฏิเสธข่าวทันทีพร้อมทั้งบอกว่าคลิปที่เป็นข่าวนั้นเป็นการตัดต่อและเตรียมจะฟ้องร้องผู้ที่ทำการเผยแพร่ทั้งหมด จนในที่สุดข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ค่อย ๆ เงียบไป โดยที่ยังไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริงใด ๆ จากหลันเจี๋ยอิง จนเมื่อเวลากลางดึกเข้าเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 อดีตดาราสาวชื่อดัง ได้ถูกพบว่าเสียชีวิตภายในห้องน้ำที่แฟลต
เหลียงหม่าเฮาส์ ตึก
หม่าฮั่งเอสเตทวิลเลจ (Ma Hang Estate,馬坑邨) ซึ่งเป็นการเคหะแห่งหนึ่งที่อยู่ในย่าน
สแตนลีย์ (Stanley) ที่ฮ่องกง และเป็นห้องพักที่เธออาศัยอยู่ปัจจุบัน ซึ่งเธอน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 2 วันแล้วจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ที่พบศพ เป็นการปิดฉากชีวิตอันแสนเศร้าและสุดอาภัพของอดีตดาราสาวผู้เป็นตำนานอีกหนึ่งคนของชาวฮ่องกงที่เคยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับเอเชียต่อมาแฟน ๆ ละครในฮ่องกงนับหมื่นคน ต่างเข้าไปรุมด่าสาปแช่งในบัญชี
แอคเคาท์ของ ดาราตลกชาย "เจิ้งจื้อเหว่ย" ที่เว็บไซต์
ซินล่างเวย์ปั๋ว (weibo) ประมาณว่าเขาเป็นตัวการที่ทำให้ชีวิตของอดีตดาราสาวผู้นี้ต้องพังพินาศ และขอให้เขาได้รับผลกรรมที่ก่อไว้กับเธอเร็ว ๆ