หลุยส์แห่งลอร์แรน-โวเดมองท์ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส (
ฝรั่งเศส:
Louise de Lorraine-Vaudémont) (
30 เมษายน ค.ศ. 1553 -
29 มกราคม ค.ศ. 1601) หลุยส์แห่งลอร์แรน-โวเดมองท์ เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสใน
พระเจ้าอองรีที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ระหว่างวันที่
13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1575 ถึงวันที่
2 สิงหาคม ค.ศ. 1589หลุยส์แห่งลอร์แรน-โวเดมองท์ประสูติเมื่อวันที่
30 เมษายน ค.ศ. 1553 ใน
ตระกูลลอร์แรนทรงเป็นบุตรีของ
นิโคลาส์ ดยุคแห่งแมร์เคอร์ (Nicholas, Duke of Mercoeur) และมากาเร็ตแห่งเอกมงท์ ชีวิตของพระองค์เมื่อยังทรงพระเยาว์เป็นชีวิตที่ไม่ค่อยมีความสุขเท่าใดนักเพราะการขาดความรักจากบิดาและมารดาเลี้ยง ซึ่งทำให้ทรงเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ที่เงียบขรึมและตรงต่อหน้าที่ นอกจากนั้นก็ยังทรงเป็นผู้เคร่งศาสนาหลุยส์ทรงพบกับ
อองรี ดยุคแห่งอองชู ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1574 ผู้เพิ่งได้รับการเลือกให้เป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปแลนด์เมื่อทรงไปเยี่ยมลุงของหลุยส์
ชาร์ลส์ที่ 3 ดยุคแห่งลอร์แรน (Charles III, Duke of Lorraine) (สามีของ
โคลดน้องสาวของอองรี) ระหว่างการเดินทางไปยังโปแลนด์ อองรีทรงตกหลุมรักหลุยส์ผู้ที่นอกไปจากว่าจะมีพระเกศาสีทอง, พระสิริโฉมงาม และทรงเป็นผู้มีกิริยาอ่อนหวาน แล้วก็ยังทรงมีลักษณะคล้าย
มารีแห่งคลีฟ เจ้าหญิงแห่งคองเด (Marie de Clèves) ที่อองรีตกหลุมรักอย่างถอนพระองค์ไม่ขึ้น อองรีทรงจำหลุยส์ได้แม้เมื่อจากไปแล้วเป็นเวลานานเมื่อ
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 9 พระเชษฐาเสด็จสวรรคตโดยไม่มีรัชทายาท อองรีก็ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ ในตอนแรกหลุยส์ก็ไม่ได้อยู่ในการพิจารณาในตำแหน่งพระราชินี เพราะอองรีพยายามให้มารีหย่ากับสามี
อองรีที่ 1 แห่งบูร์บอง เจ้าชายแห่งคองเด (Henri I de Bourbon, prince de Condé) เพื่อที่พระองค์จะได้เสกสมรสกับมารีได้ แต่มารีมาเสียชีวิตด้วยอาการปอดอักเสบ อองรีจึงตัดสินพระทัยที่จะเสกสมรสกับหลุยส์แม้ว่าจะทรงถูกคัดค้านโดยพระราชมารดาและที่ปรึกษาของพระองค์อองรีและหลุยส์เสกสมรสกันเมื่อวันที่
13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1575 สองวันหลังจากที่ทรงทำพิธีบรมราชาภิเษก อองรีเป็นผู้ออกแบบฉลองพระองค์ของหลุยส์ด้วยพระองค์เอง และทรงทำให้การแต่งงานต้องเลื่อนจากตอนเช้าไปเป็นตอนค่ำเพราะทรงมัวยุ่งอยู่การแต่งพระเกษาของหลุยส์ แต่ในที่สุดทั้งสองพระองค์ก็ได้เข้าพิธีเสกสมรสที่
มหาวิหารนอเทรอดามแห่งแรงส์ โดยคาร์ดินัลแห่งบูร์บองแม้ว่าพระราชินีหลุยส์จะทรงมีความรักและความชื่นชมในตัวพระสวามีและพระองค์ทรงเอาพระทัยพระชายา แต่ทั้งสองพระองค์ก็ไม่มีพระราชโอรสธิดาด้วยกัน เชื่อกันว่าทรงแท้งในฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 1576 ฉะนั้น
พระเจ้าอองรีที่ 3 แห่งนาวาร์พระสวามีของพระขนิษฐาของอองรี (
มาร์เกอรีตแห่งวาลัวส์) จึงกลายเป็นรัชทายาทโดยพฤตินัยซึ่งเป็นผู้ที่เป็นที่ขัดแย้ง ซึ่งทำให้เพิ่มความกดดันในการพยายามมีพระราชโอรสมากยิ่งขึ้น หลุยส์ทรงซูบลงและทรงมีความซึมเศร้า พระสวามีก็พยายามทุกทางที่จะมีพระราชโอรสโดยการสักการะและเดินทางไปแสวงบุญ ในปี ค.ศ. 1589 พระราชินีหลุยส์ทรงได้รับ
วังเชอนงโซ และประทับอยู่ที่นั่นเมื่อทรงได้รับข่าวการปลงพระชนม์ของพระสวามีเมื่อวันที่
2 สิงหาคม ค.ศ. 1589 หลังจากนั้นก็ทรงทุกข์หนักยิ่งขึ้น ทรงดำรงชีวิตอยู่ที่เชอนงโซโดยทรงสวดมนต์และวิปัสนา ทรงล้อมรอบพระองค์ด้วยชีจนวังเป็นเหมือนสำนักชี และมักทรงเสื้อขาวซึ่งเป็นสีไว้ทุกข์หลวง จึงเป็นที่รู้จักกันว่า “พระราชินีขาว” ห้องนอนสร้างใหม่แต่เพดานเป็นของเดิม ตกแต่งด้วยสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของการไว้ทุกข์เช่น น้ำตาเงิน, widows' cordons, มงกุฎหนาม, และอักษรกรีก “l” (
แลมบ์ดา) แทน “Louise” ซึ่งเป็นอักษรย่อของพระองค์เองไขว้กับอักษร “
H” แทน “Henri III”พระราชินีหลุยส์สิ้นพระชนม์เมื่อ
29 มกราคม ค.ศ. 1601 ที่
มูแลงส์, อัลลีเยร์ พระศพบรรจุไว้ที่คอนแวนต์คาร์ปูแช็งส์ แต่ในปี ค.ศ. 1817 พระศพของพระองค์ก็ถูกย้ายไปบรรจุที่
มหาวิหารแซงต์เดอนีส์