การดัดแปลงการวิวัฒน์ ของ องคชาตของมนุษย์

องคชาตของมนุษย์ได้รับการถกเถียงกันว่ามีการปรับตัวในหลายการวิวัฒนาการ ซึ่งวัตถุประสงค์ในการะปรับตัวเหล่านี้คือเพื่อเพิ่มความสำเร็จในการสืบพันธุ์และลดการแข่งขันของอสุจิ การแข่งขันของอสุจิคือ เมื่อตัวอสุจิของผู้ชายสองคนพร้อมกันที่อยู่ภายในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง และพวกมันจะแข่งกันเพื่อไปปฏิสนธิกับไข่[23] ถ้าผลการแข่งขันของอสุจิคือ อสุจิของเพศชายคู่แข่งได้เข้าไปปฏิสนธิกับไข่ อาจจะเกิดการมีชู้ของภรรยาขึ้น นี่เป็นกระบวนการที่เพศชายลงทุนของพวกเขาโดยไม่เจตนาในลูกหลานของชายอื่นและ การพูดถึงวิวัฒนาการเพื่อหลีกเลี่งต้นทุนทั้งหมด[24]

งานวิจัยส่วนใหญ่พบการดัดแปลงขององคชาตมนุษย์และขนาดอัณฑะ การปรับเปลี่ยนการหลั่งน้ำอสุจิ และการเคลื่อนของน้ำอสุจิ[25]

ลูกอัณฑะและขนาดองคชาต

การวิวัฒนาการได้ก่อให้เกิดการคัดเลือกทางเพศ การดัดแปลงเกิดขึ้นในขนาดองคชาตและขนาดอัณฑะในลำดับสูงสุดของความสำเร็จในการสืบพันธุ์และน้อยที่สุดในการแข่งขันของอสุจิ[26][27]

การแข่งขันของอสุจิเป็นสาเหตุให้เกิดการวิวัฒน์ในความยาวและขนาดขององคชาตมนุษย์สำหรับการเก็บรักษาอสุจิและการเคลื่อนย้าย[27] เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ องคชาตจะต้องมีความยาวเพียงพอที่จะเข้าถึงตัวอสุจิคู่แข่งใด ๆ และมากที่สุดในการเติมเต็มช่องคลอด[27] ในลำดับเพื่อให้มั่นใจว่าเพศหญิงคนนั้นจะยังคงมีอสุจิของเพศชายเหลืออยู่ การปรับตัวในด้านความยาวขององคชาตมนุษย์จึงเกิดขึ้นให้การหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้นใกล้กับปากมดลูก[28] นี่คือความสำเร็จเมื่อมีการล่วงล้ำอย่างสมบูรณ์เกิดขึ้นและองคชาตจะผลักดันขัดกับปากมดลูก[29] การปรับตัวนี้ได้เกิดขึ้นเพื่อให้การปล่อยและคงไว้ซึ่งอสุจิไปยังจุดสูงสุดของระบบทางเดินช่องคลอด เป็นผลให้การปรับตัวนี้ยังฝากอสุจิของเพศชายมีความเสี่ยงน้อยลงต่อการเคลื่อนที่และการสูญเสียน้ำอสุจิ เหตุผลในการปรับตัวนี้เป็นผลมาจากลักษณะของท่าทางของมนุษย์ ซึ่งแรงโน้มถ่วงจะสร้างความเปราะบางต่อการสูญเสียน้ำอสุจิ ดังนั้นองคชาตที่ยาวซึ่งจะเข้าไปเกิดการหลั่งน้ำอสุจิภายในระบบทางเดินช่องคลอดที่ลึก สามารถลดการสูญเสียน้ำอสุจิได้[30]

อีกทฤษฎีการวิวัฒนาการของขนาดองคชาต คือ การที่เพศหญิงเลือกคู่และการเป็นสมาคมที่มีการตัดสินทางสังคมในสังคมสมัยใหม่[27][31] การศึกษาแสดงให้เห็นถึงทางเลือกคู่ของเพศหญิงซึ่งมีอิทธิพลต่อขนาดองคชาตในการนำเสนอกับเพศหญิงด้วยขนาดชีวิต การหมุน การสร้างเพศชายจากคอมพิวเตอร์ เหล่านี้แตกต่างกันไปในระดับความสูง รูปร่าง และขนาดองคชาตขณะอ่อนตัว ด้วยประเด็นเหล่านี้เป็นตัวอย่างของความเป็นชาย[27] การจัดอันดับความน่าดึงดูดใจของเพศหญิงสำหรับเพศชายแต่ละคนเผยให้เห็นว่าขนาดองคชาตที่ใหญ่เกี่ยวข้องกับอันดับที่สูงขึ้นในความน่าดึงดูดใจ[27] ความสัมพันธ์ระหว่างองคชาตและความน่าสนใจจึงได้นำไปสู่ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดองคชาตและความเป็นชายพบได้บ่อยในสื่อที่เป็นที่นิยม[31] นี่ได้นำไปสู่อคติทางสังคมที่ว่าขนาดองคชาตที่ใหญ่จะเป็นที่ต้องการและมีสถานะทางสังคมที่สูงขึ้น นี่เป็นภาพสะท้อนในเรื่องการเชื่อมโยงกันระหว่างความกล้าหาญและขนาดองคชาตของเพศชาย และการตัดสินทางสังคมว่าขนาดองคชาตมีความสัมพันธ์กับ "ความเป็นลูกผู้ชาย"[31]

เช่นกันกับองคชาต การแข่งขันของอสุจินั้นทำให้อัณฑะเกิดการวิวัฒนาการด้านขนาดด้วยวิธีการคัดเลือกทางเพศ[26] นี่หมายความว่าการที่อัณฑะมีขนาดใหญ่เป็นตัวอย่างของการปรับตัวในการคัดเลือกทางเพศ อัณฑะของมนุษย์มีขนาดปานกลางเมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์อื่น เช่น กอริลลาและชิมแปนซี ซึ่งอยู่ตรงสักทีหนึ่งในตรงกลาง[32] อัณฑะที่มีขนาดใหญ่นั้นเป็นประโยชน์ในการแข่งขันของอสุจิ เนื่องจากความสามารถในการผลิตการหลั่งอสุจิที่มากกว่า[33] การวิจัยแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์กันเชิงบวกอยู่ ระหว่างจำนวนของตัวอสุจิที่ถูกหลั่งและขนาดของอัณฑะ[33] อัณฑะที่มีขนาดใหญ่กว่ายังแสดงให้เห็นถึงมีการพยากรณ์คุณภาพอสุจิที่ดีขึ้น ประกอบด้วย จำนวนของตัวอสุจิที่เคลื่อนไหวและเคลื่อนที่ที่มากกว่า[26]

การวิจัยยังอธิบายให้เห็นอีกว่าการปรับตัวของขนาดอัณฑะนั้นจะขึ้นอยู่กับระบบการผสมพันธุ์ (Breeding system) ในแต่ละถิ่นที่อยู่ของสปีชีส์[34] ระบบการผสมพันธุ์ตัวผู้ตัวเดียว (Single-male breeding systems) หรือ สังคมการมีคู่สมรสคนเดียว มีแนวโน้มที่จะมีขนาดอัณฑะเล็กกว่าในระบบการผสมพันธุ์แบบตัวผู้หลายตัว (Multi-male breeding systems) มนุษย์นั้นอยู่ในสังคมที่เป็นสังคมการมีคู่สมรสคนเดียวเหมือนกับกอริลลา ดังนั้น ขนาดของอัณฑะจึงมีขนาดเล็กกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับอันดับวานรที่มีระบบการผสมพันธุ์แบบตัวผู้หลายตัว อย่างเช่น ชิมแปนซี เหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างในขนาดอัณฑะนั้น คือเพื่อการประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์ในระบบการผสมพันธุ์แบบตัวผู้หลายตัว ตัวผู้จึงต้องมีความสามารถในการสร้างการหลั่งอสุจิอย่างเต็มที่ต่อเนื่อง[26] อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่กรณีของสังคมการมีคู่สมรสคนเดียว ซึ่งการลดลงในการหลั่งเพื่อผสมพันธุ์นั้นไม่มีมีผลกระทบกับความสำเร็จในการสืบพันธุ์[26] สิ่งนี้ได้สะท้อนให้เห็นในมนุษย์ ที่จำนวนการหลั่งของอสุจิจะลดลงถ้าหากเกิดขึ้นมากกว่า 3 ถึง 5 ครั้งต่อสัปดาห์[35]

แหล่งที่มา

WikiPedia: องคชาตของมนุษย์ http://www.unifr.ch/ifaa/Public/EntryPage/TA98%20T... http://www.bmj.com/content/bmj/319/7225/1596.full.... http://www.circumstitions.com/completeman/sidegif.... http://discovermagazine.com/1996/sep/hormonehell86... http://ac.els-cdn.com/S1090513801000903/1-s2.0-S10... http://www.free-condom-stuff.com/education/researc... http://emedicine.medscape.com/article/1058826-over... http://evp.sagepub.com/content/2/1/147470490400200... http://adsabs.harvard.edu/abs/1981Natur.293...55H http://adsabs.harvard.edu/abs/2013PNAS..110.6925M