องคชาตของมนุษย์

องคชาตของมนุษย์เป็นอวัยวะสืบพันธุ์เพศชายภายนอก และยังทำหน้าที่เป็นท่อปัสสาวะ มีส่วนหลักคือ ส่วนราก (Root / Radix) ส่วนลำตัว (Corpus) และส่วนเนื้อเยื่อบุผิวขององคชาต รวมถึงหนังบริเวณก้าน และหนังหุ้มปลายซึ่งห่อหุ้มส่วนหัวขององคชาต (Glans) ด้วย ส่วนลำตัวขององคชาตเกิดจากเนื้อเยื่อสามต้น ประกอบด้วยกล้ามเนื้อคอร์ปัส คาเวอร์โนซัม (Corpus cavernosum) สองมัดที่ด้านบน และกล้ามเนื้อคอร์ปัส สปอนจิโอซัม (Corpus spongiosum) ซึ่งอยู่ระหว่างกลางของกล้ามเนื้อส่วนแรก ท่อปัสสาวะของมนุษย์เพศชายจะผ่านกลางต่อมลูกหมาก ที่ซึ่งเชื่อมกับท่อฉีดอสุจิ และจากนั้นจะผ่านไปที่องคชาต โดยท่อปัสสาวะจะทอดตัวข้ามกล้ามเนื้อคอร์ปัส สปอนจิโอซัม และออกสู่รูเปิดบริเวณรูปัสสาวะ (Meatus) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปลายของส่วนหัวองคชาต โดยทำหน้าที่เป็นทางผ่านของทั้งปัสสาวะและการหลั่งของน้ำอสุจิการพัฒนาขององคชาตโดยส่วนใหญ่จะมาจากเนื้อเยื่อเดียวกันในตัวอ่อน เช่นเดียวกับคริตอริสของเพศหญิง ผิวหนังโดยรอบขององคชาตและท่อปัสสาวะ ก็มาจากเนื้อเยื่อตัวอ่อนเดียวกันกับที่จะพัฒนาไปเป็นแคมเล็กของเพศหญิง[1][2] การแข็งตัวคือการแข็งและสูงขึ้นขององคชาต ซึ่งจะเกิดขึ้นในขณะมีอารมณ์ทางเพศ แต่ก็ยังสามารถเกิดขึ้นในขณะที่ไม่มีอารมณ์ทางเพศได้เช่นกัน รูปแบบการเปลี่ยนแปลงส่วนหัวองคชาตที่พบได้บ่อยที่สุดคือ การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ โดยเป็นการนำส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดของหนังหุ้มปลายออกไปด้วยเหตุผลทางวัฒนธรรม ศาสนา และไม่บ่อยนักด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ซึ่งยังมีการถกเถียงกันในเรื่องของการขลิบหนังหุ้มปลายโดยรอบขณะที่ผลจากการศึกษาที่แตกต่างกัน ความคิดเห็นส่วนใหญ่ระบุว่าขนาดขณะแข็งตัวขององคชาตโดยความยาวอยู่ที่ประมาณ 12.9–15 ซม. (5.1–5.9 นิ้ว) โดย 95% ของผู้ใหญ่เพศชาย ซึ่งอยู่ในช่วง 10.7–19.1 ซม. (4.2–7.5 นิ้ว) ซึ่งทั้งอายุและขนาดขณะภาวะอ่อนตัวขององคชาตสามารถคาดการณ์ความยาวของอวัยวะเพศได้อย่างแม่นยำ

องคชาตของมนุษย์

แหล่งที่มา

WikiPedia: องคชาตของมนุษย์ http://www.unifr.ch/ifaa/Public/EntryPage/TA98%20T... http://www.bmj.com/content/bmj/319/7225/1596.full.... http://www.circumstitions.com/completeman/sidegif.... http://discovermagazine.com/1996/sep/hormonehell86... http://ac.els-cdn.com/S1090513801000903/1-s2.0-S10... http://www.free-condom-stuff.com/education/researc... http://emedicine.medscape.com/article/1058826-over... http://evp.sagepub.com/content/2/1/147470490400200... http://adsabs.harvard.edu/abs/1981Natur.293...55H http://adsabs.harvard.edu/abs/2013PNAS..110.6925M