ถิ่นที่อยู่และการแพร่กระจาย ของ อันดับสัตว์ฟันแทะ

หนูบ้านในกระถางดอกไม้ สัตว์ฟันแทะบางชนิดอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์

สัตว์ฟันแทะอาศัยในทุกทวีปยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกา นอกจากนี้แล้วยังเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่อยู่อาศัยบนบกและมีสายรกกลุ่มแรกที่ถึงและแพร่กระจายในทวีปออสเตรเลียและเกาะนิวกินีโดยมนุษย์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์นี้ ในทางกลับกันมนุษย์ทำให้สัตว์ฟันแทะเช่น หนูจี๊ด แพร่กระจายในเกาะต่าง ๆ[5] สัตว์ฟันแทะสามารถปรับตัวให้เข้ากับภูมิอากาศเกือบทุกที่บนโลกตั้งแต่ทันดรา (มีหิมะ) ถึงทะเลทราย

สัตว์ฟันแทะบางชนิดเช่น กระรอกต้นไม้ (Tree squirrel) และสมาชิกของวงศ์เม่นโลกใหม่ อาศัยบนต้นไม้ได้ ในขณะที่สัตว์ฟันแทะอื่นเช่นโกเฟอร์ (Gopher) หนูทูโคทูโค (Tuco-tuco) หนูตุ่น (mole rat) อาศัยใต้ดินเป็นส่วนมากและสร้างระบบโพรงที่ซับซ้อน สัตว์ฟันแทะอื่นอีกอาศัยอยู่บนพื้นดิน แต่ยังสามารถสร้างโพรงใต้ดินเพื่อหลบศัตรู บีเวอร์และหนูมัสคแร็ต (Muskrat) อาศัยอยู่ทั้งบนบกและน้ำ[2] แต่สัตว์ฟันแทะที่ปรับตัวกับการอาศัยอยู่ในน้ำมากที่สุดคือ earless water rat จากเกาะนิวกินี[14] นอกจากพื้นที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ สัตว์ฟันแทะบางชนิดอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นเช่น เขตการเกษตรและเมือง[15]

สัตว์อันดับฟันแทะบางชนิดเช่น บีเวอร์แทบทวีปอเมริกาเหนือ สร้างเขื่อนจากท่อนไม้ ซึ่งทำให้เกิดแหล่งน้ำใหม่ โดยสปีชีส์นี้ถือว่าเป็น วิศวกรทางนิเวศวิทยา (ecosystem engineer)

ถึงแม้ว่าสัตว์ฟันแทะบางชนิดเป็นสัตว์ที่ก่อความรังควานให้แก่มนุษย์ สัตว์ฟันแทะอื่นมีบทบาทสำคัญในการหมุนเวียนของระบบนิเวศ[2] บางสมาชิกถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตคีย์สโตน (keystone species) และวิศวกรทางนิเวศวิทยา (ecosystem engineer) ตัวอย่างเช่นในทวีปอเมริกาเหนือ ณ บริเวณเกรตเพลนส์ (Great Plains) การสร้างโพรงของแพรรีด็อกถือว่ามีมีบทบาทสำคัญในการสึกกร่อน การกักตุนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการแจกจ่ายสารอาหารของดินเช่น เพิ่มสารอินทรียและการดูดซึมน้ำของดิน[16] นอกจากนี้แล้วสัตว์กินพืชชนิดอื่นเช่น ควายป่าไบซัน (bison) และพรองฮอร์น (pronghorn) ชอบที่จะกินหญ้าในบริเวณที่อยู่อาศัยของแพรรีด็อก เนื่องจากคุณภาพทางโภชนาการของหญ้าที่สูง[17]

การลดลงของประชากรแพรรีด็อกสามารถนำไปสู่การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity loss) ในระดับภูมิภาคและท้องถิ่น การลดลงของการถูกกินของเมล็ดพันธุ์พืช และการเริ่มต้นและแพร่กระจายของพืชต่างถิ่นรุกราน เช่น ฮันนีเมสเก (Prosopis glandulosa)[16] นอกจากนี้แล้วสัตว์ฟันแทะที่ขุดดินอาจจะกินฟรุตติ้งบอดีของเห็ดราและแพร่กระจายสปอร์ผ่านทางมูลของสัตว์ ซึ่งทำให้เห็ดราขยายอาณาเขตและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อรากับรากพืช[18]

ในหลายพื้นที่เขตร้อน บีเวอร์มีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพยากรน้ำ การที่บีเวอร์สร้างเขื่อนและรังสามารถเปลี่ยนทิศทางของสายน้ำได้[19] ซึ่งส่งผลให้มีการสร้างพื้นที่ชุ่มน้ำใหม่ งานวิจัยหนึ่งพบว่าการสร้างเขื่อนของบีเวอร์เพิ่มประชากรของไม้ล้มลุกในบริเวณพื้นที่ริมฝั่งน้ำ (riparian zone) ได้ถึงร้อยละ 33[20] และอีกงานวิจัยหนึ่งพบว่าช่วยเพิ่มประชากรของปลาแซลมอน[21]

ใกล้เคียง

อันดับสัตว์ฟันแทะ อันดับสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย อันดับกบ อันดับมหาเศรษฐีโลก อันดับมหาวิทยาลัยไทย อันดับโลกเอฟไอวีบี อันดับสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา อันดับโลกฟีฟ่า อันดับโลกหญิงฟีฟ่า อันดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา

แหล่งที่มา

WikiPedia: อันดับสัตว์ฟันแทะ http://www.theage.com.au/articles/2004/05/18/10847... http://www.publish.csiro.au/samples/native%20Mice%... http://www.cpbr.gov.au/cpbr/WfHC/Hydromys-chrysoga... http://www.environment.gov.au/node/14807 http://especesmenacees.ca/en/clothes-and-trimming.... http://nature.ca/notebooks/english/giantbev.htm http://abc.museucienciesjournals.cat/volum-26-2-20... http://bmcevolbiol.biomedcentral.com/articles/10.1... http://www.britannica.com/EBchecked/topic/327815/l... http://www.cell.com/current-biology/fulltext/S0960...