อาการท้องผูก[8](
อังกฤษ: constipation)หมายถึง
การถ่ายอุจจาระไม่บ่อยหรือยาก
[2]อุจจาระบ่อยครั้งจะแข็งและแห้ง
[4]อาการอื่น ๆ ที่อาจมีรวม
ปวดท้อง ท้องขึ้น (bloating) และรู้สึกเหมือนกับว่ายังถ่ายไม่หมด
[3]ภาวะแทรกซ้อนรวมทั้ง
โรคริดสีดวงทวาร แผลทวารหนัก (anal fissure) และอุจจาระอัดแน่น (fecal impaction)
[4]ความถี่การถ่ายอุจจาระปกติของผู้ใหญ่อยู่ระหว่าง 3 ครั้งต่อวัน จนถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์
[4]ส่วนทารกบ่อยครั้งจะถ่าย 3-4 ครั้งต่อวัน และเด็กเล็ก ๆ ปกติจะถ่าย 2-3 ครั้งต่อวัน
[9]ท้องผูกมีเหตุหลายอย่าง
[4]เหตุสามัญรวมทั้งอุจจาระเคลื่อนไปในลำไส้ใหญ่ช้าเกินไป,
กลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น, และความผิดปกติของฐานเชิงกราน (pelvic floor disorders)
[4]โรคที่เป็นมูลฐานของอาการรวมทั้ง
ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์,
โรคเบาหวาน,
โรคพาร์คินสัน, celiac disease
[upper-alpha 1], การแพ้
กลูเตน (NCGS)
[upper-alpha 2],
มะเร็งลำไส้ใหญ่, diverticulitis
[upper-alpha 3], และโรคลำไส้อักเสบ (IBD)
[4][17][5][6]ยาที่ทำให้ท้องผูกรวมทั้ง
โอปิออยด์ ยาลดกรดบางชนิด
แคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ และ anticholinergics
[4]ในบรรดาคนไข้ที่ทานยาโอปิออยด์ ประมาณ 90% จะท้องผูก
[18]ท้องผูกน่าเป็นห่วงยิ่งขึ้นถ้าน้ำหนักลดหรือ
โลหิตจาง, มี
เลือดใน
อุจจาระ, ครอบครัวมีประวัติโรคลำไส้อักเสบ (IBD) หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่, หรือเป็นอาการที่เกิดขึ้นใหม่ในผู้สูงอายุ
[19]การรักษาจะขึ้นอยู่กับเหตุและระยะเวลาที่เป็นมาแล้ว
[4]พฤติกรรมที่อาจช่วยรวมทั้งการดื่มน้ำให้เพียงพอ ทาน
ใยอาหารเพิ่ม และ
ออกกำลังกาย[4]ถ้านี่ยังไม่ได้ผล ก็แนะนำให้ใช้
ยาระบายต่าง ๆ ทั้งแบบเพิ่มเนื้ออุจจาระ, แบบเพิ่มน้ำ (osmotic agent), แบบทำอุจจาระให้นิ่ม, หรือแบบหล่อลื่น
[4]ส่วนยาระบายแบบ stimulant ที่กระตุ้น
เยื่อเมือกลำไส้หรือข่ายประสาทลำไส้ เปลี่ยนการหลั่งน้ำและ
อิเล็กโทรไลต์ และเปลี่ยนการบีบตัวของลำไส้ จะเก็บไว้ใช้เป็นอย่างสุดท้ายถ้าอย่างอื่นไม่ได้ผล
[4]การรักษาอย่างอื่นรวมทั้ง biofeedback (การวัดการตอบสนองทางสรีรภาพด้วยเครื่องมือโดยมีจุดประสงค์เพื่อจะควบคุมการตอบสนองเช่นนั้น ๆ) หรือในกรณีที่น้อยมาก
การผ่าตัด[4]ในกลุ่ม
ประชากรทั่วไป อัตราการท้องผูกอยู่ที่ 2-30%
[7]ส่วนสำหรับ
อายุ25ในบ้านคนหนุ่ม อัตราจะอยู่ที่ 50-75%
[18]อาการทุกอย่างหายเป็นปกติ