การรักษา ของ อาการท้องอืด

เนื่องจากปัญหาแก๊สในลำไส้จะทำให้มีอาการต่าง ๆ กัน การรักษาจึงขึ้นอยู่กับเหตุ

ท้องปวดท้องพอง

แม้จะไม่มีผลต่อการผลิตแก๊ส สารลดแรงตึงผิวสามารถลดความรู้สึกไม่สบายที่เนื่องกับลมในทอง โดยช่วยให้แก๊สละลายเข้าในน้ำหรือในเนื้ออุจจาระ[30]ยาผสมไซเมทิโคนรายงานว่าทำงานโดยโปรโหมตการรวมตัวของฟองอากาศเล็ก ๆ เข้าเป็นฟองใหญ่ทำให้ขับออกได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะโดยเรอออกหรือผายลมแต่ก็ไม่ได้ลดการผลิดแก๊สในลำไส้ใหญ่และก็ไม่ได้ลดตด เพราะเพียงแค่ทำให้ฟองอากาศใหญ่ขึ้นและขับออกได้ง่ายขึ้น[30]ยาอื่น ๆ รวมทั้งยาเพิ่มการบีบตัวของลำไส้เล็ก (prokinetics), lubiprostone, ยาปฏิชีวนะ และสารเสริมชีวนะ (probiotics) ก็ใช้ในการรักษาท้องอืดสำหรับคนไข้ที่มีโรคลำไส้ที่ไม่ใช่โรคกายเช่น กลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น โดยมีหลักฐานบ้างว่ายาพวกนี้อาจช่วยลดอาการ[31]

หลอดยืดหยุ่นได้ที่สอดเข้าในทวารหนักสามารถใช้ดูดเอาแก๊สกระเพาะและลำไส้เข้าใส่ในถุงเก็บลมซึ่งเป็นวิธีที่จำเป็นต้องใช้ในโรงพยาบาลเป็นบางครั้ง เมื่อคนไข้ไม่สามารถขับลมออกได้โดยปกติ[32]

ปริมาณ

ดูบทความหลักที่: ยาแก้ท้องอืด

วิธีหนึ่งในการลดปริมาณลมที่ผลิตก็คือการเปลี่ยนอาหาร ซึ่งลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่หมักดองได้ทฤษฎีนี้เป็นมูลฐานของโปรแกรมอาหารคือ FODMAP diet ซึ่งให้ลดโอลิโกแซ็กคาไรด์ ไดแซ็กคาไรด์ มอโนแซ็กคาไรด์ และ polyol ที่หมักดองได้[33]

มีเครื่องเทศบางอย่างที่รายงานว่ามีผลต้านการผลิตแก๊สในลำไส้ เครื่องเทศรวมทั้งยี่หร่า ผักชี เทียนตากบ ผักชีล้อม และอื่น ๆ เช่น Trachyspermum ammi (ajwain), ขมิ้น, ยางของพืชสกุล Ferula, Dysphania ambrosioides (wormseed, Jesuit's tea, Mexican-tea, payqu/paico, epazote, หรือ herba sancti Mariæ), และสาหร่ายทะเลญี่ปุ่น Saccharina japonica (kombu, 昆布, 다시마, 海带)[ต้องการอ้างอิง]แป้งโดยมากรวมทั้งมันฝรั่ง ข้าวโพด ก๋วยเตี๋ยว และข้าวสาลี สร้างแก๊สเมื่อกำลังสลายในลำไส้ใหญ่[16]แก๊สในลำไส้สามารถลดลงได้โดยหมักถั่ว ซึ่งทำให้สร้างแก๊สน้อยลง หรือหุงต้มมันด้วยสารละลายที่ได้จากการหมักดองรอบสุดท้ายพืชวงศ์ถั่วบางชนิดทนการหุงต้มนาน ๆ ได้ ซึ่งอาจช่วยสลายโอลิโกแซ็กคาไรด์ให้เป็นน้ำตาลธรรมดา ๆ อนึ่ง ผลิตภัณฑ์ถั่วหมักดองเช่น มิโซะ มีโอกาสสร้างแก๊สในลำไส้น้อยกว่า

แบคทีเรียที่ผลิตกรดแล็กติกในกระบวนการหมักดองเช่น Lactobacillus casei และ Lactobacillus plantarum สามารถลดลมกระเพาะและลำไส้ในมนุษย์[34]ผลิตภัณฑ์เสริมชีวนะ (probiotics) รวมทั้งโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ นมเปรี้ยวเป้นต้น เชื่อว่าลดลมในกระเพาะลำไส้เมื่อใช้ฟื้นสภาพความสมดุลของแบคทีเรียประจำลำไส้[35]โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ มีแบคทีเรียที่ผลิตกรดแล็กติก เช่น เชื้อ Lactobacillus acidophilus ซึ่งอาจช่วยลดลมในกระเพาะลำไส้อนึ่ง L. acidophilus อาจทำให้สภาวะภายในลำไส้เป็นกรดมากขึ้น ซึ่งสนับความสมดุลตามธรรมชาติเพื่อกระบวนการหมักดองเป็นเชื้อที่มีขายเป็นอาหารเสริมส่วน Prebiotics ซึ่งเป็นส่วนผสมอาหารที่ช่วยให้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ (เช่น แบคทีเรียและรา) เจริญพันธุ์หรือทำงาน ปกติจะเป็นโอลิโกแซ็กคาไรด์ที่ย่อยไม่ได้ เช่น fructooligosaccharide จะเพิ่มลมในกระเพาะลำไส้โดยวิธีเดียวกันกับที่กล่าวในเรื่องภาวะไม่ทนต่อแล็กโทส

อาหารเสริมที่มีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารอาจลดลมในกระเพาะลำไส้ได้อย่างสำคัญ เพราะช่วยย่อยอาหารที่ปกติจะไม่ย่อยและสนับสนุนจุลินทรีย์ให้ทำการในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่มีการเสนอว่า เอนไซม์ alpha-galactosidase ซึ่งสามารถย่อยน้ำตาลซับซ้อนบางอย่างได้ มีประสิทธิผลลดปริมาณและความบ่อยของตด[36]เอนไซม์ alpha-galactosidase, lactase, amylase, lipase, protease, cellulase, glucoamylase, invertase, diastase, pectinase, และ bromelain ล้วนมีขายในตลาด ไม่ว่าจะโดยเดี่ยว ๆ หรือรวมกัน

ยาปฏิชีวนะ rifaximin ซึ่งมักใช้รักษาอาการท้องร่วงที่มีเหตุจากจุลินทรีย์ E. coli อาจลดทั้งการผลิตแก๊สในลำไส้และความบ่อยครั้งในการตด[37]

กลิ่น

บิสมัท

กลิ่นจากตดสามารถแก้ได้ด้วยยา bismuth subgallate ซึ่งสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ (เช่นยี่ห้อ Devrom ในสหรัฐ)เป็นยาที่ใช้อย่างสามัญในคนไข้ที่ผ่าตัดทำรูเปิด (ostomy) ผ่าตัดลดความอ้วน (bariatric surgery) กลั้นอุจจาระไม่ได้ และมีกลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น[38][39]

ส่วน bismuth subsalicylate เป็นสารประกอบที่เข้ายึดกับไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) งานศึกษาหนึ่งรายงานว่าการทาน 524 มก. ต่อครั้ง วันละ 4 ครั้งเป็นเวลา 3-7 วันช่วยลด H2S ในอุจจาระของทั้งมนุษย์และหนูมากกว่า 95%[40]สารประกอบบิสมัทอีกอย่างคือ bismuth subnitrate ก็พบว่าเข้ายึดกับ H2S เหมือนกัน[41]งานศึกษาอีกงานหนึ่งแสดงว่า บิสมัทออกฤทธิ์เสริมร่วมกับยาปฏิชีวนะต่าง ๆ เพื่อยับยั้งแบคทีเรียที่รีดิวซ์ซัลเฟตและดังนั้น จึงยับยั้งการผลิตซัลไฟด์[42]

นักวิชาการบางพวกเสนอทฤษฎีว่า H2S มีส่วนให้เกิดลำไส้ใหญ่อักเสบที่มีแผลเปื่อย (ulcerative colitis) และดังนั้น บิสมัทจึงอาจช่วยรักษาสภาวะนี้[43]อย่างไรก็ดี การให้บิสมัทแก่หนูไม่ได้ป้องกันไม่ให้เกิดลำไส้ใหญ่อักเสบที่มีแผลเปื่อยแม้ว่าลำไส้จะผลิต H2S ลดลง[43]อนึ่ง หลักฐานปี 2009 แสดงว่า H2S ในลำไส้ใหญ่ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบที่ยึดไว้อยู่แล้ว โดยเป็นซัลไฟด์ของเหล็กหรือโลหะอื่น ๆ[8]

โอกาสบิสมัทเป็นพิษหนักมีน้อยมากโดยอาจเกิดเมื่อใช้ในขนาดมาก[44]

ถ่านปลุกฤทธิ์ (activated charcoal)

แม้จะเป็นวิธีรักษาปัญหาการย่อยอาหารต่าง ๆ มาตั้งแต่โบราณ ถ่านปลุกฤทธิ์ (activated charcoal) ไม่ได้ลดทั้งปริมาณลมหรือการปล่อยแก๊สที่มีกำมะถัน และไม่ลดอาการเกี่ยวกับท้อง (หลังจากทานถ่านปลุกฤทธิ์ขนาด 0.52 กรัม 4 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 1 อาทิตย์)[45]ผู้ทำงานศึกษาเสนอว่า ความอิ่มตัวของจุดที่สร้างพันธะได้ของถ่านเมื่อดำเนินผ่านท้องเป็นเหตุให้ไม่มีผลงานศึกษาอีกงานสรุปว่า ถ่านปลุกฤทธิ์ (4 กรัม) ไม่มีผลต่อการผลิตแก๊สไม่ว่าจะทดลองนอกกายหรือในกาย[46]

แต่นักวิชาการพวกอื่นก็รายงานว่า ถ่านปลุกฤทธิ์ได้ผลงานศึกษาในสุนัข 8 ตัวสรุปว่า ถ่านปลุกฤทธิ์ที่ให้ทางปาก (ไม่ทราบขนาด) ลด H2S ถึง 71%และเมื่อรวมใช้กับสมุนไพร Yucca schidigera (Mojave yucca, Spanish dagger) และ zinc acetate การลดก็จะเพิ่มถึง 86% แม้ปริมาณลมและการขับลมจะไม่ลดลง[47]ส่วนงานศึกษาปี 1981 รายงานว่า ถ่านปลุกฤทธิ์ที่ให้ทางปาก (ไม่ทราบขนาด) ป้องกันไม่ให้ขับลมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากและไม่ให้เพิ่มความเข้มข้นของไฮโดรเจนในลมหายใจที่ปกติจะเกิดหลังจากทานอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สมาก[48]

เสื้อผ้าและอุปกรณ์ภายนอก

ในปี 1998 นาเชสเตอร์ "บัก" ไวเมอร์ แห่งเมืองพูโบล รัฐโคโลราโด ได้จดสิทธิบัตรสำหรับชุดชั้นในชุดแรกที่มีตัวกรองถ่านซึ่งเปลี่ยนได้เป็นชุดชั้นในที่กันอากาศรั่ว (และกลิ่น) ได้เป็นอย่างดี และมีรูเพื่อสอดตัวกรองถ่าน[49]ในปี 2001 นายเชสเตอร์ได้รับรางวัลอิกโนเบลสาขาชีววิทยาสำหรับสิ่งประดิษฐ์ของเขานี้[50]

ต่อมาจึงมีการวางตลาดขายสินค้าคล้าย ๆ กันในปี 2002 แต่แทนที่จะเป็นชุดชั้นในทั้งตัว ผู้บริโภคสามารถซื้อแผ่นสอดคล้ายกับผ้าอนามัย เป็นแผ่นสอดที่บรรจุถ่านปลุกฤทธิ์[51]นักประดิษฐ์คือสองสามีภรรยาไมราและไบรอัน โคแนนท์แห่งเมือมิลิลานี รัฐฮาวาย ยังอ้างในเว็บไซต์ว่า ได้ประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์นี้ขึ้น (4 ปีหลังจากนายเชสเตอร์ได้จดสิทธิบัตร) เพราะการทดสอบของพวกเขา "สรุป" ว่า ผลิตภัณฑ์ที่วางตลาดควรจะเป็นแผ่นสอด[52]

การกลั้นตดไม่อยู่

การกลั้นตดไม่อยู่เป็นรูปแบบอย่างหนึ่งของการกลั้นอุจจาระไม่อยู่ และดังนั้น จึงรักษาโดยวิธีคล้าย ๆ กัน

แหล่งที่มา

WikiPedia: อาการท้องอืด http://www.abc.net.au/southqld/stories/s1560903.ht... http://gut.bmj.com/cgi/pmidlookup?view=long&pmid=7... http://www.etymonline.com/index.php?term=flatulent http://www.flat-d.com/american-inventor.html http://www.gastrotraining.com/product-information/... http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=787.... http://www.improb.com/ig/ig-pastwinners.html#ig200... http://maravipost.com/index.php?option=com_content... http://www.merck.com/mmpe/sec02/ch008/ch008d.html http://www.merriam-webster.com/dictionary/flatulen...