ความรุ่งเรืองครั้งสุดท้าย ของ อาณาจักรล้านช้าง

พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช (พ.ศ. 2181- พ.ศ. 2238) เป็นยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองอีกยุคหนึ่ง เนื่องด้วยพระองค์มีวิธีการปกครองบ้านเมืองหลักแหลมและเป็นธรรม ทำให้ล้านช้างมีความมั่นคงและสงบร่มเย็นกว่าครึ่งศตวรรษ ทั้งความรุ่งเรื่องทางสถาปัตยกรรม อักษรศาสตร์ ศิลปะแขนงต่างๆ ตลอดจนการค้าขายกับต่างชาติ ในยุคนี้ท่านได้มีการทำศึกสงครามครั้งใหญ่กับอาณาจักร์อยุธยาอยู่หลายครั้ง และสุดท้ายล้านช้างเป็นฝ่ายชนะ ส่งผลให้อยุธยาสูญเสียเสบียงและกำลังพลไปอย่างมหาศาลกับการทำสงครามพ่ายแพ้ต่อล้านช้างซึ่งส่งผลให้อยุธยาบอบช้ำอย่างหนักไม่สามารถขยายอิทธิพลไปยังหัวเมืองอื่นๆได้อีก อีกทั้งยังสูญเสียประเทศราชภายใต้อำนาจบางแห่งอีกด้วย นอกจากนี้ท่านยังนำทัพล้านช้างได้ไปตีเมืองพวนและกวาดต้อนไทพวนเข้ามาไว้ในเวียงจันทน์เป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา อีกทั้งยังมีเมืองเชียงรุ่งเข้ามาสวามิภักดิ์ขอเป็นเมืองขึ้นกับท่านอีกด้วย

พระองค์ทรงเป็นผู้ที่มีความยุติธรรม จากรณีที่พระราชโอรสของพระองค์ได้กระทำความผิดลักลอบเป็นชู้กับภริยาของขุนนางผู้หนึ่ง พระองค์ก็ลงโทษตามอาญาถึงขั้นประหารชีวิตโดยมิได้ใส่ใจว่าเป็นพระโอรส ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงอยู่ในสภาพที่ไร้รัชทายาท และเมื่อพระองค์สวรรคตโดยไร้รัชทายาท ประชาชนจึงได้อัญเชิญพระยาเมืองจันซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่ให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่ก็ครองราชย์อยู่ได้หกปี เจ้านันทราชแห่งเมืองน่านก็ยกทัพเข้ามาชิงเมืองเวียงจันทน์ไว้ได้ เจ้านันทราชจึงได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างใน พ.ศ. 2238

ใกล้เคียง

อาณาจักรอยุธยา อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์) อาณาจักรล้านนา อาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรล้านช้าง อาณาจักรธนบุรี อาณาจักรโคตรบูร อาณาจักรพระนคร อาณาจักรปตานี อาณาจักรแห่งกาลเวลา