อาร์มาดิลโล
อาร์มาดิลโล

อาร์มาดิลโล

อาร์มาดิลโล (อังกฤษ: armadillo) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในอันดับ Cingulata ในอันดับใหญ่ ซีนาร์ทราอาร์มาดิลโลมีลักษณะเด่น คือ มีส่วนหน้าและจมูกที่ยาว มีปากขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูเล็ก ๆ มีกรงเล็บที่แหลมคมทั้งตีนหน้าและตีนหลัง ใช้สำหรับขุดทำโพรงอยู่อาศัยและขุดหาอาหารกิน กินอาหารโดยการใช้ลิ้นที่ยื่นยาวและน้ำลายที่เหนียวตวัดกินแมลงจำพวกมด ปลวก และหนอนตามพื้นดิน และมีเกราะหุ้มอยู่ตามตัวเป็นแผ่น ๆ มีข้อต่อเชื่อมต่อกันเหมือนชุดเกราะ โดยเฉพาะที่หัวไหล่และด้านท้ายลำตัว ทำให้ดูเหมือนกับลิ่นซึ่งเป็นสัตว์ในอันดับ Pholidota มาก แต่ทั้งอาร์มาดิลโลและลิ่นเป็นสัตว์ที่อยู่ต่างอันดับกัน และอยู่ในอันดับใหญ่คนละอันดับกันด้วย โดยอาร์มาดิลโลมีความใกล้เคียงกับสลอทหรือตัวกินมดมากกว่า แต่ในอดีตทั้งอาร์มาดิลโลและลิ่นเคยถูกจัดอยู่ในอันดับเดียวกัน คือ Edentata ซึ่งแปลว่า "ไม่มีฟัน" แต่ความจริงแล้ว อาร์มาดิลโลมีฟัน เป็นฟันกรามที่มีขนาดเล็ก และไม่แข็งแรง[1]บรรพบุรุษของอาร์มาดิลโลที่สูญพันธุ์ไปแล้วราว 10,000 ปีก่อน มีชื่อว่า "คลิปโตดอน" ที่มีขนาดตัวใหญ่เท่ากับรถยนต์คันเล็ก ๆ คันหนึ่ง คลิปโตดอนอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ มีเกราะที่หุ้มตัวเป็นชิ้น ๆ รูปหกเหลี่ยม ไม่เหมือนกับอาร์มาดิลโลในปัจจุบัน ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีโครงกระดูกของคลิปโตดอนที่สมบูรณ์แบบจัดแสดงอยู่ เป็นตัวอย่างที่ชาลส์ ดาร์วิน ได้ส่งมาให้เมื่อครั้งเดินทางไปสำรวจที่ทวีปอเมริกาใต้[2][3]เมื่ออาร์มาดิลโลถูกคุกคามแล้วจะขดตัวเป็นวงกลมคล้ายลูกบอล โดยเก็บส่วนหน้าและขาทั้ง 4 ข้างไว้ เหมือนกับลิ่น โดยที่ชื่อ armadillo นั้นในภาษาสเปนออกเสียงว่า "อาร์มาดีโย" และมีความหมายว่า "ตัวหุ้มเกราะน้อย" ขณะที่ชาวแอซเท็ก จะเรียกว่า azotochtli หมายถึง "กระต่ายเต่า" แต่ชื่อในภาษาถิ่นของชาวลาตินอเมริกาในปัจจุบันจะเรียกว่า ปีชี (Pichi)[3][4]อาร์มาดิลโลกระจายพันธุ์อยู่เฉพาะทวีปอเมริกาทั้งอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง จนถึงอเมริกาใต้ แบ่งออกได้ทั้งหมด 10 สกุล 20 ชนิด โดยชนิดที่ใหญ่ที่สุด คือ อาร์มาดิลโลยักษ์ ที่มีขนาดยาวได้ถึง 150 เซนติเมตร (59 นิ้ว) และน้ำหนักมากกว่า 59 กิโลกรัม (130 ปอนด์) และชนิดที่มีขนาดเล็กที่สุด คือ พิงก์แฟรีอาร์มาดิลโล ที่ยาวเพียงไม่เกิน 6 นิ้ว เท่านั้นเกราะของอาร์มาดิลโลนั้นมีน้ำหนักเบา จึงทำให้เคลื่อนตัวได้อย่างสะดวก เรียกว่า "สกูต" ซึ่งเป็นเกล็ดอย่างหนึ่งที่สัตว์ใช้สำหรับป้องกันตัว พฤติกรรมตามธรรมชาติจะอาศัยอยู่ตามพื้นที่โล่ง เช่น ทะเลทราย หรือป่าละเมาะที่มีพุ่มไม้เตี้ย ๆ ขึ้น อาศัยอยู่ด้วยการขุดโพรงอยู่ใต้ดิน กินแมลงเป็นอาหาร หากินในเวลากลางคืน อาร์มาดิลโลตัวผู้จะมีพฤติกรรมฉี่กลิ่นฉุนทิ้งไว้ตามที่ต่าง ๆ เพื่อประกาศอาณาเขต ขณะที่ตัวเมียในบางชนิดไข่ที่เมื่อได้รับการปฏิสนธิแล้ว จะยังไม่พัฒนามาเป็นตัวอ่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการมีลูกในช่วงฤดูหนาวด้วยการอุ้มไข่ได้นานถึง 2 ปี ส่วนตัวผู้จะมีอวัยวะเพศที่เป็นเส้นยาว เพราะเมื่อผสมพันธุ์จะติดขัดทั้งเกราะและหางของตัวเมีย[3] ในบางชนิดที่มีขนาดใหญ่อาจยาวได้ถึง 1.2 เมตร [4]ชาลส์ ดาร์วิน เคยบันทึกไว้ถึงอาร์มาดิลโลเมื่อครั้งเดินทางไปสำรวจยังทวีปอเมริกาใต้ว่า เนื้อของมันเมื่อถูกย่างพร้อมทั้งเกราะแม้ว่าจะมีรสชาติอร่อย แต่ก็ไม่เพียงพอที่เป็นอาหารเช้าสำหรับผู้ชายที่หิว ๆ 2 คน[3]อาร์มาดิลโลสามารถว่ายน้ำและดำน้ำได้ ด้วยการเดินอยู่ใต้น้ำนานได้ถึง 6 นาที ด้วยการกลืนอากาศลงไปคำใหญ่และขยายกระเพาะให้พองออกเหมือนเสื้อชูชีพ ปัจจุบันในหลายพื้นที่ของสหรัฐอเมริกา จะมีอาร์มาดิลโลจำนวนมากที่ถูกรถชนตายอยู่ข้างถนน และเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ง่ายทั่วไปแม้แต่ในชุมชนเมืองหรือสนามกอล์ฟ ในโบลิเวียและเปรู เกราะของอาร์มาดิลโลถูกมาทำกีตาร์แบบของชาวสเปน โดยจะถูกขึงด้วยลวด 10 เส้น และโดยปรกติจะถูกปรับให้อยู่ในคีย์เอไมเนอร์[4]