อำพันในทางธรณีวิทยา ของ อำพัน

อำพันที่เก่าแก่ที่สุดพบในยุคคาร์บอนิเฟอรัสหรือประมาณ 345 ล้านปีมาแล้ว ส่วนอำพันที่เก่าแก่ที่สุดที่มีแมลงอยู่ในเนื้อของมันด้วยนั้นได้มาจากยุคครีเทเชียสหรือประมาณ 146 ล้านปีมาแล้ว

แหล่งอำพันที่สำคัญที่สุดในเชิงพาณิชย์คือแหล่งในบอลติกและโดมินิกัน[5]

อำพันบอลติกหรือซัคคิไนต์ (มีบันทึกทางประวัติศาสตร์เรียกกันว่าอำพันปรัสเซีย) ถูกค้นพบเป็นก้อนทรงมนผิวขรุขระในทรายกลอโคไนต์ที่สะสมตัวกันในทะเลหรือที่รู้จักกันว่า “บลูเอิร์ธ” มีอายุสมัยโอลิโกซีนตอนต้นในเขตซัมแลนด์ของปรัสเซียโดยในแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ถูกเรียกขานกันว่า แกลสซาเรีย หลังปี ค.ศ. 1945 ดินแดนแถบนี้รอบ ๆ เมืองเคอนิชส์แบร์คถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นคาลินินกราดของประเทศรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันมีการทำเหมืองอำพันกันอย่างเป็นระบบมีแบบแผน[6] อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามีอำพันบางส่วนเกิดจากการสะสมตัวในช่วงต้น ๆ ของยุคเทอร์เชียรี (อีโอซีน) และก็ยังพบได้ด้วยในชั้นหินที่มีอายุอ่อนขึ้นมาเช่นกัน มีการพบเศษซากพืชมากมายในเนื้อของอำพันขณะที่เนื้อยางไม้ยังสด ๆ อยู่ เศษซากพืชเหล่านั้นพิจารณาได้ว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับพืชพันธุ์ทางเอเชียตะวันออกและทางตอนใต้ของอเมริกาเหนือ เฮนริช กอปเปิร์ตได้ตั้งชื่ออำพันที่มีเศษซากสนไพน์จากป่าบอลติกว่า “ไพไนต์ ซัคคิไนเตอร์” แต่ในส่วนของเศษซากไม้แล้วบางคนพิจารณาว่าดูเหมือนว่าจะไม่ได้แตกต่างไปจากสกุลของสนที่มีการตั้งชื่อกันเอาไว้ก่อนแล้วที่เรียกกันว่า “ไพนัส ซัคคินิเฟอรา” อย่างไรก็ตามไม่น่าจะเป็นไปได้ที่อำพันที่พบจะเกิดขึ้นจากไม้สนเพียงชนิดเดียว เนื่องจากจริง ๆ แล้วในเนื้ออำพันเหล่านี้พบเศษซากไม้สนต่างสกุลกันอย่างหลากหลาย

อำพันโดมินิกันถูกพิจารณาให้เป็นริติไนต์เนื่องจากไม่พบกรดซักซินิก พบมี 3 แหล่งใหญ่ ๆ ในสาธารณรัฐโดมินิกันคือ ลาคอร์ดิลเลอร่าเซฟเทนทริโอนอลทางตอนเหนือ และบายากัวน่าและซาบาน่าทางตะวันออก ในทางเหนือพบว่าชั้นหินที่มีอำพันสะสมอยู่นั้นเป็นพวกหินเนื้อประสม หินทรายที่ตกสะสมตัวบริเวณสันดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ หรือแม้แต่ลงไปในทะเลลึก อำพันที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดและมีความแข็งที่สุดมาจากเขตเทือกเขาทางตอนเหนือของพื้นที่แซนติเอโก้จากเหมืองที่ลาคัมเบอร์ ลาโตก้า ปาโลควีมาโด้ ลาบูคารา และลอสคาซิออสในคอร์ดิลเลอร่าเซฟเทนทริโอนอลไม่ไกลจากเมืองแซนติเอโก้นัก อำพันจากแนวเทือกเขาเหล่านี้พบฝังตัวแน่นในเนื้อลิกไนต์ของชั้นหินทราย

มีอำพันพบทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบายากัวน่าและซาบาน่าด้วยเหมือนกัน เป็นอำพันมีเนื้ออ่อนกว่าบางทีก็เปราะและเมื่อนำขึ้นมาจากเหมืองแล้วจะเกิดการออกซิเดชันซึ่งทำให้ราคาถูก มีการพบโคปอลด้วยพบว่ามีอายุประมาณ 15-17 ล้านปี ในพื้นที่ทางตะวันออกพบอำพันในชั้นทราย ดินเหนียวปนทราย แทรกสลับด้วยลิกไนต์ รวมถึงชั้นกรวดและชั้นทรายเม็ดปูน ที่มีลักษณะเป็นชั้นบาง ๆ ของอินทรียวัตถุแทรกสลับอยู่ด้วย

ทั้งอำพันบอลติกและอำพันโดมินิกันเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยซากดึกดำบรรพ์ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่ายิ่งเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตของป่าในอดีต[7]

อำพันยุคครีเทเชียสตอนกลางมีการพบจากเมืองเอลล์สเวิร์ธคันที รัฐแคนซัส เป็นอำพันที่มีอายุประมาณ 100 ล้านปีที่พบซากของแบคทีเรียและอะมีบาฝังอยู่ในเนื้อของมัน จากลักษณะสัณฐานพบว่ามีความใกล้เคียงกับแบคทีเรียสกุลเลฟโตทริกซ์ และอะมีบาสกุลพอนติกูลาเรียและเนเบลาที่ได้รับการยืนยัน[8]

แหล่งที่มา

WikiPedia: อำพัน http://science.enotes.com/how-products-encyclopedi... http://www.farlang.com/gemstones/amber http://www.farlang.com/gemstones/king-gems-decorat... http://www.msnbc.msn.com/id/17168489/ http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?sec=hea... http://www.patent-invent.com/electricity/invention... http://www.saudiaramcoworld.com/issue/196806/worry... http://www.stringsmagazine.com/instruments/Back_Is... http://www.webmineral.com/data/Amber.shtml http://www.ucmp.berkeley.edu/museum/171online/PB17...