อึ่งปากขวด หรือ
อึ่งเพ้า (
ชื่อวิทยาศาสตร์: Glyphoglossus molossus) เป็น
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกชนิดหนึ่ง
จำพวกอึ่งอ่าง จัดเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ใน
สกุล Glyphoglossus
[2]มีความยาวจากหัวจรดถึงก้นประมาณ 73
มิลลิเมตร ลำตัวอ้วนป้อม มีลักษณะเด่นคือ หน้าสั้นมาก ปากแคบและทู่ไม่มีฟัน ไม่เหมือนกับ
กบหรืออึ่งอ่างชนิดอื่น ๆ ตาเล็ก ขาสั้น แผ่นเยื่อแก้วหูเห็นไม่ชัด ลำตัว
สีน้ำตาลดำหรือ
สีเทาดำ ใต้ท้อง
สีขาว บางตัวอาจมีจุดกระ
สีเหลืองกระจายอยู่ทั่ว เท้าทั้ง 4 ข้างมีพังผืดเกาะติดอยู่ ใช้สำหรับ
ว่ายน้ำ และมีสันใต้ฝ่าเท้าหลังใช้สำหรับขุด
ดินอึ่งปากขวดพบในภูมิภาค
อินโดจีน ใน
ประเทศไทยจะพบเฉพาะพื้นที่ที่อยู่เหนือ
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นไป โดยมีพฤติกรรมอาศัยโดยขุดโพรงดินที่เป็นดินปน
ทรายและอาศัยอยู่ภายใน ในป่าที่มี
ความชุ่มชื้นใกล้กับ
พื้นที่ชุ่มน้ำ ใน
ฤดูร้อนจะซ่อนตัวในโพรงแทบตลอด เมื่อ
ฝนตกจะออกมาหากิน โดยหากินในเวลา
กลางคืน ผสมพันธุ์และวางไข่ในช่วงต้น
ฤดูฝน และจะผสมพันธุ์วางไข่เร็วกว่าอึ่งอ่างหรือกบชนิดอื่น
ลูกอ๊อดมีลำตัวป้อมและโปร่งแสง ลำตัวเป็นสีเหลือง มีส่วนบนและส่วนล่างเป็น
สีดำ หากินอยู่ในระดับกลางน้ำ โดยจะว่ายทำมุมประมาณ 45 องศา อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ไปไหนมาไหนพร้อมกันเป็นฝูง อึ่งปากขวดไม่จัดว่าเป็น
สัตว์ป่าคุ้มครอง[3] แต่ในปัจจุบันมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะถูกจับมา
บริโภค โดยเฉพาะอย่างมากในช่วงฤดูฝนที่จะสร้างรายได้แก่ผู้ที่จับมาได้วันละหลายหมื่นบาท
[4] (แต่มักจะเรียกปนกันว่า "
อึ่งอ่าง" หรืออึ่งยาง ซึ่งเป็นอึ่งคนละชนิด)
[5] กอปรกับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไป ปัจจุบัน
กรมประมงได้สนับสนุนให้เลี้ยงเป็น
สัตว์เศรษฐกิจ[6]