แผนที่ฮัมวีประจำการ: สีน้ำเงินเข้มแสดงฮัมวีประจำการดั้งเดิม, สีฟ้าอ่อนแสดงฮัมวีสาประจำการธารณรัฐประชาชนจีนที่ลอกแบบฮัมวีของเหล่านาวิกโยธินสหรัฐในการส่งอาหารแพ็คที่ประเทศฟิลิปปินส์หลังพายุไต้ฝุ่นกิสนา ค.ศ. 2009ฮัมวีขณะยิงขีปนาวุธเอจีเอ็ม-114 เฮลไฟร์ไฟล์:M1114CLB5HMMWVPUSHOIF.JPGนาวิกโยธินสหรัฐกำลังผลักเอ็ม1114 ฮัมวี ระหว่างการแข่งขัน 'ฮัมวีพุช' ในปี ค.ศ. 2016เอ็ม-966 ของนาวิกนาวีสเปน ซึ่งติดตั้งมิสไซล์ต่อต้านรถถังบีจีเอ็ม-71 ทอว์มูน-1 ฮัมวีโรเวอร์ของสถาบันมาส์รอการขนส่งทางอากาศโดยซี-130 ที่เคมบริดจ์เบย์ ประเทศแคนาดาในปี ค.ศ. 2009

•  อัฟกานิสถาน – ประเทศอัฟกานิสถานได้สั่งซื้อเพิ่มอีก 3,334 คันในปี ค.ศ. 2010 และปี ค.ศ. 2011 สำหรับตำรวจแห่งชาติ, กองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติ และในทางทหารอื่น ๆ[9] ส่วนยานพาหนะเอ็ม1114 จำนวน 950 คันได้ส่งมอบให้กับกองทัพภายในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012[10]
•  แอลเบเนีย – 248 คันในการสั่งซื้อ และของขวัญโดยสหรัฐ[11][12]
•  อาร์เจนตินา – กว่า 400 คันในกองทัพอาร์เจนตินา[13]
•  อาเซอร์ไบจาน – กว่า 100 คันใช้โดยกองทัพอาเซอร์ไบจานและกองกำลังรักษาสันติภาพ[14]
•  บาห์เรน – ยานพาหนะที่ขายภายใต้โครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
•  โบลิเวีย[13]
•  บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา – 25 คันในปี ค.ศ. 2010[15] และ 44 คันบริจาคโดยสหรัฐในปี ค.ศ. 2017[16]
•  บัลแกเรีย – 52 คัน ได้แก่รุ่นเอ็ม1114 จำนวน 50 คันเป็นรถหุ้มเกราะ และอีก 2 คันเป็นรถพยาบาล[17]
•  แคนาดา – เอ็ม1113 และเอ็ม1117 จำนวนน้อยในการใช้โดยกองกำลังเฉพาะกิจร่วม 2 (JTF-2) และกรมปฏิบัติการพิเศษ (CSOR)[18] ใช้ในประเทศอัฟกานิสถาน[19]
•  ชาด – ยานพาหนะที่ขายภายใต้โครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
•  ชิลี[13] – 565 คันในกองทัพบกชิลี และ 100 คันในเหล่านาวิกโยธินชิลี
•  โคลอมเบีย[13]
•  เช็กเกีย – กลุ่มกองกำลังพิเศษที่ 601 โดยส่วนใหญ่[20]
•  สาธารณรัฐโดมินิกัน
•  เดนมาร์ก – 30 คัน[21]
•  จิบูตี – ยานพาหนะที่ขายภายใต้โครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13] พวกเขาได้ใช้ทำศึกในคริสต์ทศวรรษ 1990 ในช่วงการกบฏแนวรบเพื่อการฟื้นฟูเอกภาพและประชาธิปไตย[22]
•  เอกวาดอร์[13]
•  อียิปต์[13]
•  เอธิโอเปีย – ยานพาหนะฮัมวี 2,100 คันที่ขายภายใต้โครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
•  จอร์เจีย[23][24]
•  ฮอนดูรัส – ยานพาหนะที่ได้รับการจัดหาผ่านโครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
•  อิรัก – ในช่วงสงครามอิรัก มีการมอบฮัมวีของกองทัพสหรัฐจากคลังแสงแก่กองกำลังรักษาความปลอดภัยอิรัก ประจำกองทัพอิรัก ซึ่งกองทัพอิรักมีฮัมวีมากกว่า 10,000 คัน[25] ทว่าบางส่วนของจำนวนเหล่านี้ถูกเข้ายึดโดยรัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์ในการจราจลปี ค.ศ. 2014[26][27][28][29]
•  อิสราเอล[30]
• รัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์ – 2,300 คัน[31]
• ไฟล์:Kata'ib Hezbollah flag.svg คาตาอิบฮิซบุลลอฮ์[32]
•  คาซัคสถาน[33]
•  เคนยา – ยานพาหนะหลายคันได้รับการใช้งานโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัย[34]
•  คอซอวอ – มีการส่งมอบยานพาหนะ 24 คันในวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 2018 และมีคำสั่งซื้อ 27 คัน[35]
•  คูเวต – ยานพาหนะที่ขายผ่านโครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
•  เลบานอน – กว่า 1,300 คัน[36]
• ลิเบีย – 200 คันบริจาคโดยกองทัพสหรัฐในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2013[37]
•  ลิทัวเนีย – 200 คัน[38]
•  โมร็อกโก – โมร็อกโกมียานพาหนะกว่า 4,000 คันในกองทัพบกโมร็อกโก โดยบางส่วนได้ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังบีจีเอ็ม-71 ทอว์[ต้องการอ้างอิง]
•  นอร์ทมาซิโดเนีย – 10 ถึง 90 คันได้รับการดัดแปลงแก้ไขที่ยูโรคอมโพซิต ติดอาวุธด้วยปืนกลหนักพีเค 7.62 x 54อาร์[ต้องการอ้างอิง]
•  มอลโดวา – 90 คัน[39]
•  เม็กซิโก – ยานพาหนะที่ขายผ่านโครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13] 3,000 คันในราชการ[40]
•  มอนเตเนโกร[41][ต้องการตรวจสอบความถูกต้องเนื้อหา]
•  นิวซีแลนด์ – ได้ยืมพาหนะสหรัฐในอัฟกานิสถานซึ่งได้รับการดัดแปลงแก้ไขโดยนิวซีแลนด์สเปเชียลแอร์เซอร์วิสและแทนที่ด้วยพินซ์เกาเออร์ ทางกองทัพใช้ยานพาหนะสหรัฐเป็นจำนวนน้อยทั้งฟรีและเช่าในอัฟกานิสถานจนถึงปี ค.ศ. 2013[42]
• โอมาน – ยานพาหนะที่ขายผ่านโครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
•  เปรู – 34 คัน (ประกอบด้วยเอ็ม-1151เอ1 จำนวน 12 คัน นำไปใช้ในประเทศเฮติในฐานะส่วนหนึ่งของการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ, เอ็ม-1165เอ1 ปฏิบัติการพิเศษจำนวน 22 คัน ดำเนินการโดยกองพันคอมมานโดที่ 19) และอาจมีการซื้อยานพาหนะเพิ่มอีก 100 คัน[43]
•  ฟิลิปปินส์[13]
•  โปแลนด์[ต้องการอ้างอิง]
•  โรมาเนีย – มีรุ่นเอ็ม1113/เอ็ม1114/เอ็ม1165/เอ็ม1151 จำนวน 322 คัน[ต้องการอ้างอิง]
•  รัสเซีย – มียานพาหนะเหล่านาวิกโยธินสหรัฐจำนวนจำกัดซึ่งประจำการอยู่ที่ท่าเรือโปติของจอร์เจีย และกำลังรอการจัดส่งไปยังสหรัฐ ทว่าถูกชิงไปโดยกองทัพรัสเซีย[44]
•  ซาอุดีอาระเบีย – ยานพาหนะที่ขายแก่ซาอุดีอาระเบียโดยสหรัฐภายใต้โครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
•  เซเนกัล – ยานพาหนะ 23 คันที่บริจาคโดยสหรัฐดำเนินการเมื่อปี ค.ศ. 2017[45][46]
•  สเปน – 123 คัน ใช้โดยทหารราบนาวีสเปน[47] และหน่วยดูแลป้องกันพลเรือนเท่านั้น ส่วนกองทัพบกสเปน, กองทัพอากาศสเปน และกรมตำรวจแห่งชาติสเปน ใช้อูโร บัมตัก ซึ่งเป็นยานพาหนะที่คล้ายกัน ผลิตในประเทศสเปน
•  เซอร์เบีย – 40 คัน ประกอบด้วยแบบไม่หุ้มเกราะ 17 คัน และหุ้มเกราะ 4 คัน บริจาคให้แก่กองทัพเซอร์เบียโดยรัฐบาลสหรัฐในปี ค.ศ. 2013 และอีก 19 คันบริจาคในปี ค.ศ. 2017[48][49]
•  สโลวีเนีย – กองทัพสโลวีเนียใช้ฮัมวีเป็นรถสายตรวจ
•  ซูดาน – ยานพาหนะที่ขายโดยสหรัฐภายใต้โครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
• ซีเรีย – ถูกเข้ายึดโดยรัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์[ต้องการอ้างอิง]
•  ไต้หวัน – ยานพาหนะที่ขายผ่านโครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13] มากกว่า 7,000 คัน[50]
•  แทนซาเนีย – ยานพาหนะที่ขายโดยสหรัฐภายใต้โครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
•  ไทย – กองทัพบกไทย (เอ็ม998, เอ็ม1038เอ1, เอ็ม1097เอ1, เอ็ม1037, เอ็ม1042, เอ็ม1025, เอ็ม1026เอ1, เอ็ม966, เอ็ม997, เอ็ม997เอ2)[ต้องการอ้างอิง]
•  ตรินิแดดและโตเบโก – ตงเฟิง อีคิว2050 มากกว่า 6 คัน[51]
•  ตูนิเซีย – 52 คันบริจาคโดยสหรัฐในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2015 และบางส่วนขายผ่านโครงการการขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ[13]
•  ยูเครน – ประมาณ 110 คัน (ตั้งแต่ ค.ศ. 2001) ที่กองพลโจมตีทางอากาศที่ 95[52] และบริจาค 10 คันให้แก่กองกำลังสันติภาพโปแลนด์–ยูเครน (POLUKRBAT) นอกจากนี้ รายงานบอกว่าหลังจากมีผู้ก่อความไม่สงบในยุทธการที่เดบอลท์เซฟ ได้มีการขับในยานพาหนะที่ 'เหมือนฮัมวี'[53][54]
•  สหรัฐ – 230,000 คัน[55]
•  ยูกันดา[13]
•  เยเมน – กว่า 100 คันใช้งานโดยกองทัพแห่งชาติเยเมนเพื่อต่อสู้กับกลุ่มฮูษี มีไม่กี่คันที่ใช้งานโดยกลุ่มฮูษีซึ่งถูกเข้ายึดจากฐานกองกำลังพิเศษเยเมนในซานา[ต้องการอ้างอิง]

การขายพลเรือน

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2014 กระทรวงกลาโหมเริ่มทำการประมูลฮัมวีมือสองประมาณ 4,000 คันออกสู่สาธารณะ ในขณะที่บางส่วนได้รับการโอนไปยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในประเทศ นี่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้ยานพาหนะทางทหารสำหรับเจ้าของที่เป็นพลเรือน แนวคิดคือการขายพวกเขาด้วยการเสนอราคาเริ่มต้นที่ 10,000 ดอลลาร์ต่อคัน สำหรับการใช้งานออฟโรดเท่านั้น แทนที่จะทิ้งพวกมันไว้ในฐานะวิธีในการประหยัดเงินและนำกลับมาใช้ใหม่ มีฮัมวีรุ่นเอ็ม998, เอ็ม998เอ1, เอ็ม1038 และเอ็ม1038เอ1 จำหน่ายแล้ว ซึ่งไม่ได้ใช้ในราชการทหารสหรัฐและไม่มีเกราะ เอเอ็ม เจเนอรัล ถูกคัดค้านการขายฮัมวีทางทหารให้แก่ประชาชนทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นเพราะยานพาหนะของรัฐบาลที่มากเกินไปจะลดยอดขายที่เกี่ยวข้องกับโมเดลฮัมเมอร์พลเรือน ซึ่งการผลิตสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 2010[56] ยอดขายครั้งแรกจากการประมูลเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สำหรับ 25 คันของฮัมวี ราคาเสนออยู่ที่ 21,500 ดอลลาร์สำหรับเอ็ม1038 ปี ค.ศ. 1989 ถึง 41,000 ดอลลาร์สำหรับเอเอ็ม เจเนอรัล เอ็ม998เอ1 ปี ค.ศ. 1994 การเสนอราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์ และการขายยานพาหนะ 25 คันรวมเป็นเงินสุทธิ 744,000 ดอลลาร์[57] ทั้งนี้ โกฟแพลนเน็ตได้ทำสัญญาและขายฮัมวีในการประมูลรายสัปดาห์[58]