ฮายาโอะ มิยาซากิ (
ญี่ปุ่น: 宮崎 駿
โรมาจิ:
Miyazaki Hayao; เกิด 5 มกราคม พ.ศ. 2484) เป็นนักวาดมังงะ ผู้กำกับ และผู้สร้างอนิเมะชาวญี่ปุ่น ที่มีผลงานที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง จากการคร่ำหวอดในวิชาชีพเป็นเวลาราวห้าทศวรรษ มิยาซากิได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นผู้สร้างภาพยนตร์อนิเมะ ร่วมกับ
อิซาโอะ ทาคาฮาตะ ผู้ร่วมก่อตั้ง
สตูดิโอจิบลิ ความสำเร็จของภาพยนตร์เหล่านี้ทำให้เขาได้รับการเปรียบเทียบกับ
วอลต์ ดิสนีย์ ซึ่งเป็นผู้สร้างแอนิเมชันชาวอเมริกัน กับ
นิค พาร์ค ซึ่งเป็นผู้สร้างแอนิเมชันชาวอังกฤษ รวมถึง
โรเบิร์ต เซเม็กคิส ผู้บุกเบิกการสร้างแอนิเมชัน
นิตยสารไทม์ ยกย่องว่าเขาเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่ง
[1][2]มิยาซากิเริ่มทำงานที่
โตเอแอนิเมชัน ในตำแหน่งศิลปินคนกลาง ในการสร้างภาพยนตร์
Gulliver's Travels Beyond the Moon เขาได้เสนอความคิดที่เป็นฉากจบของเรื่องได้ในที่สุด มิยาซากิทำงานในหลายหน้าที่ในวงการอนิเมะชันราวสิบปีจนกระทั่งได้มีผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกคือ
จอมโจรลูแปงที่ 3 ตอนปราสาทของคาริออสโตร ซึ่งเผยแพร่ใน พ.ศ. 2522 หลังจากความสำเร็จในภาพยนตร์เรื่องที่สอง
มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม เขาจึงร่วมก่อตั้ง
สตูดิโอจิบลิ ซึ่งก็ได้ผลิตผลงานภาพยนตร์ของเขาออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเรื่อง
โมะโนะโนะเกะฮิเมะ (Princess Mononoke) มิยาซากิจึงเกษียณอายุงานตัวเองไปชั่วคราว หลังจากการพักช่วงสั้น ๆ มิยาซากิก็กลับมากำกับภาพยนตร์เรื่อง
เซ็น โทะ ชิฮิโระ โนะ คะมิกะกุชิ (Spirited Away) และผลิตภาพยนตร์ออกมาอีกอย่างต่อเนื่องขณะที่ภาพยนตร์ของมิยาซากิประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ในญี่ปุ่นเป็นเวลายาวนาน เขาไม่เป็นที่รู้จักมากนักในโลกตะวันตกจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2540
มิราแมกซ์ได้เผยแพร่ภาพยนตร์เรื่องโมะโนะโนะเกะฮิเมะของเขาออกไป โมะโนะโนะเกะฮิเมะเคยเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดในญี่ปุ่นแห่ง พ.ศ. 2540 จนกระทั่งไททานิคมาทำลายสถิติลง โมะโนะโนะเกะฮิเมะยังเป็นภาพยนตร์อนิเมะเรื่องแรกที่ได้รับรางวัล Picture of the Year จาก
เจแปนีส-อคาเดมีอะวอร์ด Spirited Away ภาพยนตร์เรื่องถัดไปของเขาทำลายสถิติรายได้ของไททานิคในญี่ปุ่นลง และกวาดรางวัล พิกเจอร์ออฟเดอะเยียร์ จาก เจแปน-อคาเดมี่อะวอร์ด และเป็นภาพยนตร์อนิเมะเรื่องแรกที่ได้รับ
รางวัลออสการ์ มิยาซากิยังมีผลงานภาพยนตร์อีกหลายเรื่องที่ได้รับการเสนอชื่อและได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมายภาพยนตร์ของมิยาซากิมักจะมีแก่นเรื่องที่คล้ายคลึงกัน เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติและเทคโนโลยี หรือ ความยากลำบากในการดำรงไว้ซึ่งจริยธรรม
สันตินิยม ตัวละครเอกของเรื่องมักจะเป็นเด็กหญิงที่ห้าวหาญและเป็นอิสระ สะท้อนถึงความคิด
สตรีนิยมของมิยาซากิ แนวคิดสังคมนิยมของมิยาซากิยังสะท้อนออกมาในภาพยนตร์ของเขาด้วย โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่องแรก ๆ มิยาซากิเป็นคนที่วิพากษ์
ทุนนิยมและ
โลกาภิวัตน์อย่างเปิดเผยซึ่งอาจสังเกตได้จากงานภาพยนตร์ของเขาเช่นกัน
[3] ในขณะที่ภาพยนตร์สองเรื่องของเขา
จอมโจรลูแปงที่ 3 ตอนปราสาทของคาริออสโตร และ
ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา นำเสนอ
ตัวร้ายตามแบบฉบับทั่วไป ภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของเขา เช่น
มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม หรือ
Princess Mononoke มิได้นำเสนอตัวร้ายที่เลวร้ายอย่างชัดแจ้ง หากแต่มีข้อดีข้อเสียที่หักล้างกันไป