นักบุญเปาโลอัครทูต (
อังกฤษ: St. Paul the Apostle) หรือ
นักบุญเปาโลแห่งทาร์ซัส (
อังกฤษ: St. Paul of Tarsus;
อิตาลี: San Paolo di Tarso) หรือ
นักบุญเปาโล มาจาก
ภาษากรีก “Šaʾul HaTarsi” หมายถึง “เซาโลแห่งทาร์ซัส” มาจาก “Σαουλ” “Saul” หรือ “Σαῦλος” “Saulos” หรือ “Παῦλος” “Paulos”
[1]เป็น “อัครทูตถึงชนต่างชาติ”
[2] (Apostle to the Gentiles) พร้อมกับ
นักบุญเปโตรและนักบุญ
ยากอบผู้ชอบธรรม (James the Just)
[3], เป็น
มิชชันนารีที่สำคัญที่สุดใน
ศาสนาคริสต์ยุคแรก แต่ไม่เคยพบ
พระเยซูดังเช่น
อัครทูตท่านอื่น ๆ ไม่มีหลักฐานใดที่กล่าวว่านักบุญเปาโลเคยพบพระองค์ด้วยตนเองก่อนที่จะถูกตรึงกางเขน
[4]ตามที่กล่าวใน “
กิจการของอัครทูต” นักบุญเปาโลมานับถือศาสนาคริสต์ระหว่างที่เดินทางไป
ดามัสกัส จากการที่ได้เห็นพระเยซูผู้ฟื้นคืนพระชนม์
[5] นักบุญเปาโลกล่าวว่าท่านมิได้รับพระวจนะจากมนุษย์แต่ได้รับจากพระเยซูโดยตรง
[6]กล่าวกันว่า
พันธสัญญาใหม่สิบสี่บทหรือที่เรียกว่า
จดหมายของนักบุญเปาโล เขียนโดยท่านเอง แต่ใครเป็นผู้เขียนจริงก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ นักบุญเปาโลมักจะบอกให้ช่างเขียน (
amanuensis) เขียน นาน ๆ จึงเขียนด้วยตนเอง
[7][8] การรับรองว่าข้อเขียนเป็นของแท้ ผู้เขียนจดหมาย
[9] มักจะใช้ย่อหน้าที่แสดงให้เห็นว่าเป็นลายมือของนักบุญเปาโลเอง จดหมายเหล่านี้ใช้เผยแพร่ในชุมชนผู้นับถือ
คริสต์ศาสนา จดหมายของนักบุญเปาโลเป็นเอกสารที่สำคัญใน
พันธสัญญาใหม่ และในที่สุดก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของ
กฎหมายศาสนจักร จดหมายของนักบุญเปาโลเชื่อกันว่าเป็นเอกสารฉบับแรกที่สุดของ
พันธสัญญาใหม่ปรัชญาความคิดเห็นของนักบุญเปาโลกี่ยวกับศาสนาคริสต์เป็นความคิดเห็นที่สำคัญกว่าความคิดอื่นใดของผู้มีส่วนเขียนพันธสัญญาใหม่
[10] อิทธิพลความคิดเห็นของนักบุญเปาโลอาจจะเห็นได้จากปรัชญาของ
นักบุญออกัสตินแห่งฮิปโปไปจนถึงความขัดแย้งระหว่างนักเทววิทยาก็อตสชอลค (Gottschalk) และฮิงมาร์แห่งรีมส์ (Hincmar of Reims) หรือ ระหว่าง ลัทธิทอมัสของ
นักบุญโทมัส อควีนาส กับลัทธิโมลินา (Molinism) ของลุยส์ โมลินา (Luis Molina) เป็นต้น