เม่นทะเล หรือ
หอยเม่น (
อังกฤษ: sea urchin) เป็นสัตว์ที่มีทรงกลม (globular animal) และมักมีหนาม เป็นสัตว์ในไฟลัม
อิคีเนอเดอร์เมอเทอ อยู่ในชั้น
เอไคนอยเดีย (Echinoidea) สัตว์ในชั้นเอไคนอยเดีย เรียกว่า
เอไคนอยด์ มีราว 950 สปีชีส์อาศัยอยู่ตามพื้นทะเล ในทุกมหาสมุทรตั้งแต่ชายฝั่งจนถึงระดับความลึก 5,000 เมตร (16,000 ฟุต; 2,700 ฟาร์ธอม) เปลือกนอกมีลักษณะแข็ง กลม และมีหนาม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลำตัวตั้งแต่ 3 ซม. ถึง 10 ซม. เม่นทะเลเคลื่อนที่ได้อย่างช้า ๆ ด้วยขาท่อ (tube feet) และบางครั้งยังเคลื่อนที่ด้วยหนาม อาหารหลักของเม่นทะเลคือสาหร่ายต่าง ๆ แต่ก็กินสัตว์ที่เคลื่อนที่ช้าหรืออยู่กับที่ด้วย นักล่าที่กินเม่นทะเลเป็นอาหารได้แก่
นากทะเล,
ดาวทะเล, ปลาไหลหมาป่า (wolf eels),
ปลาวัว และ
มนุษย์เช่นเดียวกับเอไคโนเดิร์มอื่น ๆ เม่นทะเลจะมีลักษณะลำตัวสมมาตรห้าชั้น (fivefold symmetry) เมื่อโตเต็มที่ แต่ตัวอ่อนมีลักษณะสมมาตร 2 ด้าน (bilateral symmetry) แสดงถึงการเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีร่างกายแบบ
ไบลาทีเรีย กลุ่มของสิ่งมีชีวิตในไฟลัมขนาดใหญ่อันประกอบไปด้วยไฟลัม
สัตว์มีแกนสันหลัง,
สัตว์ขาปล้อง,
สัตว์พวกหนอนปล้อง และ
มอลลัสกา ซึ่งมีแหล่งอาศัยอยู่ในทุกมหาสมุทรตั้งแต่แถบ
เส้นศูนย์สูตรถึงขั้วโลก อาศัยอยู่บนพื้นมหาสมุทรตั้งแต่ชายฝั่งถึงก้นมหาสมุทร ฟอสซิสของเอไคนอยถูกค้นพบย้อนกลับไปถึง
ยุคออร์โดวิเชียน (450 ล้านปีที่แล้ว) มีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกับสัตว์ในกลุ่มเอไคโนเดิร์มด้วยกันคือ
ปลิงทะเล โดยทั้งคู่จัดเป็นสัตว์ประเภท deuterostomes (ปากกับทวารอยู่คนละด้าน) จัดว่ามีบรรพบุรุษร่วมกันกับ
สัตว์มีแกนสันหลังเม่นทะเลถูกศึกษามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยใช้เป็น
สิ่งมีชีวิตตัวแบบในสาขาวิชา
ชีววิทยาการเจริญ เนื่องจากตัวอ่อนของเม่นทะเลง่ายต่อการสังเกตการณ์ และมีการศึกษา
จีโนมของลักษณะลำตัวสมมาตรห้าชั้น (fivefold symmetry) และความสัมพันธ์กับ
สัตว์มีแกนสันหลัง เม่นทะเลหนามดินสอเป็นที่นิยมในวงการปลาทะเลสวยงามเนื่องจากความสามารถในการควบคุมปริมาณ
สาหร่าย ฟอสซิสของเม่นทะเลยังใช้ทำ
เครื่องรางป้องกันภัยด้วย