บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
เยรูซาเลม (
อังกฤษ: Jerusalem),
เยรูชาลายิม (
ฮีบรู: יְרוּשָׁלַיִם) หรือ
อัลกุดส์ (
อาหรับ: القُدس) เป็นเมืองใน
ตะวันออกกลาง ตั้งอยู่บนที่ราบของภูเขายูดาห์ ระหว่าง
ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับ
ทะเลเดดซี เยรูซาเลมเป็นเมืองที่
พระยาห์เวห์ทรงเลือกสรรไว้ให้เป็นป้อมแห่งความเชื่อถึงพระเป็นเจ้าแต่เพียงองค์เดียว
ประเทศอิสราเอลและ
รัฐปาเลสไตน์ต่างอ้างสิทธิเหนือเยรูซาเลมว่าเป็นเมืองหลวงของตน อย่างไรก็ตาม การกล่าวอ้างของทั้งสองฝ่ายไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติเยรูซาเลมถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยได้รับการกล่าวถึงในชื่อ "อูรูซาลิมา" ในแผ่นศิลาจารึกของ
เมโสโปเตเมีย ซึ่งมีความหมายว่า "นครแห่งชาลิม" อันเป็นนามของพระเจ้าในแผ่นดิน
คานาอันเมื่อราว 2,400 ปีก่อนคริสตกาล และเมื่อมาถึงยุคของ
วงศ์วานอิสราเอล การก่อร่างสร้างเมืองเยรูซาเลมอย่างจริงจังก็ได้เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสตกาล (
ยุคเหล็กช่วงปลาย) และในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล เยรูซาเลมก็ได้เป็นศูนย์กลางการปกครองและทางศาสนาของ
อาณาจักรยูดาห์[6] ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของเยรูซาเลม นครแห่งนี้ได้ถูกทำลายไปอย่างน้อย 2 ครั้ง, ถูกปิดล้อม 23 ครั้ง, ถูกโจมตี 52 ครั้ง, ถูกยึดและเอาคืน 44 ครั้ง
[7] มีส่วนหนึ่งของเยรูซาเลมที่เรียกว่า "เมืองดาวิด" ปรากฏการตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สี่พันปีก่อนคริสตกาล กำแพงเมืองเยรูซาเลมซึ่งยังคงตั้งตะหง่านจนถึงปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1538 ในรัชกาล
สุลัยมานผู้เกรียงไกร พื้นที่ภายในกำแพงเรียกว่าย่านเมืองเก่า ซึ่งแบ่งออกเป็นสี่เขตด้วยกันได้แก่ เขตอาร์มีเนีย, เขตยิว, เขตคริสเตียน และเขตมุสลิม
[8] ย่านเมืองเก่านี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น
มรดกโลกโดย
ยูเนสโกในปีค.ศ. 1981 และยังเป็นหนึ่งใน
มรดกโลกที่กำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย[9]เยรูซาเลมได้รับขนานนามว่าเป็น "นครศักดิ์สิทธิ์" ของศาสนาทั้งสามใน
กลุ่มศาสนาอับราฮัมอันได้แก่
ศาสนายูดาห์,
ศาสนาคริสต์ และ
ศาสนาอิสลาม ซึ่งใน
คัมภีร์ไบเบิลระบุว่า เมื่อกษัตริย์
ดาวิดได้พิชิตเยรูซาเลมมาจากพวกเยบุสแล้ว ก็ทรงสถาปนาเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอิสราเอล-ยูดาห์ กษัตริย์
ซาโลมอน พระโอรสของกษัตริย์ดาวิด ได้ทรงสร้าง
พระวิหารแรกขึ้นที่เมืองนี้ เหตุการณ์อันเกิดขึ้นในช่วงสหัสวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาลนี้ได้ถือเป็นศูนย์รวมเชิงสัญลักษณ์ทั้งมวลของ
ชาวยิว ความศักดิ์สิทธิ์ของเยรูซาเลมในศาสนาคริสต์มีทั้งที่ปรากฏใน
พันธสัญญาเดิมฉบับแปลกรีก (หนังสือ Septuagint)
[10] ตลอดส่วนที่ถูกกล่าวถึงใน
พันธสัญญาใหม่ตอน
พระเยซูถูกตรึงกางเขน ในศาสนาอิสลามนิกาย
ซุนนีได้ถือว่าเยรูซาเลมเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเป็นลำดับสามรองจากนคร
มักกะฮ์และ
อัลมะดีนะฮ์[11] ในปีค.ศ. 610 เยรูซาเลมกลายเป็น
ชุมทิศแห่งแรกสำหรับการประกอบพิธี
ละหมาดของชาวมุสลิม
[12] และสิบปีหลังจากนั้น
มุฮัมมัดได้เดินทางมายังเมืองแห่งนี้เพื่อขึ้นสรวงสวรรค์ไปพบกับพระเจ้าตามได้บันทึกไว้ในคัมภีร์
อัลกุรอาน[13][14] ด้วยบันทึกทางประวัติศาสตร์นี้เองทำให้เมืองเก่าเยรูซาเลมซึ่งมีพื้นที่เพียง 0.9 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างอันมีความสำคัญทางศาสนามากมาย โดยเฉพาะบน
เนินพระวิหาร อันเป็นที่ตั้งของ
กำแพงประจิม,
โดมแห่งศิลา,
มัสยิดอัลอักศอปัจจุบัน สถานภาพของเยรูซาเลมยังเป็นประเด็นแกนกลางประเด็นหนึ่งในความขัดแย้งอิสราเอล–ปาเลสไตน์ ระหว่าง
สงครามอาหรับ–อิสราเอลปี 1948 เยรูซาเลมตะวันตกรวมอยู่ใบรรดาดินแดนที่ถูกอิสราเอลยึดและผนวกในภายหลังด้วย ส่วน
เยรูซาเลมตะวันออก รวมทั้งนครเก่า ถูก
จอร์แดนยึดและผนวกในภายหลัง ประเทศอิสราเอลยึดเยรูซาเลมตะวันออกจากจอร์แดนระหว่าง
สงครามหกวันปี 1967 แล้วผนวกเข้าเป็นเยรูซาเลมร่วมกับดินแดนแวดล้อมเพิ่มเติม กฎหมายเยรูซาเลมปี 1980 อันเป็นกฎหมายหลักพื้นฐานของอิสราเอลฉบับหนึ่ง อ้างถึงเยรูซาเลมว่าเป็นเมืองหลวงอันแบ่งแยกมิได้ของประเทศ อำนาจทั้งสามฝ่ายของรัฐบาลอิสราเอลตั้งอยู่ในเยรูซาเลม รวมทั้งนัสเซต (รัฐสภาอิสราเอล) ทำเนียบนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดี และศาลสูงสุด ทว่า ประชาคมนานาชาติปฏิเสธการผนวกดังกล่าวว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและถือว่าเยรูซาเลมตะวันออกเป็นดินแดนของปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง อิสราเอลมีการอ้างสิทธิ์อธิปไตยที่เข้มแข็งกว่าเหนือเยรูซาเลมตะวันตก ประชาคมนานาชาติ นอกเหนือจากสหรัฐและสาธารณรัฐเช็ก ไม่รับรองเยรูซาเลมว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศอิสราเอล และนับแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 นครดังกล่าวไม่มีสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศ แม้มีการออกคำสั่งประธานาธิบดีในสหรัฐให้ย้ายสถานเอกอัครราชทูตไปเยรูซาเลม เยรูซาเลมยังเป็นที่ตั้งของสถาบันนอกภาครัฐของอิสราเอลที่มีความสำคัญด้วย เช่น
มหาวิทยาลัยฮีบรู และ
พิพิธภัณฑ์อิสราเอล พร้อมทั้ง
อาคารแห่งหนังสือ