โดโลไมต์
โดโลไมต์

โดโลไมต์

โดโลไมต์ (อังกฤษ: dolomite) เป็นชื่อแร่ ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่นักเคมีชาวฝรั่งเศส Déodat Gratet de Dolomieu (พ.ศ. 2293-2344)รูปผลึกแบบหกเหลี่ยม[ต้องการอ้างอิง] ผลึกของแร่มักจะพบในรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ผิวหน้าผลึกมักจะโค้ง บางครั้งจะโค้งเป็นรูปคล้ายอานม้า ผลึกในแบบอื่นมีพบได้บ้างแต่น้อย ซึ่งอาจพบเป็นเม็ดหยาบๆ ไปจนกระทั่งเม็ดเล็กเกาะกันแน่น แข็ง 3.5-4 ถ.พ. 2.85 วาวคล้ายแก้ว บางชนิดวาวคล้ายมุก (Pearl Spar) สีปกติมักจะมีสีออกชมพู สีเนื้อ อาจไม่มีสีหรือพบสีขาว เทา เขียว น้ำตาล หรือสีดำ เนื้อแร่มีทั้งโปร่งใสและโปร่งแสงมีสูตรเคมี CaMg (CO3) 2 มี CaO 30.4 % MgO 21.7% และ CO2 47.9% โดยปกติโดโลไมต์มีสัดส่วนของ CaCO3 ต่อ MgCO3 ประมาณ 1:1 ถ้ามี Ferrous iron เข้ามาแทนที่แมกนีเซียมและปริมาณมากกว่าแมกนีเซียมแล้วจะเรียก แองเคอไรต์ (Ankerite)ลักษณะเด่นและวิธีตรวจ ทำปฏิกิริยากับกรดเกลือ (HCl) แต่ช้ามาในอุณหภูมิธรรมดา นอกจากจะบดเนื่อแร่ให้เป็นก้อนเล็กๆ ละเอียด จึงละลายในกรดเป็นฟองฟู่ หากไม่บดต้องใช้กรดไฮโดรคลอริกร้อนๆจึงจะทำปฏิกิริยาเป็นฟองฟู่ รูปผลึกเหลี่ยมขนมเปียกปูนมักจะโค้งและมีสึออกสีเนื้อๆเนื้อปกติมักจะด้านมีกำเนิดเช่นเดียวกับแคลไซต์ พบในหินปูนโดโลมิติก (Dolomitic limestone) หรือในหินอ่อนโดโลมิติก (Dolomitic marble) โดโลไมต์ที่พบมีมวลขนาดใหญ่ๆนั้น เข้าใจกันว่าเป็นการกำเนิดแบบทุติยภูมิ ซึ่งเกิดจากหินปูนที่มีอยู่เดิมถูกแทนที่ด้วยธาตุแมกนีเซียม หรือมักเกิดเป็นเพื่อนแร่ในสายตะกั่วหรือสังกะสีซึ่งตัดผ่านหินปูน

โดโลไมต์

ค่าความแข็ง 3.5-4
ค่าแสงหักเหสองแนว δ = 0.179–0.181
ความวาว ใสถึงขุ่นเหมือนมุก
ประเภท Carbonate mineral
โครงสร้างผลึก trigonal - rhombohedral, bar3
การเกิดผลึกแฝด พบได้บ่อย เช่นเดียวกับ simple contact twins
คุณสมบัติอื่น อาจเรืองแสงเป็นสีขาวถึงชมพูภายใต้รังสี UV; triboluminescent.
สี ขาว เทา ถึงชมพู
ดรรชนีหักเห nω = 1.679–1.681 nε = 1.500
รอยแตก เปราะ - conchoidal
รูปแบบผลึก tabular crystals, often with curved faces, also columnar, stalactitic, granular, massive.
สูตรเคมี CaMg (CO3) 2
สีผงละเอียด ขาว
สภาพละลายได้ ละลายได้น้ยใน HCl เว้นแต่จะบดเป็นผง
คุณสมบัติทางแสง Uniaxial (-)
แนวแตกเรียบ rhombohedral cleavage (3 planes)
ความถ่วงจำเพาะ 2.84–2.86