โรคกรดไหลย้อนขึ้นมาที่คอและกล่องเสียง หรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า
โรค LPR[1](
อังกฤษ: laryngopharyngeal reflux, LPR) หรือ
โรคกรดไหลย้อนออกนอกหลอดอาหาร (
อังกฤษ: extraesophageal reflux disease, EERD)
[2] หรือ
กรดไหลย้อนเงียบ (
อังกฤษ: silent reflux)
[3]หรือ
กรดไหลย้อนออกเหนือหลอดอาหาร (
อังกฤษ: supra-esophageal reflux)
[4]เป็นการไหลย้อนของน้ำกรดน้ำย่อยของ
กระเพาะอาหารซึ่งมีฤทธิ์ระคายเคืองขึ้นไปถึง
กล่องเสียงและ
คอหอยโดยไปกระทบกับทางเดินอาหาร-ลมหายใจส่วนบน
[1][5]ซึ่งเป็นเหตุของอาการต่าง ๆ เช่น
ไอและหายใจเสียงหวีด
[6]โดยบ่อยครั้งสัมพันธ์กับปัญหาอื่น ๆ ที่
ศีรษะและ
คอ เช่น ออกเสียงลำบาก
เหมือนมีก้อนในลำคอ กลืนลำบาก[7]โรคอาจมีบทบาทในความผิดปกติอื่น ๆ รวมทั้ง
โพรงอากาศอักเสบ,
หูชั้นกลางอักเสบ,
เยื่อจมูกอักเสบ[7],กล่องเสียงอักเสบเหตุกรดไหลย้อน, ช่องหว่างสายเสียงตีบ, มะเร็งกล่องเสียง, แกรนูโลมากล่องเสียง, แผลเปื่อยกล่องเสียง, ปุ่มที่สายเสียง
[5],กล่องเสียงกระตุก,
การหยุดหายใจขณะหลับเหตุอุดกั้น (OSA), โรคหลอดลมพอง, และเยื่อจมูกและโพรงอากาศอักเสบ
[8]โรคอาจเกิดร่วมกับ
โรคหืด[6]ปัจจัยเสี่ยงของโรครวมทั้งเป็น
โรคกรดไหลย้อนในหลอดอาหารแบบเรื้อรังหรือแบบมีแผล (ERD), มีเยื่อบุผิวเสี่ยงมะเร็งในหลอดอาหารแบบ
Barrett's esophagus,
กระเพาะอาหารเลื่อนผ่าน
กะบังลม (hiatus hernia),
โรคหืด,
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง,
การหยุดหายใจขณะหลับเหตุอุดกั้น (OSA),
โรคอ้วน,
การสูบบุหรี่, การดื่ม
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้น
[9]อาการเหนือหลอดอาหารมาจากทางเดินลมหายใจ-ทางเดินอาหารส่วนบนซึ่งถูกกับสิ่งที่ไหลย้อนมาจากกระเพาะอาหาร หรือเป็นการตอบสนองทาง
รีเฟล็กซ์เนื่องกับเส้นประสาทเวกัสที่จุดชนวนโดยกรดที่ถูกหลอดอาหาร
[10]โดยสิ่งที่อยู่ในกระเพาะอาหารสามารถไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดอาหารได้อาจเป็นเพราะหูรูด
หลอดอาหารด้านล่างปิดได้ไม่ดี คือคลายตัวบ่อยเกิน บวกกับหูรูดหลอดอาหารด้านบนและหลอดอาหารที่บีบตัวอย่างบกพร่อง
[11]คนไข้โรคนี้อาจต้องทุกข์ทรมานอยู่กับโรคนานเพราะวินิจฉัยได้ยาก เนื่องจากอาการต่าง ๆ ของโรคอาจมีสมุฏฐานอื่น ๆ รวมทั้ง
การติดเชื้อ การใช้เสียงเกิน
ภูมิแพ้ การสูบบุหรี่ การสูดสิ่งที่ทำให้ระคายเคือง การดื่ม
สุราจัด และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่ไม่ใช่โรค
[5]นอกจากการสอบอาการแล้ว แพทย์อาจ
วินิจฉัยโรคโดยการลองรักษาด้วยยา การส่องกล้อง และการวัดความเป็นกรดด่างของหลอดอาหาร แต่สิ่งที่พบด้วยวิธีการตรวจเหล่านี้ บ่อยครั้งไม่ชัดเจนพอให้กำหนดได้ว่า เป็นโรคนี้หรือเป็นโรคอื่นการรักษาปกติคือให้เปลี่ยน
รูปแบบการดำเนินชีวิต การใช้
ยายับยั้งการหลั่งกรด หรือบางครั้ง
การผ่าตัดการเปลี่ยนวิถีชีวิตอาจรวมไม่
นอนในระยะ 2-3 ชม. หลัง
ทานอาหาร, ลด
น้ำหนัก, เลี่ยง
อาหารบางประเภท,
เลิกสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่โรครายงานว่า มีผลต่อประชากร
สหรัฐและยุโรประหว่าง 7-30%
[1]แพทย์หูคอจมูกตรวจคนไข้โรคนี้เพิ่มขึ้นถึง 500% ระหว่างปี 1990-2001และเกิดกับบุคคลที่ออกเสียงลำบากถึง 50%
[5][12]โรคที่ไม่ได้รักษาอาจเกิดอาการเรื้อรัง เกิดภาวะแทรกซ้อน ทำให้คุณภาพชีวิตด้านสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจแย่ลง ทำให้ต้องไปหาแพทย์บ่อย ๆ ทำให้สังคมโดยรวมมีภาระค่าใช้จ่ายสูง และมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและบุคลิกภาพของคนไข้อย่างสำคัญ
[1]แม้ชื่อโรคอาจใช้โดยแลกเปลี่ยนกับ
โรคกรดไหลย้อน (GERD) แต่ก็มีลักษณะของโรค/พยาธิสรีรวิทยา ที่ต่างกัน
[13]