เมนูนำทาง
สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ ประวัติของสโมสรสโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1882 โดยใช้ชื่อ ฮอตสเปอร์ เอฟซี มีสนามประจำสโมสรคือ ทอตนัม มาร์เชส แต่แล้วในปี ค.ศ. 1897 สนาม ทอตนัม มาร์เชส ได้ถูกระงับการใช้งานอย่างถาวร เนื่องจากเกิดปัญหาสงครามโลกขึ้น โดย ฮอตสเปอร์ เอฟซี ได้เช่าบริเวณย่านเมือง นอททัมเบอร์แลนด์ และขอเช่าสนาม นอททัมเบอร์แลนด์ พาร์ค เป็นเวลา 8 ปี ก่อนที่จะย้ายไปยังสนาม ไวต์ฮาร์ตเลน สนามประจำสโมสรในปัจจุบัน โดยสโมสรแห่งนี้เล่นในลีกทางใต้ของ ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้แชมป์ของลีกทางใต้ 1 สมัยในปี ค.ศ. 1900 จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1908 ฮอตสเปอร์ เอฟซี ได้ย้ายไปเล่นใน ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 2 ของ ประเทศอังกฤษ โดยก่อนหน้านั้น สเปอร์ได้แชมป์ เอฟเอคัพ ถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในการแข่งฟุตบอลใน ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1901 ทั้งที่ยังเป็นทีมสมัครเล่นอยู่ และในปี ค.ศ. 1908 สเปอร์ก็ได้รองแชมป์ ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 2 ซึ่งนักฟุตบอลชื่อดังของสเปอร์ในสมัยนั้นคือ อาเทอร์ กริมส์เดล กัปตันทีมของสเปอร์
แล้วหลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1949 ฮอตสเปอร์ เอฟซี ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ทอตนัมฮอตสเปอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และชื่อประจำเมืองในถิ่น ไวต์ฮาร์ตเลน โดยในช่วงนั้นมีผู้จัดการทีมชื่อ อาเทอร์ โรเวย์ ผู้จัดการทีมชาว อังกฤษ นำทีมสเปอร์ขึ้นมาเล่นใน ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 ของ ประเทศอังกฤษ ได้สำเร็จ โดยในช่วงเดียวกันนั้นสเปอร์ได้แชมป์ลีกดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 1950-51 และ หลังจากนั้นในฤดูกาล 1960-61 ในยุคของ บิล นิโคลสัน ตำนานของ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ได้กลับเข้ามาคุมทีมอีกครั้ง หลังจากยกเลิกการเล่นฟุตบอลไปแล้ว โดยเขาได้นำทีมสเปอร์เป็นรองแชมป์ดิวิชั่น 1 2 ครั้ง, แชมป์ เอฟเอคัพ 3 สมัย, ฟุตบอลลีกคัพ 1 สมัย, เอฟเอคอมมูนิตีชีลด์ 3 สมัย และ ในระดับบอลถ้วยยุโรปเขาก็นำทีมสเปอร์ เป็นแชมป์ ยูฟ่าคัพ (ยูโรป้า ลีก ในปัจจุบัน) 1 สมัย และ แชมป์ ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ซึ่งในช่วงยุคนั้นเป็นยุคที่สเปอร์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หลังจากยุคของ นิโคลสัน แล้วนั้น สเปอร์ก็ยังเล่นได้อยู่ในระดับที่มีความสามารถพอดี โดยสามารถสู้กับทีมใหญ่ๆได้ โดยในช่วงปี ค.ศ. 1981 และ ค.ศ. 1982 สเปอร์เป็นแชมป์ เอฟเอคัพ 2 สมัยติดกันในช่วงยุคของ คีธ เบอร์คินชอว์ และเขายังนำสเปอร์ได้แชมป์ ยูฟ่าคัพ ซึ่งเป็นแชมป์ 2 สมัย ของสโมสร
หลังจากยุคปี 2000 สเปอร์ก็ยังเล่นในลีก พรีเมียร์ลีก (ดิวิชั่น 1 เดิม) ได้อย่างมั่นคง และส่วนใหญ่มักจะอยู่ในอันดับต้นๆของตาราง ซึ่งส่วนมากจะจบในอันดับที่ 5 เป็นส่วนใหญ่ โดยมีผู้จัดการทีมหลายคนในช่วงนั้น ซึ่งมี เกล็น ฮอดเดิล, ฌัก ซ็องตีนี, มาร์ติน โยล โดยในยุคของมาร์ติน โยล สเปอร์มีโอกาสที่จะเข้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก แต่ก็ทำได้เพียงอันดับ 5 และในปี 2007 ได้มีการปลดมาร์ติน โยล ออกจากตำแหน่งเนื่องจากออกสตาร์ทฤดูกาลได้ย่ำแย่ทั้งที่ใช้เงินลงทุนมหาศาลรวมถึงการซื้อดาร์เรน เบนท์มาด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ซึ่งทำลายสถิติสโมสรหลังจากนั้นได้แต่งตั้งฆวนเด รามอส อดีตผู้จัดการทีมเซบิยาและในฤดูกาลนั้น สเปอร์ได้แชมป์ ฟุตบอลลีกคัพ ด้วยการชนะ สโมสรฟุตบอลเชลซี ไป 2-1 หลังต่อเวลาพิเศษ ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ในรอบ 9 ปี และ จบอันดับที่ 5 ได้ไปเล่น ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
ใน ฤดูกาล 2008-09 ซึ่งนัดแรกสเปอร์บุกไปแพ้ มิดเดิลสโบรไป 2-1 และ 7 นัดต่อมา ก็มาชนะครั้งแรกได้ในบ้านของตน ด้วยการอัดโบลตันไป 2-0 และต่อมาเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 2008 สเปอร์ได้ปลด ฆวนเต รามอส ออกจากผู้จัดการทีม และ แต่งตั้ง แฮร์รี เรดแนปป์ กุนซือชาวอังกฤษเป็นผู้จัดการทืม โดยการย้ายการคุมทีมมาจากพอร์ตสมัท แฮร์รี เรดแนปป์ ได้ดึงลูกทีมเก่าจากพอร์ตสมัทมาหลายคน อาทิ นิโก ครานชาร์, เจอร์เมน เดโฟ, ยูเนส คาบูล โดย 2 รายหลังนั้นเป็นการกลับมาทีมเก่า และยังดึงมิดฟิลด์พันธุ์ดุจากฮอนดูรัสอย่าง วิลสัน ปาลาซิออส มาจากวีแกนแอทเลติก และ ร็อบบี คีน จากลิเวอร์พูลมาเสริมความแกร่งของแนวรุกมากขึ้น รวมทั้ง ยืมตัว ไอเดอร์ กุดจอห์นเซน กองหน้าจาก โมนาโก ซึ่งเรดแนปป์นำทีมสเปอร์ไปสู่รอบรองชิงชนะเลิศ ฟุตบอลลีกคัพ กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้ แต่ก็ต้องพ่ายจุดโทษไป 4-1 (หลังเสมอ 0-0) และจบอันดับ 8 เมื่อขึ้นฤดูกาลใหม่ 2009-10 เรดแนปป์ได้เสริมนักเตะใหม่โดยการถึง ปีเตอร์ เคราช์ จากพอร์ทสมัท กับ ไคล์ วอล์กเกอร์ จากเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาเสริมความแกร่งและการรุกของสโมสรให้คมมากขึ้น เพื่อทดแทนการเสีย ดาเรน เบนท์ อดีตดาวซัลโวของสโมสรเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งนัดแรกเปิดบ้านเฉือนชนะลิเวอร์พูลไปได้ 2-1 และจบอันดับที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สเปอร์จบในอันดับทีได้ไปเล่นถ้วย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นับตั้งแต่ ฤดูกาล 1961-62
เรดแนปป์ นำสเปอร์ไปเล่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้ในปี ค.ศ. 2011 นับตั้งแต่ฤดูกาล 1961-62ฤดูกาล 2010-11 สเปอร์ได้ซื้อ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กองกลางจากเรอัลมาดริด และ ซานดรู ราเนียเร มิดฟิลด์แนวรุกชาวบราซิล มาเสริมทัพ โดยคราวนี้สเปอร์ได้ไปเล่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งในรอบเพลย์ออฟชนะ บีเอสซี ยอง บอยส์ ไป 6-3 (รวม 2 นัด) และทะลุเขาไปในรอบแบ่งกลุ่มโดยได้อยู่สายเดียวกับ อินเตอร์ มิลาน, ทเวนเต และ แวร์เดอร์ เบรเมน ซึ่งสเปอร์และอินเตอร์มิลาน ได้เป็นแชมป์และรองแชมป์กลุ่มตามลำดับ และต่อมาในรอบ 16 ทีม ได้ชนะ เอซี มิลาน ไป 1-0, รอบ 8 ทีมสุดท้ายแพ้ เรอัลมาดริด ไป 4-1 จึงตกรอบไป และต่อมาใน พรีเมียร์ลีก นัดแรกสเปอร์ได้เสมอแมนเชสเตอร์ซิตี ไป 0-0 และนัดถัดมาบุกไปเฉือนชนะสโตกซิตี ได้ 2-1 โดยดาวซัลโวของสโมสรในฤดูกาลนี้คือ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ที่ทำประตูได้ 15 ประตู และนำทีมจบในอับดับที่ 5 ไปเล่น ยูโรปาลีก
ผลงานในฤดูกาล 2011-12 จากการซื้อนักเตะที่มีประสิทธิภาพและความสามารถของแฮร์รี เรดแนปป์ ได้นำพาทีมสเปอส์คว้าพรีเมียร์ลีก อันดับที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งที่สองในการนำทีมสเปอร์จบอันดับ 4 ซึ่งจะมีโอกาสไปเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มากขึ้น
แต่แล้วการตัดสินใจในการเซ็นสัญญาฉบับใหม่ของเรดแนปป์ก็ไม่เข้าที่เข้าทางสักที แฮร์รี เรดแนปป์ จึงได้ลาออกจากสโมสร และต่อมาไม่ถึง 2 เดือน ทางคณะบอร์ดบริหารได้แต่งตั้ง อังเดร วิลลัช-โบอัช ผู้จัดการทีมชาว โปรตุเกส เป็นผู้จัดการทีม
เมนูนำทาง
สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ ประวัติของสโมสรใกล้เคียง
แหล่งที่มา
WikiPedia: สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ http://www.tottenhambrasil.com.br/ http://www.spurscanada.ca/ http://www.spurs.ch/ http://www.premierleague.com/page/tottenham-hotspu... http://www.skysports.com/football/teams/tottenhamh... http://www.spurshistory.com/index.html http://sport.teenee.com/manu/15240.html http://www.thejc.com/news/uk-news/111511/david-cam... http://www.tottenhamhotspur.com/ http://www.tottenhamhotspur.com/history/history_ho...