เมนูนำทาง
ยุทธนาวีที่ซามาร์ ลำดับเหตุการณ์เช้าตรู่ของวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ.1944 กองกำลังกลางญี่ปุ่นได้ปรากฏขึ้นนอกชายฝั่งเกาะซามาร์ประเทศฟิลิปปินส์ เวลา 6.35 น.กองกำลังกลางของญี่ปุ่นได้พบเสาเรือที่เส้นขอบฟ้า พวกเขาคาดว่าเรือที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้คือเรือส่วนหนึ่งของกองทัพเรือที่ 3 แต่พวกเขาเดาผิดถนัด แต่มันคือหน่วยปฏิบัติการเล็กของกองเรือที่ 7 ชื่อว่า"แทฟฟี 3" โดยมีเรือขนาดเล็กเพียงเพื่อสนับสนุนกองกำลังทางบกและสอดแนมเรือดำน้ำ เวลา 7.00 น.เรือประจัญบานยะมะโตะได้เปิดฉากยิงกองเรือย่อยแทฟฟี่3 พลเรือเอก ทาเคโอะ คูริตะ คิดว่าตนกำลังโจมตีกองทัพเรือที่ 3 จึงเร่งเรือเข้าประจัญบาน แต่เขากลับใจร้อนที่จะโจมตีกองทัพเรือที่ 3 ทำให้เรือของกองกำลังกลางกระจัดกระจายไปซึ่งเป็นความผิดพลาดกลยุทธ์ในการรบ ในขณะเดียวกัน พลเรือตรี คลิฟตัน ซิกกี้ สเปรค ผู้บังคับการกองเรือย่อยแทฟฟี 3 ได้รู้ว่าตนนั้นมีกำลังและอาวุธน้อยกว่า โดยให้เรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็ก 6 ลำอยู่ภายในวงคุ้มกันของเรือพิฆาต 3 ลำและเรือคุ้มกันเรือพิฆาต 4 ลำ หลังจากน้นเขาบัญชาการให้กองเรือเลี้ยวไปทางตะวันออกเพื่อให้หลบพ้นจากการโจมตีของกองกำลังกลางขณะเดียวกันก็ได้ส่งอากาศยานทั้งหมดขึ้นไปบินโจมตี ขณะเดียวกันเรือพิฆาตกับเรือคุ้มกันเรือพิฆาตก็ได้ปล่อยควันเคมีสีดำออกมาเพื่อให้เรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กได้หลีกออกไป
ในตอนนั้นเรือของแทฟฟี่3ที่อยู่ใกล้กับกองกำลังกลางของญี่ปุ่นมากที่สุดคือเรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์นสตัน (DD-557)โดยมีผู้การเรือลำนี้คือ นาวาโทเออร์เนส อีวานส์ ได้สั่งเข้ารุกกับกองกำลังกลางทำให้เรือลำนี้ผละออกจากขบวนป้องกัน กองกำลังกลางได้กระหน่ำยิงเรือจอห์นสตันที่กำลังเข้ามาแต่กระสุนกลับไม่โดนเรือจอห์นสตัน เวลา 7.10 น. เรือจอห์นสตันเริ่มยิงเรือลาดตระเวนหนักคุมาโน่ เวลา 7.15 น. เรือจอห์นสตันยิงปืนของเขาโดนหอบังคับการของเรือคุมาโน่แล้วในเวลาต่อมาเรือจอห์นสตันได้ยิงตอร์ปิโดไปยังเรือคุมาโน่ หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดอย่างรุนแรงที่ส่วนหัวเรือคุมาโน่ ทำให้เรือคุมาโน่จมลงในที่สุด ในขณะเดียวกันอากาศยานจากกองเรือย่อยแทฟฟี 3 ได้โจมตีเรือของกองกำลังกลางเพื่อให้กองกำลังกลางได้ผละออกไป ต่อมาในไม่ช้าเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กจาก แทฟฟี 1 และ 2 ได้ส่งอากาศยานมาช่วยในการโจมตี จากการโจมตีของอากาศยานอเมริกันทำให้กองกำลังกลางต้องบีบให้เรือรบแปรขบวนตั้งรับได้สำเร็จ ในช่วงพักการโจมตีของกองกำลังกลางของญี่ปุ่นนี้เองเปิดช่องให้เรือพิฆาตโฮลและเฮียร์แมนยิงตอร์ปิโดออกไป ตอร์ปิโดของเรือพิฆาตเฮียร์แมนพลาดเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แต่กลับพุ่งตรงไปยังเรือประจัญบานยะมะโตะ หลังจากที่เรือประจัญบานยะมะโตะถูกโจมตีทั้งทางอากาศและตอร์ปิโดเรือประจัญบานยะมะโตะไม่เข้าร่วมรบอีกเลย แต่เรือรบที่เหลือของกองกำลังกลางยังคงยิงใส่กองเรือย่อยแทฟฟี 3 ต่อไป เวลา 7.30 น.เรือประจัญบานคอนโกะได้ยิงปินใหญ่จากเรือแล้วกระสุนของมันก็เข้าทะลุที่ห้องเครื่องของเรือจอห์นสตัน หลังจากนั้นอีก 1 นาทีต่อมาเรือประจัญบานยะมะโตะได้ยิงปืน 6 นิ้วเข้าถล่มส่วนหอบังคับการของเรือจอห์นสตัน ส่งผลให้ความเร็วของเรือจอห์นสตันเหลือครึ่งหนึ่งและยังทำให้ระบบไฟฟ้าป้อมปืนของเรือไม่ทำงาน ในเวลาต่อมาช่างของเรือสามารถกู้ไฟฟ้าให้กับป้อมปืนกลับมาใช้งานได้ นาวาโท เออร์เนส อีวานส์ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังยืนยันที่จะไม่สละเรือ เวลา 7.35 น.เรือคุ้มกันเรือพิฆาตยูเอสเอส ซามูเอล บี โรเบิร์ต (DE-413) ได้เข้าร่วมการรบ หลังจากนั้นเรือลาดตระเวนหนักโชคาอิเริ่มยิงกระสุนเข้าใส่เรือพิฆาตยูเอสเอส ซามูเอล บี โรเบิร์ต แต่เรือโรเบิร์ตเข้ามาใกล้มากแล้วจนเรือลาดตระเวนหนักโชคาอิไม่อาจจะกดปืนได้ต่ำพอกระสุนจึงลอยข้ามไป ต่อมาเรือโรเบิร์ตได้ยิงตอร์ปิโดจำนวนสามนัดไปยังเรือลาดตระเวนหนักโชคาอิและกระทบที่เรือโชคาอิอย่างจัง จากนั้นเรือโรเบิร์ตก็ยิงปืนจากเรือกระสุนได้โดนเข้าตรงส่วนหอบังคับการของเรือโชคาอิ แต่แล้วในเวลา 8.50 น. เรือโรเบิร์ตก็ถูกยิงจากเรือโชคาอิจนเหลือป้อมปืนที่ใช้งานได้เพียงป้อมเดียว ในการยืนหยัดต่อสู้อย่างดุเดือดครั้งสุดท้ายเรือโรเบิร์ตได้ยิงกระสุนของมันโดนส่วนหอบังคับการของเรือลาดตระเวนหนักชิคุม่าจนลุกเป็นไฟและทำลายป้อมปืนใหญ่ส่วนหน้าเรือได้ ชั่วขณะต่อมาเรือประจัญบานคอนโกะได้ยิงปืนจากเรือแล้วโดนเรือโรเบิร์ตทำให้เรือโรเบิร์ตเกิดรูขนาดใหญ่ที่ข้างกราบเรือ เวลา 9.10 น.เรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์นสตัน กำลังถูกกระหน่ำด้วยกระสุนจากเรือรบของญี่ปุ่น ในขณะเดียวกันเรือลาดตระเวนเบายาฮากิได้นำเรือพิฆาต 4 ลำแล่นมาสู้กับเรือบรรทุกเคื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กของอเมริกันที่ถูกตัดกำลัง เรืออเมริกันที่อยู่ในตำแหน่งนั้นที่จะหยุดยั้งได้ก็คือเรือจอห์นสตันที่บอบช้ำ เรือจอห์นสตันยิงปืนจากเรือที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่กระบอกและได้นำเรือจอห์นสตันเข้าตัดแถวขบวนของเรือญี่ปุ่นที่กำลังเข้ามาโจมตีเรือบรรทุกเคื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กของอเมริกัน แต่ก่อนที่เรือจอห์นสตันจะเข้ามาตัดแถวขบวนเรือลาดตระเวนเบายาฮากิหักเลี้ยวกระทันหันแล้วเรือพิฆาตอีก 4 ลำก็หักเลี้ยวตาม จากนั้นเรือพิฆาตของญี่ปุ่นได้ยิงตอร์ปิโดไปยังเรือจอห์นสตันแต่ตอร์ปิโดกลับพลาดเป้าไป หลังจากนั้นเรือรบของญี่ปุ้นอีก 5 ลำก็กระหน่ำยิงเข้าใส่เรือจอห์นสตัน เรือจอห์นสตันได้แต่เพียงยิงปืนไปหาศัตรูแบบไร้ทิศทางอย่างสิ้นหวัง ต่อมากระสุนจากเรือรบของญี่ปุ่นยิงเข้ากลางลำเรือจอห์นสตันทำให้เรือหยุดนิ่งสนิท เรือพิฆาตของญี่ปุ่น 4 ลำตีวงล้อมเรือจอห์นสตันที่หมดกำลังแล้วยิงอย่างไม่หยุดหย่อน เวลา 9.45 น.ผู้การเรือจอห์นสตัน นาวาโทเออร์เนส อีวานส์ ได้ออกคำสั่งสละเรือ เวลา 10.05 น.เรือคุ้มกันเรือพิฆาตยูเอสเอส ซามูเอล บี โรเบิร์ต สุดยอดเรือที่เล่าขานกันในกองทัพเรือว่าเป็น"เรือคุ้มกันเรือพิฆาตที่ต่อสู้ราวกับเรือประจัญบาน"ก็ได้จมลงสู่ท้องทะเล ทหารเรือ 89 นายจมลงพร้อมกับเรือ เวลา 10.10 น. เรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์นสตันก็ได้จมลงสู่ทะเล ทหารเรือ 186 นายหายสาบสูญ เวลา 10.45 น.ฝูงบินคะมิกะเซะของญี่ปุ่นตรวจพบเจอเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กยูเอสเอส เซนต์โล (CVE-63)โดยไม่คาดหมาย เวลา 10.50 น. เครื่องบินญี่ปุ่นที่ขับโดยเรืออากาศโทเซกิได้ดำดิ่งลงไปยังเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กยูเอสเอส ไวท์ เพลนส์ (CVE-66) เครื่องบินของเขาถูกยิงด้วยปืนต่อสู้อากาศยานจากเรือไวท์เพลนส์ เขาจึงเปลี่ยนไปทางเรือเซนต์โล เวลา 10.53 น.เครื่องบินญี่ปุ่นของเรืออากาศโทเซกิก็ได้ดำดิ่งเข้าตรงดาดฟ้าของเรือเซนต์โล ส่งผลให้ชั้นดาดฟ้าเรือไฟไหม้อย่างหนักและใต้ท้องเรือก็เกิดระเบิดจากเครื่องบินในใต้ท้องเรือ เวลา 11.00 น. ผู้การเรือเซนต์โล ฟรานซิส แมคเคนนา ได้ออกคำสั่งสละเรือ เวลา 11.20 น.การระเบิดครั้งใหญ่จากเครื่องบินในใต้ท้องเรือทำให้เรือเซนต์โลฉีกเรือเซนต์โลแยกเป็นเสี่ยง ๆ เวลา 11.25 น.เรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กยูเอสเอส เซนต์โลได้จมลงสู่ท้องทะเล ทหารเรือสูญหาย 114 คน ในเวลาต่อมา พลเรือเอก ทาเคโอะ คูริตะ ให้สัญญาณกับเรือในกองกำลังกลาง 20 ลำให้กลับฐาน
เมนูนำทาง
ยุทธนาวีที่ซามาร์ ลำดับเหตุการณ์ใกล้เคียง
ยุทธนาวีเกาะช้าง ยุทธนา เปื้องกลาง ยุทธนา บุญอ้อม ยุทธนาวีที่อ่าวเลย์เต ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ยุทธนาวีที่ซาลามิส ยุทธนาวีที่มิดเวย์ ยุทธนาวีที่ทะเลชวา ยุทธนา มุกดาสนิท ยุทธนาวีที่ช่องแคบสึชิมะแหล่งที่มา
WikiPedia: ยุทธนาวีที่ซามาร์