ประวัติ ของ Nepenthes_bicalcarata

ภาพวาด N. bicalcarata จากบทความของ Macfarlane ในปี ค.ศ. 1908

Nepenthes bicalcarata ถูกจำแนกครั้งแรกโดย โจเซฟ เดลตัน ฮุกเคอร์ (En:Joseph Dalton Hooker) ในปี ค.ศ. 1873 พบพื้นฐานของตัวอย่างที่เก็บมาโดย ฮักฮ์ โลว (En:Hugh Low) และ โอโดอาร์โด เบคคารี (En:Odoardo Beccari) ใกล้กับแม่น้ำลาวัส (Lawas) ในเกาะบอร์เนียว[2] ต้นแบบ Low s.n. ถูกเก็บรักษาไว้ที่สวนพฤกษศาสตร์หลวงเมืองคิว[3] 7 ปีต่อมา สเพนเซอร์ เลอ เมอร์ชานต์ มัวร์ (Spencer Le Marchant Moore) ได้จำแนกเป็น Nepenthes dyak บนพื้นฐานของตัวอย่างที่เก็บโดย โจฮันเนส์ อีเลียส ทีจ์สแมนน์ (En:Johannes Elias Teijsmann) ที่ชื่อ Teijsmann 10962 จากแม่น้ำกาปูวัส (Kapuas) ในทางตะวันตกของบอร์เนียว[4][5] ตัวอย่างนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่สวนพฤกษศาสตร์หลวงเมืองคิวเช่นกัน[3] และสำเนาถูกเก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ในไลเดน[6] มีการกล่าวถึงชื่อ N. dyak ซึ่งถูกตั้งในภายหลังในหนังสือหลายเล่ม[7][8] ปัจจุบันมันถูกพิจารณาให้เป็นชนิดเดียวกันกับ N. bicalcarta[9]

Nepenthes bicalcarata ถูกนำมาสู่ยุโรปในปี ค.ศ. 1879 โดยนักสำรวจชาวอังกฤษที่ชื่อ เฟรดเดอร์ริก วิลเลียม เบอร์บิดก์ (Frederick William Burbidge) ซึ่งเก็บมาให้สถานเพาะเลี้ยงวีตช์ (Veitch Nurseries) ที่มีชื่อเสียง มีการปลูกเลี้ยงกันขนานใหญ่และแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางในปี ค.ศ. 1881[1]

ในระหว่างที่หม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นที่นิยมอย่างมาก มีบันทึกใน The Gardeners' Chronicle ของปี ค.ศ. 1881 ถึง N. bicalcarata ของสถานเพาะเลี้ยงวีตช์ดังนี้:[10]

N. bicalcarata มีใบที่แข็ง ทน และมีหม้อทีมีเครื่องมือคล้ายกับดักหนูดูดุร้ายที่ฝา ทำให้มันแตกต่างจากหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่นเป็นอย่างมาก

สองสามปีหลังจะถูกนำเข้ามา N. bicalcarata ยังคงเป็นต้นไม้ที่หายาก ในบัญชีวีตช์ในปี ค.ศ. 1889 N. bicalcarata มีราคา £3.3s ต่อต้น ขณะที่ต้นไม้ยอดนิยมอย่าง N. northiana และ N. rajah มีราคาเพียงr £2.2s[1]