กติกา ของ SME_ตีแตก

ปีที่ 1

ผู้เข้าแข่งขันที่เป็นเจ้าของธุรกิจ จะนำเสนอรูปแบบการดำเนินธุรกิจ แผนการตลาด และกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการเติบโตของธุรกิจที่วางไว้ และตอบข้อซักถามในเรื่องต่าง ๆ จากคณะกรรมการและแขกรับเชิญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจแบบเดียวกัน เพื่อให้คณะกรรมการได้ทำการลงผลคะแนนตัดสินว่าแผนการดำเนินธุรกิจที่นำเสนอนั้น "ตีแตก" หรือ "ตีไม่แตก" ซึ่งถ้าหากคณะกรรมการตัดสินว่า "ตีแตก" 2 ใน 3 เสียง จะถือว่าธุรกิจตีแตก รางวัลที่ได้รับคือ รางวัล K-SME AWARDS 1 รางวัล และบริการทางการเงินสำหรับ SME จากเครือธนาคารกสิกรไทย มูลค่า 100,000 บาท

ปีที่ 2

คณะกรรมการต้องตัดสินว่าแผนธุรกิจที่นำเสนอนั้น "ตีแตก" หรือ "ตีไม่แตก" โดยแต่ละคนจะให้คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ด้วยเกณฑ์การตัดสิน 5 หัวข้อดังนี้

  1. ลูกค้า
  2. การตลาด
  3. การบริหารทรัพยากรบุคคล
  4. กลยุทธ์สู่การเติบโต
  5. การบริหารจัดการต้นทุน

ถ้าคะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 70 คะแนนจะถือว่า "ตีแตก" และถ้าหากคณะกรรมการตัดสินว่า "ตีแตก" 2 ใน 3 เสียง จะถือว่าธุรกิจตีแตก รางวัลที่ได้รับคือ รางวัล K-SME AWARDS 1 รางวัล

นอกจากนี้คะแนนเฉลี่ยของธุรกิจ คือคะแนนเฉลี่ยของคณะกรรมการทั้ง 3 คน (รวมกันแล้วหารด้วย 3) เพื่อการตัดสินธุรกิจ 8 อันดับแรกที่เข้าสู่รอบ สุดยอด SME แห่งปี สำหรับธุรกิจที่ได้เป็น สุดยอด SME แห่งปี จะได้รับบริการทางการเงินสำหรับ SME จากเครือธนาคารกสิกรไทย มูลค่า 1,000,000 บาท

ปีที่ 3

คณะกรรมการจะทำการลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจและสอบถามเจ้าของธุรกิจอย่างละเอียด หลังจากนั้น ผู้เข้าแข่งขันที่เป็นเจ้าของธุรกิจ จะนำเสนอรูปแบบการดำเนินธุรกิจ แผนการตลาด และกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการเติบโตของธุรกิจที่วางไว้ และตอบข้อซักถามในเรื่องต่าง ๆ จากคณะกรรมการ เพื่อให้คณะกรรมการได้ทำการลงผลคะแนนตัดสินว่าแผนการดำเนินธุรกิจที่นำเสนอนั้น "ตีแตก" หรือ "ตีไม่แตก" ซึ่งถ้าหากคณะกรรมการตัดสินว่า "ตีแตก" 2 ใน 3 เสียง จะถือว่าธุรกิจตีแตก รางวัลที่ได้รับคือ รางวัล K-SME AWARDS 1 รางวัล