สโมสร ของ กรกช_วิริยอุดมศิริ

ในระดับมหาวิทยาลัย กรกชผ่านการคัดเลือกของมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลอาชีพกับปตท.ระยอง แต่ว่าหลังจากนั้นปีเดียว ก็กลับมารับใช้สโมสรมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ในระดับดิวิชั่น 2 และก็ย้ายไปเล่นกับทีมกรมศุลกากร สุวรรณภูมิ ต่อมาใน พ.ศ. 2554 เขาได้รับความสนใจจากวรวุฒิ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสงขลา ทำให้เขาได้ย้ายไปเล่นให้กับสงขลา และเป็นผู้เล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายคนสำคัญของสโมสร เขาถนัดในด้านการเปิดลูกฟรีคิกและลูกเซ็ตพีซ

ชลบุรี

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ฤดูกาล 2559–2561

ในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559 กรกชย้ายมาร่วมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ โดยเขาจะสวมเสื้อหมายเลข 11[1]

วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม G กรกชทำประตูแรกในนามสโมสรในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปชนะเชจูยูไนเต็ดที่เชจูเวิลด์คัพสเตเดียม 1–0[2] ทำให้บุรีรัมย์ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย และกลายเป็นสโมสรแรกของไทยที่สามารถบุกไปเอาชนะสโมสรเกาหลีใต้ได้[3]

วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 กรกชทำประตูแรกในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดสนามช้างอารีนาเอาชนะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปได้ 4–0[4]

ฤดูกาล 2562

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2561 เจอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้าง เอฟเอคัพ 2561 ที่สนามกีฬากองทัพบกในกรุงเทพมหานคร กรกชลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดนั้น สุดท้าย บุรีรัมย์ แซงเอาชนะ สิงห์ เชียงราย 3–1 ช่วยให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ สมัยแรก ได้สำเร็จ[5] ต่อมาในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562 กรกชทำประตูแรกในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะสมุทรปราการ ซิตี้ ไปได้ 3–2[6] ต่อมาในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย กรกชทำประตูช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านแซงเอาชนะพีทีที ระยอง ไปได้ 3–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[7] ต่อมาในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562 การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย กรกชทำหนึ่งประตู ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะลำปางไปได้ 4–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[8] ต่อมาในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2562 โตโยต้า ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา (มีนบุรี) กรกชทำหนึ่งประตูช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะหนองบัว พิชญ ไปได้ 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ[9] ต่อมาในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 โตโยต้า ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์พบกับ พีที ประจวบ ที่เอสซีจีสเตเดียมในจังหวัดนนทบุรี ผลจบลงด้วยการเสมอ 1–1 ในเวลา 120 นาที ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ กรกช เป็นคนยิงคนที่ 9 แต่เขายิงข้ามคานไป ในขณะที่ ซีเกต หมาดปูเต๊ะ ผู้เล่นของประจวบ ยิงเข้าไปได้ ทำให้บุรีรัมย์พ่ายแพ้ประจวบในช่วงลูกโทษ 7–8 ผลประตูรวม 8–9 พลาดโอกาสคว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ อย่างน่าเสียดาย[10]

แหล่งที่มา

WikiPedia: กรกช_วิริยอุดมศิริ http://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2... http://www.goal.com/th/people/thailand/75172/korra... http://www.national-football-teams.com/player/5384... https://www.buriramunited.com/main_news/detail/706 https://www.buriramunited.com/main_news/detail/751 https://www.buriramunited.com/main_news/detail/825 https://www.fourfourtwo.com/th/features/buriiramy-... https://www.fourfourtwo.com/th/features/ecchcchuu-... https://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B... https://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B...