ประวัติ ของ กองซุนก๋ง

เมื่ออ้วนซงและอ้วนฮีรบแพ้โจโฉจนต้องหนีไปอาศัยกองซุนของที่เลียวตั๋ง กองซุนของทราบเรื่องที่อ้วนซงและอ้วนฮีมาขออาศัยจึงปรึกษากับขุนนางกับทหาร กองซุนก๋งได้พูดกับกองซุนของว่า "ครั้งอ้วนเสี้ยวเมื่อยังไม่ตายนั้น ข้าพเจ้าแจ้งกิตติศัพท์ว่า อ้วนเสี้ยวจะยกมาทำอันตรายเมืองเราเนืองๆ อยู่ บัดนี้อ้วนฮีอ้วนซงเสียเมืองหนีมา ซึ่งเราจะให้อยู่อาศัยนั้นไม่ได้ ด้วยน้ำใจอ้วนฮีอ้วนซงนั้นอุปมาเหมือนหนึ่งกา แม้จะให้อาศัยอยู่ในเมืองเรา นานไปจะคิดการกำเริบชิงเอาเมืองเราเหมือนชิงรังนกกระเหว่า ของให้ลวงอ้วนฮีอ้วนซงเข้ามาแล้วจับตัวฆ่าเสีย แล้วตัดเอาศีรษะไปให้แก่โจโฉ เมืองเราก็จะไม่มีอันตราย" [2] กองซุนของตอบว่า "พี่เกรงอยู่ว่าโจโฉนั้นมีกำลังกล้าหาญนัก เกลือกจะยกกองทัพล่วงตีถึงเมืองเรา ซึ่งเราจะให้ฆ่าอ้วนฮีอ้วนซงเสียนั้นไม่ควร ถ้าเลี้ยงไว้เป็นทหารก็จะได้ต่างมือเราไปรบพุ่งโจโฉดีกว่า" กองซุนก๋งจึงแนะนำกองซุนของว่า "ซึ่งท่านคิดนี้ก็ชอบอยู่ ขอให้แต่งทหารออกไปสืบดูให้รู้ว่า ถ้าโจโฉจะยกล่วงมาตีเมืองเราจึงเลี้ยงอ้วนฮีอ้วนซงไว้ แม้โจโฉไม่ยกมาแล้วก็ให้จับเอาอ้วนฮีอ้วนซงฆ่าเสีย ตัดเอาศีรษะส่งไปให้โจโฉ" [2] กองซุนของเห็นด้วยกับคำแนะนำของกองซุนก๋งจึงให้ทหารไปสืบข่าวโจโฉ ได้ความว่าโจโฉยังอยู่ที่เมืองเอ๊กจิ๋วไม่ได้คิดจะมาตีเมืองเลียวตั๋ง กองซุนของจึงลวงอ้วนซงและอ้วนฮีมาฆ่าแล้วตัดศีรษะส่งไปให้โจโฉ

เมื่อกองซุนของเสียชีวิต กองซุนก๋งจึงได้สืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองเลียวตั๋งต่อจากพี่ชาย พระเจ้าโจผีได้แต่งตั้งให้กองซุนก๋งเป็นขุนพลทหารม้า และมีบรรดาศักดิ์เป็นเซียงผิงโหว (พระยาเมืองเซียงเป๋ง) [3][4] ต่อมาในปีที่ 2 ของศักราชไท่เหอ (ค.ศ. 228 รัชสมัยพระเจ้าโจยอย) กองซุนเอี๋ยน ลูกชายของกองซุนของ หลานชายของกองซุนก๋ง ได้ยึดอำนาจของกองซุนก๋งผู้เป็นอา แล้วขึ้นเป็นเจ้าเมืองเลียวตั๋งแทน[3][4]