องค์ประกอบที่ถือว่าเป็นการฆ่าคนอันมีโทษตามกฎหมาย ของ การฆ่าคน

ตามกฎหมายจารีตประเพณี การฆ่าคนมักเป็นการกระทำโดยเจตนาร้ายอันไตร่ตรองมาก่อน (malice aforethought)

อย่างไรก็ดี ในทางกฎหมายทั่วไป การฆ่าคนถือว่าเป็นความผิดหากมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้

  1. มีจำเลย
  2. พิจารณาสภาพจิตของจำเลย อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
    1. มีความประสงค์จะฆ่าคน ในกรณีนี้ หากพบว่าจำเลยเจตนาใช้อาวุธอันตรายถึงตาย (deadly weapon) กระทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายหรือถึงแก่ความตาย ก็ให้อนุมานเข้าข่ายว่ามีความประสงค์ตามข้อนี้เช่นกัน อาวุธดังกล่าว เป็นต้นว่า ปืน มีดผาหน้าไม้ หรือรถในกรณีที่เจตนาใช้พุ่งชนผู้อื่น
    2. มีความประสงค์จะก่อให้เกิดความบาดเจ็บสาหัสแก่ร่างกายของบุคคล (grievous bodily harm)
    3. การนั้นได้กระทำไปโดยปราศจากความระมัดระวังหรือยับยั้งชั่งใจ หรือไม่อาจควบคุมตนเองได้ (abandoned and malignant heart) เป็นต้นว่า จำเลยรู้ดีว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดตามกฎหมาย และรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็กระทำความผิดนั้นลงไปโดยเพิกเฉยความรับรู้นั้นเสีย หรือได้กระทำไปเพราะระบบการทำงานของร่างกายปฏิเสธความรับรู้นั้นเสีย เช่น ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้ร้ายฆ่าคนต้องระวางโทษอันดับที่สอง หากความผิดนั้นได้กระทำไปเพราะได้ดื่มแอลกอฮอล์ ยา หรือสารบางประเภท จนทำให้ไม่อาจควบคุมตนเองได้หรือทำให้สติไม่สมปฤดี
    4. มีความประสงค์จะกระทำความผิดโดยรู้ว่าเป็นความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ (felony)

องค์ประกอบของความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามกฎหมายไทย

กฎหมายไทยได้บัญญัติองค์ประกอบความผิดฐานฆ่าผู้อื่นไว้ในมาตรา 288 ประมวลกฎหมายอาญาดังนี้ "มาตรา ๒๘๘ ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี"

ดังนั้น องค์ประกอบของความผิดฐานฆ่าผู้อื่นจึงได้แก่ องค์ประกอบภายนอก ได้แก่ ผู้ใด + ฆ่า + ผู้อื่น องค์ประกอบภายใน ได้แก่ เจตนาฆ่า (หากกระทำโดยประมาท หรือไม่มีเจตนาฆ่าโดยอาจมีเพียงเจตนาทำร้ายหรือไม่มีเจตนาเลย ก็จะไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แต่อาจเป็นความผิดฐานอื่น กล่าวคือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นต้น)คำว่าเจตนานั้น หมายความว่าผู้กระทำรู้และตกลงใจที่จะกระทำ โดยประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผล (เพื่อให้ผู้อื่นตาย)