การปฏิวัติอียิปต์_ค.ศ._1952
การปฏิวัติอียิปต์_ค.ศ._1952

การปฏิวัติอียิปต์_ค.ศ._1952

การก่อรัฐประหารในประเทศอียิปต์ ปี ค.ศ. 1952 ยังเป็นที่รู้จักกันคือ การก่อรัฐประหาร ปี ค.ศ. 1952 หรือการปฏิวัติวันที่ 23 กรกฎาคม ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 โดยขบวนการเจ้าหน้าที่อิสระ กลุ่มของเจ้าหน้าที่กองทัพภายใต้การนำโดยมุฮัมมัด นะญีบและญะมาล อับดุนนาศิร การก่อรัฐประหารครั้งแรกนี้ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการโค่นล้มพระเจ้าฟารูกอย่างไรก็ตาม,ขบวนการได้มีความทะเยอทะยานทางการเมืองมากขึ้น และในไม่ช้าก็ต้องดำเนินการยกเลิกรัฐธรรมนูญราชาธิปไตยและพวกขุนนางของอียิปต์และซูดาน ก่อตั้งสาธารณรัฐ ยุติการยึดครองอียิปต์ของอังกฤษ และรักษาความเป็นเอกราชของซูดาน(ก่อนหน้านี้เคยเป็นอำนาจปกครองดินแดนร่วมกันของอังกฤษ-อียิปต์) รัฐบาลของฝ่ายปฏิวัติได้ใช้ชาตินิยมอย่างเด็ดเดี่ยว วาระการต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยม ซึ่งมาเพื่อแสดงออกโดยผ่านลัทธิชาตินิยมของชาวอาหรับและการวางตัวเป็นกลางระหว่างประเทศการก่อรัฐประหารครั้งนี้ต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากมหาอำนาจตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสหราชอาณาจักร ซึ่งได้ยึดครองอียิปต์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 และฝรั่งเศส ทั้งสองประเทศต่างก็ได้ระมัดระวังการลุกขึ้นของพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมในดินแดนภายใต้การควบคุมของพวกเขาทั่วโลกอาหรับและแอฟริกา ด้วยสถานะสงครามอย่างต่อเนืองกับอิสราเอลก็ได้มีความท้าทายอย่างมากเช่นกัน ในขณะที่เจ้าหน้าที่อิสระได้สร้างความเข้มแข็งของอียิปต์ในการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ทั้งสองประเด็นนี้ตได้มีการประชุมหารือในสีปีภายหลังจากก่อรัฐประหาร เมื่ออียิปต์ได้ถูกรุกรานโดยอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิสราเอลในวิกฤตการณ์คลองสุเอซ ปี ค.ศ. 1956 แม้ว่าจะมีการสูญเสียทางทหารอย่างใหญ่หลวง สงครามครั้งนี้ได้ถูกมองว่าเป็นชัยชนะทางการเมืองของอียิปต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ปล่อยให้คลองสุเอซอยู่ภายใต้การควบคุมของอียิปต์โดยไม่มีใครโต้แย้งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1875 ได้ลบสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอัปยศของชาติ สิ่งนี้ได้รับความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นของการปฏิวัติในประเทศอาหรับและประเทศอื่นๆในทวีปแอฟริกาการปฏิรูปที่ดินขายส่ง และโครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ริเริ่มขึ้นในทศวรรษแรกและครึ่งหนึ่งของการรัฐประหาร ซึ่งนำไปสู่ช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการทำให้เป็นเมือง ในปี ค.ศ. 1960 ลัทธิสังคมนิยมของชาวอาหรับได้กลายเป็นประเด็นสำคัญ ได้ทำให้อียิปต์กลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจตามที่ได้วางแผนเอาไว้จากส่วนกลาง ทางการได้หวาดกลัวต่อพวกที่นิยมตะวันตก การต่อต้านการปฏิวัติ ความคลั่งไคลทางศาสนาภายในประเทศ การแทรงแซงที่มีศักยภาพของคอมมิวนิสต์ และความขัดแย้งกับอิสราเอลล้วนต่างได้อ้างถึงเหตุผลที่รุนแรงและจำกัดที่ยาวนานต่อคู่แข่งทางการเมือง และการห้ามระบบหลายพรรค ข้อจำกัดต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองเหล่านี้จะยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งประธานาธิบดี อันวัร อัสซาดาต ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 เป็นต้นมา ในช่วงระหว่างนโยบายการปฏิวัติจำนวนมากได้ปรับขนาดลงหรือย้อนกลับความสำเร็จในช่วงแรกของการก่อรัฐประหารได้สนับสนุนขบวนการชาตินิยมในประเทศอาหรับและประเทศอื่นในแอฟริกา เช่น แอลจีเรียและเคนยา ซึ่งได้มีการประท้วงต่อต้านอาณานิคมในจักรวรรดิยุโรป นอกจากนี้ยังได้เป็นแรงบันดาลใจในการโค่นล้มระบอบราชาธิปไตยและรัฐบาลในภูมิภาคและทวีปการปฏิวัติครั้งนี้ได้ถูกนำมาเป็นวันเฉลิมฉลองที่รำลึกในแต่ละปีของวันที่ 23 กรกฎาคม

การปฏิวัติอียิปต์_ค.ศ._1952

วันที่สถานที่ผลลัพธ์ดินแดนเปลื่ยน
วันที่23 กรกฎาคม ค.ศ. 1952
สถานที่อียิปต์
ผลลัพธ์โค่นล้ม, สละบังลังก์, และเนรเทศพระเจ้าฟารูก
ดินแดน
เปลื่ยน
เอกราชของซูดานภายใต้การปกครองของอังกฤษ-อียิปต์
สถานที่ อียิปต์
ผลลัพธ์ โค่นล้ม, สละบังลังก์, และเนรเทศพระเจ้าฟารูก
ดินแดนเปลื่ยน เอกราชของซูดานภายใต้การปกครองของอังกฤษ-อียิปต์
วันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1952

ใกล้เคียง