เบื้องหลัง ของ การพักรบตางกู

หลังจาก กรณีมุกเดน เมื่อวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 1931 กองทัพคันโตของจักรวรรดิญี่ปุ่นรุกรานแมนจูเรีย และสามารถยึดครองแมนจูเรียทั้งหมดได้เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ 1932 จักรพรรดิผู่อี๋ จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิง ผู้ซึ่งถูกเนรเทศในสัมปทานนครเทียนจิน กองทัพญี่ปุ่นได้เลือกให้พระองค์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งแมนจูกัว ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ในเดือนมกราคม 1933 เพื่อที่จะรักษาแนวชายแดนด้านทิศใต้ กองทัพผสมญี่ปุ่น-แมนจูกัวได้รุกรานเรอเหอ และภายหลังยึดมณฑลนี้ได้ในเดือนมีนาคม กองทัพญี่ปุ่นยังได้กวาดล้างกองทัพชาตินิยมจีนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เอาชนะกองทัพจีนได้ที่กำแพงเมืองจีน และเข้าสู่มณฑลเหอเป่ย์

มหาอำนาจตะวันตกได้ประณามการกระทำของญี่ปุ่น แต่ก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้น เมื่อสันนิบาตชาติประกาศให้ญี่ปุ่นยอมยุติความเคลื่อนไหวลง หลังจากนั้น ญี่ปุ่นไม่ปฏิบัติตาม และได้ถอนตัวออกจากความเป็นสมาชิกของสันนิบาตชาติ เมื่อปี 1933

ด้านกองทัพญี่ปุ่นยังไม่ได้รับพระบัญชาใหม่จากสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ กองทัพญี่ปุ่นยังไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีนในตอนนี้ กองทัพญี่ปุ่นได้หยุดการรุกรานเมื่อเดือนพฤษภาคม 1933

ใกล้เคียง

การพัฒนาการเมือง การพัฒนาอย่างยั่งยืน การพักรบ การพัฒนาซอฟต์แวร์แบบเอจายล์ การพัวพันเชิงควอนตัม การพักรบตางกู การพัดขึ้นฝั่ง การพับกระดาษ การพัฒนาซอฟต์แวร์ การพัฒนาไฟนอลแฟนตาซี XV