การพิจารณาคดีแม่มดที่ซาเลม เป็นชุดการพิจารณาคดีและดำเนินคดีกับบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น
พ่อแม่แม่มดใน
จังหวัดอ่าวแมสซาชูเซตส์ (Province of Massachusetts Bay) ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1692 ถึงพฤษภาคม ค.ศ. 1693 มีบุคคลมากกว่า 200 คนถูกกล่าวโทษ โดย 30 คนถูกตัดสินว่ามีความผิด, 20 คน (แบ่งเป็นผู้หญิง 14 คน และผู้ชาย 6 คน) ถูกประหารชีวิต และเสียชีวิตในคุกอย่างน้อย 5 คน
[1]การพิจารณาคดีแม่มดที่ซาเลมมีต้นตอมาจากปัญหาด้านความเชื่อ สังคม และเศรษฐกิจ
[2] ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 กลุ่ม
พิวริตันที่เพิ่งผ่าน
การสู้รบกับฝรั่งเศสและการระบาดของ
โรคฝีดาษจัดตั้งเมืองซาเลมวิลเลจขึ้น (ปัจจุบันคือเมือง
แดนเวอร์) และปกครองตามความเชื่อของตนอย่างเคร่งครัด เมืองนี้เป็นอริกับเมืองซาเลมทาวน์ (ปัจจุบันคือเมือง
ซาเลม) ซึ่งมั่งคั่งกว่า
[3] ขณะที่ในหมู่ชาวบ้านซาเลมวิลเลจเองก็มีความเห็นแตกแยกในเรื่องการปกครองของสาธุคุณ
ซามูเอล แพร์ริส[4] ในปี ค.ศ. 1692 หมู่บ้านซาเลมประสบกับฤดูหนาวอย่างหนักจนพืชผลเสียหาย อาหารขาดแคลน
[5] หลังจากนั้นไม่นาน
เบตตี แพร์ริสและ
แอบิเกล วิลเลียมส์ บุตรสาวและหลานสาวของสาธุคุณแพร์ริสป่วยและแสดงท่าทางประหลาด หลังตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติ แพทย์วินิจฉัยว่าทั้งสองตกอยู่ใต้อำนาจชั่วร้าย (ปัจจุบันมีการสันนิษฐานว่าความผิดปกติดังกล่าวอาจมาจาก
โรคไลม์ โรคลมชัก สมองอักเสบ หรือพิษจากรา
เออร์กอต)
[6] ต่อมา
แอน พัตแนมและ
อลิซาเบธ ฮับบาร์ดก็เจ็บป่วยด้วยอาการคล้ายกัน นำไปสู่การจับกุมผู้หญิง 3 คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดโดยไม่มีหลักฐาน
[7] การกล่าวหากันไปมาระหว่างชาวบ้านที่ตื่นตระหนกและเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดทำให้มีการจับกุมเพิ่มอีกสิบกว่าคน โดยส่วนใหญ่ผู้ถูกกล่าวหามักแต่งกายหรือประพฤติผิดไปจากหลักความเชื่อของคนส่วนใหญ่
[8][9]ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1692
วิลเลียม ฟิปส์ ผู้ว่าการจังหวัดอ่าวแมสซาชูเซตส์สั่งให้จัดตั้งศาลพิเศษเพื่อไต่สวนและตัดสิน (Special Court of Oyer and Terminer) ในช่วงเวลานี้มีผู้ถูกคุมขังกว่า 60 คน
[10] ระหว่างเดือนมิถุนายน–กันยายน มีผู้ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ 19 คน ส่วนชายอีกหนึ่งคนถูกประหารชีวิตด้วยการทับด้วยหินจนตาย
[11] หลังภรรยาตนเองถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ฟิปส์สั่งยุบศาลพิเศษแล้วจัดตั้งศาลสูงใหม่เพื่อพิจารณาคดีโดยปฏิเสธหลักฐานความฝันและนิมิต (spectral evidence) ตัดสินให้ผู้ถูกกล่าวหาหลายคนพ้นผิดและอภัยโทษให้แก่ผู้ที่รอรับโทษ การพิจารณาคดีของศาลนี้สิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1693
[12]การพิจารณาคดีแม่มดที่ซาเลมเป็น
การล่าแม่มดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาเหนือยุคอาณานิคม
[13] และเป็นหนึ่งในตัวอย่าง
อุปาทานหมู่ที่เลวร้ายอันเกิดจากแนวคิดแยกอยู่โดดเดี่ยว ความสุดโต่งทางศาสนา และความผิดพลาดของกระบวนการยุติธรรม
[14] ในปี ค.ศ. 1992 มีการสร้างสวนสาธารณะเพื่อรำลึกถึงเหยื่อการพิจารณาคดี ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมามีการประกาศให้ผู้ที่ถูกลงโทษหลายคนพ้นจากความผิด จนในที่สุดสภานิติบัญญัติของรัฐแมสซาชูเซตส์ผ่านรัฐบัญญัติที่ประกาศให้ผู้ที่ถูกลงโทษทุกคนพ้นจากความผิดในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2001
[15]