การริเริ่มเปลี่ยนรัฐธรรมนูญของสหพันธรัฐโดยประชาชน ของ การริเริ่มออกกฎหมายของประชาชน_(สวิตเซอร์แลนด์)

การริเริ่มเปลี่ยนรัฐธรรมนูญของสหพันธรัฐโดยประชาชน (อังกฤษ: federal popular initiative, เยอรมัน: Eidgenössische Volksinitiative, ฝรั่งเศส: Initiative populaire fédérale, อิตาลี: Iniziativa popolare federale)เป็นกลไกที่ให้ประชาชนเสนอการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญของสหพันธรัฐสวิสโดยจะจัดให้ลงคะแนนสำหรับการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่ได้รวบรวมลายเซ็นอย่างถูกต้อง 100,000 รายภายใน 18 เดือน[3]

ประเด็นริเริ่มกฎหมายบ่อยครั้งที่สุดก็คือ การดูแลสุขภาพ ภาษี สวัสดิการสังคม นโยบายยาเสพติด การขนส่งมวลชน การเข้าเมือง การให้ที่ลี้ภัย การศึกษาเป็นต้นมีข้อจำกัดเพียงสองอย่างในการริเริ่ม คือ[4]

  • ต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนด (เช่น มีเพียงประเด็นเดียวในเรื่องที่ริเริ่มแต่ละอย่าง ๆ)
  • การริเริ่มต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน (jus cogen)

กระบวนการนี้ต่างจากการลงประชามติโดยบังคับที่รัฐสภาเสนอการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการเสนอเปลี่ยนรัฐธรรมนูญของประชาชน แม้รัฐบาลจะไม่ชอบใจ ก็ยังไม่สามารถกันการริเริ่มที่ได้ลายเซ็นครบจำนวนเพื่อไม่ให้ลงประชามติ แต่จะสามารถเสนอบัญญัติโต้ตอบ (counter-project)[5]การได้เสียงส่วนมากทั้งจากประชาชนและจากรัฐต่าง ๆ จำเป็นเพื่อเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ

ประวัติ

การริเริ่มกฎหมายโดยประชาชนได้ใช้เป็นกลไกในระดับสหพันธรัฐตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2391ระหว่างปี 2436-2557 มีการริเริ่มเปลี่ยนรัฐธรรมนูญในระดับสหพันธรัฐโดยประชาชน 192 รายการ มี 22 รายการที่ผ่านเป็นบทบัญญัติมี 73 ที่ถอนโดยประชาชนชอบใจข้อเสนอโต้ตอบของฝ่ายนิติบัญญัติมากกว่า

การริเริ่มแรกที่ผ่านเป็นบัญญัติในรัฐธรรมนูญแรกก็คือ "การห้ามการฆ่าโดยไม่ได้สลบเสียก่อน" ซึ่งฟังดูเหมือนเรื่องสิทธิของสัตว์แต่ในการปฏิบัติ เป็นการห้ามการฆ่าสัตว์ตามธรรมเนียมของชาวยิว (Shechita) โดยเฉพาะ ซึ่งยังเป็นสิ่งที่ห้ามในสวิตเซอร์แลนด์จนถึงทุกวันนี้

การริเริ่มที่ผ่านเป็นบัญญัติในรัฐธรรมนูญเกิดในปีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้2436 2451 (ห้ามเหล้าอัปแซ็งต์) 2461 2463 (ห้ามการพนัน) 2464 2474 (ห้ามการพนัน) 2492 2525 2530 (การป้องกันพื้นที่ชุ่มน้ำ)2533 (การพักใช้พลังงานนิวเคลียร์) 2536 (วันประจำชาติสวิส) 2537 (การปกป้องระบบนิเวศแบบแอลป์)2545 (การเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหประชาชาติ) 2547 2548 2551 2552 (การห้ามสร้างหออะซาน)2553 2555 2556 (การจำกัดเงินเดือนและสวัสดิการของผู้บริหารบริษัทมหาชน)2557 (การห้ามการเข้าเมือง) และ 2557 (การห้ามคนใคร่เด็กไม่ให้ทำงานกับเด็กตลอดชีวิต)

ดังนั้น การริเริ่มเปลี่ยนรัฐธรรมนูญจึงผ่านเป็นกฎหมายน้อยมาก โดยมีช่องว่าง 20 ปีระหว่าง 2472-2492 และ 30 ปีระหว่าง 2492-2525 ที่การริเริ่มเปลี่ยนรัฐธรรมนูญทุกประการประชาชนไม่เห็นด้วยแต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญ โดยมีการริเริ่ม 5 รายการที่ผ่านเป็นกฎหมายในคริสต์ทศวรรษ 2000 และอีก 5 รายการในระหว่างปี 2553-2557

ในบรรดา 170 รายการที่ไม่ผ่าน (โดยปี 2557) มีหลายเรื่องที่ยังเป็นประเด็นทางการเมืองที่สำคัญที่เด่นโดยอัตราการใช้เสียงก็คือ การห้ามคนเข้าเมืองในปี 2513 (74.7%) และ 2517 (70.3%)และการกำจัดกองทัพบกสวิส (69.2%)

การเปลี่ยนแปลงที่เสนอ

ในปี 2434 ช่วงที่กำลังบัญญัติกลไกนี้ในรัฐธรรมนูญสวิส การริเริ่มเปลี่ยนรัฐธรรมนูญโดยประชาชนหมายให้กลุ่มประชาชนที่ไม่ได้ตัวแทนในรัฐสภา ได้แสดงเสียง[6]แต่เริ่มตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 2000 มันก็กลายเป็นกลไกที่พรรคการเมืองที่ร่วมอยู่ในรัฐสภาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการทางรัฐสภาผู้ไม่เห็นด้วยอ้างว่า มันบ่อนทำลายระบบการเมืองของสวิส ซึ่งต้องอาศัยการประนีประนอมและการปรับตัวให้เข้ากับกันและกัน เพราะการริเริ่มเป็นจุดจบของการต่อรองในประเด็นย่อย ๆ (เพราะประชาชนสามารถยอมรับหรือปฏิเสธกฎหมายที่ริเริ่มโดยทั้งหมดเท่านั้น)แต่คนอื่น ๆ ก็อ้างว่า นี่เป็นกระบวนการประชาธิปไตยแบบบริสุทธิ์[7]

ส่วนผู้คัดค้านท่านอื่น ๆ กล่าวว่า การมีการริเริ่มแบบน้ำท่วมทุ่งบั่นทอนเสถียรภาพทางกฎหมาย เพราะการริเริ่มที่เป็นการปฏิรูปอย่างรุนแรงเริ่มเกิดบ่อยครั้งขึ้นเรื่อย ๆ[8]

ใกล้เคียง