เทคโนโลยี ของ การเผาขยะ

เตาเผาขยะที่ทันสมัย จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ลดมลภาวะเช่นต้วทำความสะอาดแก๊สปล่องไฟ เตาเผามีหลายชนิด เช่นแบบตะกรับเคลื่อนที่(ตะกรับ น. ดินเผาหรือเหล็กเป็นแผ่นเจาะเป็นรู ๆ สำหรับรองถ่านเพื่อให้ลมเดินผ่านได้ และขี้เถ้าตกลงข้างล่าง (โดยมากใช้กับเตาอั้งโล่หรือเตาหม้อนํ้าเรือกลไฟเป็นต้น), รังผึ้ง ก็ว่า; เหล็กทำเป็นซี่ ๆ มีด้ามจับ สำหรับปิ้งปลาเป็นต้นหรือตะแกรงเพื่อแยกขี้เถ้าออกด้านล่าง - พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน), แบบตะกรับอยู่กับที่, แบบเตาหมุน และแบบเตาเผาชนิดใช้ตัวกลางนำความร้อน (Fluidised bed)

เชิงตะกอน

แบบนี้ง่ายและธรรมดาที่สุดสำหรับขยะในครัวเรือนขนาดเล็ก โดยเอาเชื้อไฟและขยะซ้อนกันเป็นชั้นๆบนพื้นดิน แล้วจุดไฟเผาเลย การเผาแบบนี้ ไม่ควรทำในแหล่งชุมชน เพราะถ้ามีลมพัดอาจทำให้เกิดอัคคีภัย หรือเศษเขม่าไฟปลิวเข้าบ้านเรือนได้ นอกจากในพื้นที่นอกเมืองที่บางครั้งชาวบ้านต้องการเผาตอไม้หรือเศษตกค้างเพื่อเตรียมดินสำหรับการเพาะปลูก แต่ไม่ว่าจะทำการเผาขยะที่ไหน ควรใช้ความระมัดระวังที่สุด และควรขออนุญาตจากทางราชการก่อน

ถังเผา

ใช้ถังเหล็กขนาด 200 ลิตรเจาะรูด้านข้างให้อากาศเข้า ซึ่งจะปลอดภัยกว่าระบบแรก แม้มีลมพัด เปลวไฟและเศษขยะติดไฟก็จะถูกจำกัดอยู่ในถังเหล็กนี้ อย่างไรก็ตาม การกำจัดขยะของตนเองภายในบ้านควรต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะขยะบางชนิดอาจมีพิษหรือมีกลิ่นรบกวนชาวบ้านได้ ควรทำครั้งละน้อยๆจะดีกว่า และควรรับผิดชอบถ้าเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และควรพิจารณาขออนุญาตจากทางราชการก่อน

แบบตะกรับเคลื่อนที่

การเคลื่อนที่ของตะกรับ ทำให้ขยะที่ถูกเผาเคลื่อนไปในห้องเผาใหม้ ถูกเผาได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เตาเผาแบบนี้บางทีถูกเรียกว่าเตาเผาขยะชุมชน (Municipal Solid Waste Incinerator) ขยะจะถูกป้อนด้วยเครนเข้าไปใน"คอหอย"ซึ่งเป็นปลายของตะกรับด้านหนึ่งที่อยู่ด้านบน จากนั้นตะกรับจะเลื่อนลง พาขยะไปที่ตะกรับด้านล่าง ต่อๆกันไปยังบ่อขี้เถ้าที่ปลายอีกด้านหนึ่ง ขี้เถ้าจะถูกคัดออกผ่านม่านน้ำ ของแข็งที่เผาไม่หมด จะตกลงที่พื้นด้านล่าง

รูปแสดงขยะชุมชนในห้องเผาของเตาแบบตะกรับเคลื่อนที่ ที่สามารถจัดการกับขยะ 15 ตันต่อชม. ในรูป จะเห็นรูในตะกรับที่ส่งเปลวไฟขึ้นมาทำให้เกิดการเผาเบื้องต้น

อากาศที่ใช้เผาไหม้ครั้งแรกบางส่วนไหลผ่านมาจากตะกรับด้านล่าง ทำหน้าที่เป่าตะกรับให้เย็นลงไปในตัวด้วย การทำให้ตะกรับมีอุณหภูมิลดลงก็เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตะกรับ บางระบบมีการระบายความร้อนของตะกรับด้วยน้ำ

อากาศเผาไหม้ครั้งที่สอง จะถูกจ่ายให้หม้อต้มด้วยความเร็วสูงผ่านหัวฉีดเหนือตะกรับ อากาศนี้ทำให้แก๊สปล่องไฟถูกเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ โดยให้อากาศหมุนไปมาเพื่อให้มันผสมกันไปกับอากาศและอ๊อกซเจนส่วนเกินได้ดียิ่งขึ้น

ตามข้อกำหนดของยุโรป แก๊สปล่องไฟต้องมีอุณหภูมิอย่างต่ำ 850°C เป็นเวลา 2 วินาที เพื่อกำจัดสารพิษให้หมด ดังนั้นจึงต้องมีตัวเผาสำรองเผื่อไว้ในกรณีอุณหภูมิในห้องเผาไม่ถึงข้อกำหนด จำเป็นต้องเพิ่มความร้อนด้วยเตาสำรองนี้

ห้องควบคุมระบบตะกรับเคลื่อนที่

จากนั้น แก๊สปล่องไฟจะถูกทำให้เย็นลงในส่วนของเตาที่เรียกว่า superheater ความร้อนจะถูกย้ายไปที่ไอน้ำ ทำให้ไอน้ำมีอุณหภูมิสูงประมาณ 400°C ที่ความดัน 40 bars ส่งเข้ากังหันผลิตไฟฟ้าต่อไป ณ จุดนี้ แก๊สปล่องไฟจะมีอุณหภูมิประมาณ 200°C และถูกส่งเข้าเครื่องทำความสะอาดก่อนปล่อยออกทางปล่องไฟสู่บรรยากาศภายนอก

ใกล้เคียง