เมนูนำทาง
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป_พ.ศ._2566 เบื้องหลังในปี 2562 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้คำมั่นสัญญามาหลายครั้ง การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกวิจารณ์ว่ามีการเอื้อประโยชน์แก่พรรคพลังประชารัฐมาตั้งแต่การออกแบบระบบ[3] เนื่องจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่ร่างขึ้นหลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 ระบุให้สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งมีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีได้ การคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อไม่มีการกำหนดสูตรชัดเจน และมีการใช้มาตรา 44 เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแก้ไขเขตเลือกตั้งก่อนที่จะประกาศเพียงไม่กี่วัน[4] ผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งปรากฏว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย[5] และมีการจัดตั้งรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคพลังประชารัฐ
ประยุทธ์เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562 รัฐธรรมนูญไทยระบุไว้ว่า นายกรัฐมนตรีสามารถดำรงตำแหน่งได้รวมแล้วไม่เกิน 8 ปี[6] อย่างไรก็ตาม วันสิ้นสุดวาระของประยุทธ์นั้นไม่แน่นอน เนื่องจากมีการตีความวันเริ่มต้นวาระอย่างหลากหลาย บ้างก็ตีความว่าประยุทธ์เริ่มเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2557 หลังจากการก่อรัฐประหาร บ้างก็ตีความว่าประยุทธ์เริ่มเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2560 หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่[7] ส่วนฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาระบุว่า ประยุทธ์สามารถดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้จนถึงปี 2570 ถ้าเขาได้รับเลือกอีกครั้ง[8][9]
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้นำคำร้องยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประยุทธ์[6] ต่อมาในวันที่ 24 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง และสั่งให้ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยในวันที่ 30 กันยายน[10] โดยในช่วงเวลาระหว่างรอคำวินิจฉัยดังกล่าว ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีลำดับที่หนึ่ง ได้เป็นผู้รักษาการแทนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี[11] กระทั่งถึงวันที่ 30 กันยายน ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เสียง วินิจฉัยว่าประยุทธ์ยังสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ถึง พ.ศ. 2568[12][13]
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 500 คนจะได้รับเลือกโดยใช้ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะลงคะแนนเสียงด้วยบัตรใบเดียว เพื่อเลือก ส.ส. 350 ที่นั่งจากเขตเลือกตั้ง และอีก 150 ที่นั่งจะเป็นการจัดสรรตามคะแนนของพรรคการเมืองทั้งประเทศ[14] หลังการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎร 500 ที่นั่ง จะลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีในการประชุมร่วมกับวุฒิสภาอีก 250 ที่นั่ง วุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งโดยคสช. จะอยู่ในวาระจนถึงปี 2567 จึงคาดว่าสมาชิกวุฒิสภาจะมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน[15]
เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2564 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้มีการลงคะแนนเสียง 472 ต่อ 33 เสียง (งดออกเสียง 187 เสียง) เพื่อกลับมาใช้การลงคะแนนระบบคู่ขนานที่เคยใช้เมื่อช่วงก่อนปี 2560 ในระบบนี้ จะมี ส.ส. 400 ที่นั่งที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และลดจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลงเหลือ 100 ที่นั่ง จากเดิม 150 ที่นั่ง[16] ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะต้องลงคะแนนโดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อเลือก ส.ส. แบบแบ่งเขตและพรรคการเมืองที่ตนต้องการ[16] ต่างจากระบบก่อนหน้าที่ผู้มีสิทธิ์แต่ละคนลงคะแนนเสียงเพียงครั้งเดียวเพื่อเลือก ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ[17] อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยพรรคการเมืองขนาดเล็ก เนื่องจากระบบนี้จะทำให้พรรคดังกล่าวได้ที่นั่งในสภายากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้าน
ในช่วง พ.ศ. 2565 มีการถกเถียงว่าจะใช้สูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อแบบใดระหว่าง "สูตรหาร 100" กับ "สูตรหาร 500" ซึ่งถ้าใช้สูตรหาร 500 จะทำให้เกิดที่นั่งส่วนเกิน (Overhanging seat) แบบเดียวกับในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 และทำให้คะแนนเสียงพึงมีของ ส.ส. 1 ที่นั่งต่ำลง ซึ่งเอื้อต่อการตีความให้พรรคเล็กได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ในเดือนสิงหาคม 2565 มีการใช้กลยุทธ์ไม่มาประชุมจนสภาขาดองค์ประชุม ทำให้การพิจารณาแก้ไขเป็นสูตรหาร 500 ต้องตกไป และกลับไปใช้สูตรหาร 100 โดยปริยาย[18]
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีการส่งหนังสือด่วนถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดต่าง ๆ และกรุงเทพมหานคร โดยมีการระบุถึงจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่พึงมีในแต่ละพื้นที่ และระบุให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่เตรียมแบ่งเขตเลือกตั้งไว้เป็นการล่วงหน้าอย่างน้อย 3 รูปแบบ และเมื่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องมีผลใช้บังคับ จะได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป[19] กกต. ได้คำนวณให้มี ส.ส. 1 คน ต่อราษฎร 165,428.5975 คน โดยใช้ข้อมูลจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เป็นฐานในการคำนวณ[20]
จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่พึงมีในแต่ละพื้นที่ มีดังนี้[19]
พื้นที่ | จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมี |
---|---|
กรุงเทพมหานคร | 33 |
นครราชสีมา | 16 |
ขอนแก่น เชียงใหม่ อุบลราชธานี | 11 |
ชลบุรี บุรีรัมย์ | 10 |
นครศรีธรรมราช ศรีสะเกษ สงขลา อุดรธานี | 9 |
เชียงราย นนทบุรี ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ สุรินทร์ | 8 |
ชัยภูมิ ปทุมธานี สกลนคร สุราษฏร์ธานี | 7 |
กาฬสินธุ์ นครปฐม นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ มหาสารคาม | 6 |
กาญจนบุรี นราธิวาส พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก ระยอง ราชบุรี สุพรรณบุรี | 5 |
กำแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ตรัง ตาก นครพนม ปัตตานี ลพบุรี ลำปาง เลย สมุทรสาคร สระบุรี สุโขทัย | 4 |
กระบี่ จันทบุรี ชุมพร น่าน บึงกาฬ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พะเยา พัทลุง พิจิตร เพชรบุรี แพร่ ภูเก็ต ยโสธร ยะลา สระแก้ว หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ | 3 |
ชัยนาท นครนายก พังงา มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ลำพูน สตูล อ่างทอง อำนาจเจริญ อุทัยธานี | 2 |
ตราด ระนอง สมุทรสงคราม สิงห์บุรี | 1 |
เมนูนำทาง
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป_พ.ศ._2566 เบื้องหลังใกล้เคียง
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2549 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2567 การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565 การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2563 การเลือกตั้งระบบสัดส่วน การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565แหล่งที่มา
WikiPedia: การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป_พ.ศ._2566 http://www.nationmultimedia.com/detail/opinion/303... http://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0... https://thestandard.co/timeline-of-the-election-25... https://www.bangkokpost.com/thailand/politics/2305... https://www.bbc.com/thai/articles/c03zk31edx3o https://www.bbc.com/thai/articles/cgx0pykkp35o https://www.dw.com/en/thai-parliament-elects-prayu... https://www.khaosodenglish.com/politics/2018/11/30... https://www.khaosodenglish.com/politics/2021/12/30... https://www.matichonweekly.com/?p=603906