ประวัติ ของ กาเซี่ยง

ช่วงที่เตียวสิ้วยอมมอบเมืองให้แก่โจโฉอย่างเต็มใจ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่โจโฉเกิดไปหลงนางเจ๋าซือ ภรรยาม่ายของเตียวเจ อาของเตียวสิ้ว ทำให้เตียวสิ้วโกรธมาก กาเซี่ยงก็ได้วางแผนมากมายให้เตียวสิ้ว จนสามารถวางแผนฆ่าเตียนอุย นายทหารองค์รักษ์ของโจโฉได้ และโจโฉก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด และต้องเสียโจงั่งผู้บุตรและโจอันบิ๋นผู้หลานด้วย ต่อมาโจโฉก็ยกทัพมาตีเตียวสิ้วอีก เตียวสิ้วซึ่งร่วมมือกับฝ่ายเล่าเปียว ได้ไปต้านโจโฉซึ่งตอนแรกเตียวสิ้วเสียเปรียบ แต่กาเซี่ยงก็ได้วางแผนดี ๆ มากมาย ถึงกับบอกว่าถ้าแพ้ครั้งนี้จะยอมถูกตัดหัว แล้วก็ทำได้จริง ๆ อีกทั้งโจโฉต้องถอยทัพไปเนื่องจากอ้วนเสี้ยวจะมาตีเมือง ทำให้เตียวสิ้วชนะฝ่ายโจโฉได้ เตียวสิ้วและเล่าเปียวนั้นถึงกับออกปากชมว่ากาเซี่ยงเป็นยอดคน[3]

กาเซี่ยงได้แนะนำให้เตียวสิ้วสวามิภักดิ์กับโจโฉ ดีกว่าที่จะไปร่วมมือกับอ้วนเสี้ยว โดยการขับไล่ทูตของอ้วนเสี้ยวอย่างไม่ใยดี พอเตียวสิ้วนั้นมาต่อว่า กาเซี่ยงก็ให้เหตุผลทำนองว่า อยู่กับโจโฉแล้วจะส่งผลดีมากกว่าอยู่กับอ้วนเสี้ยว ทำให้เตียวสิ้วตกลง แล้วในที่สุดกาเซี่ยงก็ได้อยู่กับฝ่ายโจโฉ เตียวสิ้วได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนพล ส่วนกาเซี่ยงนั้นมีบทบาทสำคัญมากในยุคของโจโฉเรืองอำนาจในศึกผาแดง กาเซี่ยงเป็นผู้ทัดทานไม่ให้โจโฉยกทัพไปตีซุนกวน แต่โจโฉไม่ฟัง ก็เลยประสบความพ่ายแพ้อย่างราบคาบในศึกผาแดง

กาเซี่ยงเป็นผู้คิดอุบายปราบม้าเฉียว โดยให้โจโฉส่งจดหมายที่แสร้งทำเป็นลบข้อความที่สำคัญส่งมาให้หันซุยผู้ช่วยของม้าเฉียว ทำให้ม้าเฉียวเข้าใจว่าหันซุยพยายามลบข้อความที่สำคัญเพื่อไม่ให้ม้าเฉียวรู้ และระแวงว่าหันซุยจะสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ เมื่อเกิดความแตกแยกระหว่างทั้งสอง ต่อมาหันซุยจึงสวามิภักดิ์ต่อโจโฉจริง ๆ โจโฉจึงตีทัพม้าเฉียวจนต้องหนีตายไปพึ่งเตียวล่อ ถือได้ว่ากาเซี่ยงมีความชอบในการตีทัพม้าเฉียวเป็นอย่างมาก

กาเซี่ยงนั้นมีส่วนร่วมในการในคำแนะนำในการตั้งรัชทายาทของโจโฉ โดยเมื่อโจโฉถามกาเซี่ยงเรื่องรัชทายาทว่าจะตั้งใครระหว่างโจผีและโจสิด กาเซี่ยงก็ทำทีไปคิดถึงเรื่องอื่น โจโฉถามว่าคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ กาเซี่ยงตอบชัดถ้อยชัดคำว่า "ข้าพเจ้าคิดถึงเรื่องที่ตระกูลของเล่าเปียวและอ้วนเสี้ยวที่ตายหมดไปแล้วทั้งคู่" ความหมายก็คือเล่าเปียวและอ้วนเสี้ยวไม่ได้ตั้งลูกชายคนโตเป็นรัชทายาท ให้ผู้น้องเป็นรัชทายาทแทน ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมาภายหลัง ควรที่จะตั้งโจผีลูกชายคนโตของโจโฉขึ้นเป็นรัชทายาทแทน โจโฉเห็นด้วยกับความคิดนี้ โจผีจึงได้เป็นรัชทายาทคนต่อไป เรียกได้ว่ากาเซี่ยงมีส่วนทำให้โจผีได้ครองราชย์ต่อจากโจโฉ และกาเซี่ยงผู้นี้เองที่สนับสนุนโจผีในการยึดบัลลังก์จากพระเจ้าเหี้ยนเต้

ในสมัยพระเจ้าโจผีขึ้นเป็นฮ่องเต้ กาเซี่ยงก็ได้ทัดทานไม่ให้โจผีไปตีซุนกวน แต่โจผีก็ยังไม่ฟัง โจผีประสบความพ่ายแพ้อีกครั้ง ทั้งยังเสียทหารเอกเตียวเลี้ยวไปในสนามรบอีกด้วย กาเซี่ยงยังเป็นคนสมถะ ไม่ชอบทำตัวเด่นดัง และเป็นคนที่จริงใจต่อผู้อื่นในก๊กของโจโฉ ด้วยการกระทำเช่นนี้ ทำให้คนในวุยก๊กยกย่องกาเซี่ยงว่าเป็นกุนซือที่เพียบพร้อมไปด้วยสติปัญญาและนิสัยอีกคนหนึ่งในขณะที่โจผีครองราชย์ได้ 3 ปี นับว่าสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ฝ่ายวุยก๊กมหาศาล ถือเป็นอัจฉริยะที่เกิดขึ้นมาในยุคสามก๊กอีกคนหนึ่ง โดยในประเทศจีนเทียบกาเซี่ยงว่ามีสติปัญญาทัดเทียมฮกหลงเลยทีเดียว เนื่องจากแผนการที่ออกมาจากมันสมองของกาเซี่ยงนั้นไม่เคยผิดพลาดเลยสักครั้ง[4]

กาเซี่ยงก่อนจะถึงแก่กรรมได้สั่งเสียลูก ๆ ไว้ว่าให้ทำตนรักสันโดษไม่เด่นดังเพราะจะนำภัยมาสู่ตน และกาเซี่ยงก็สิ้นอายุขัยในวัย 77 ปี ซึ่งเมื่อกาเซี่ยงสิ้นแล้วพระเจ้าโจผีก็ได้แต่งตั้งกาเซี่ยงเป็น "เจ้าพระยาสมถะ" และได้รับการยกย่องจากเหล่าแม่ทัพนายกองของวุยก๊กมาก[5]