ประวัติ ของ คณะรัฐศาสตร์_จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ป้ายคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาคารสำราญราษฎร์บริรักษ์

คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และเป็นคณะที่มีการเรียนการสอนวิชารัฐศาสตร์เป็นแห่งแรก ถ้าจะนับเวลาเริ่มก่อตั้งแต่สมัยเริ่มแรก เมื่อ พ.ศ. 2442 จนถึงปัจจุบัน สถาบันแห่งนี้มีอายุยาวนานถึง 120 ปี (พ.ศ. 2562)

คณะรัฐศาสตร์เริ่มก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2442 (ร.ศ. 118) โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เริ่มจัดตั้งสถาบันการศึกษาแห่งนี้ขึ้นโดยพระราชทานนามว่า "โรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน" โดยรับจากนักเรียนที่สอบผ่าน "ประโยคนักเรียน" มาแล้ว เข้าศึกษา "ประโยควิชา" ต่อเมื่อเรียนจบ "ประโยควิชา" แล้วจึงจะได้รับประกาศนียบัตรของโรงเรียน แล้วต้องออกฝึกราชการตามกระทรวงต่างๆ เพื่อสอบ "ประโยคฝึกหัด" ในขั้นสุดท้าย จึงจะถือว่านักเรียนผู้นั้นสำเร็จวิชาจากสถานศึกษาข้าราชการพลเรือนโดยสมบูรณ์ โรงเรียนนี้ได้เจริญขึ้นเป็นลำดับต่อมาจึงทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นักเรียนในโรงเรียนนี้ถวายตัวเป็นมหาดเล็ก มีตำแหน่งเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทโดยใกล้ชิดและเข้าที่สมาคมในราชการให้มีความคุ้นเคยอีกด้วย

ในปี พ.ศ. 2445 (ร.ศ.121) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนนามโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือนเป็น "โรงเรียนมหาดเล็ก" โดยที่ทรงพระราชดำริเห็นว่า นักเรียนโรงเรียนนี้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กทั้งสิ้น และตามประเพณีอันมีมาแต่โบราณข้าราชการ โดยมากยอมถวายตัวศึกษาราชการในกรมมหาดเล็กก่อนที่จะไปรับราชการในกรมอื่น จึงควรให้มีนามโรงเรียนสมแก่นักเรียนที่ได้เป็นมหาดเล็ก โรงเรียนนี้ได้เริ่มเปลี่ยนนามใหม่ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2445 โดยมีสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ พระยาวิสุทธ์สุริยาศักดิ์ (เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี) และจมื่นศรีสรรักษณ์ (พระยาศรีวรวงษ์) เป็นกรรมการที่ปรึกษา และมีหมื่นศรีสรรักษ์ (พระยาศรีวรวงษ์) เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน

ต่อมาในปี พ.ศ. 2453 (ร.ศ. 129) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริเห็นว่าการที่จะฝึกนักเรียนในโรงเรียนมหาดเล็กให้ออกมารับราชการในกระทรวงมหาดไทยแต่กระทรวงเดียวนั้นไม่เพียงพอ ควรที่จะขยายการศึกษาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อส่งผู้ที่สำเร็จการศึกษาออกไปรับราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม และเพื่อเป็นอนุสาวรีย์เฉลิมพระปรมาภิไธยสมเด็จพระบรมชนกาธิราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินให้เป็นทุนสำหรับจัดการโรงเรียนต่อไป และทรงพระราชกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนนามโรงเรียนมหาดเล็กเป็นโรงเรียนข้าราชการพลเรือนพระราชทานนามว่า "โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2453 โดยโรงเรียนนี้กำหนดระยะเวลาเรียน 4 ปี โดยเรียนในชั้นสอน 3 ปี และฝึกงานอีก 1 ปี ต่อมาในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2459 ได้มีพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาโรงเรียนข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็น "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ซึ่งเมื่อแรกตั้งได้แบ่งออกเป็น 4 คณะ คือ คณะแพทยศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(ปัจจุบันคือ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล) คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และคณะรัฐฏประศาสนศาสตร์ (ชื่อแรกตั้งของคณะรัฐศาสตร์) ส่วนในด้านการศึกษายังเป็นไปในรูปเดิม นอกจากตำแหน่งผู้บังคับบัญชาโรงเรียนซึ่งแต่เดิมเรียกชื่อว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนนั้น ได้เปลี่ยนมาใช้นามว่า คณบดี

ลักษณะทางกายภาพของคณะรัฐศาสตร์ บริเวณสนามฟุตบอล

ครั้งในปี พ.ศ. 2472 หลังจากที่ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนแล้ว ความนิยมในการเข้าศึกษาในคณะรัฐประศาสนศาสตร์ได้ลดน้อยลง ในปีดังกล่าวนี้มีนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่เพียง 35 คน เท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากผู้สำเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรออกไปนั้น เมื่อเข้ารับราชการจะได้ตำแหน่งเพียงชั้นราชบุรุษเท่านั้น ซึ่งผู้ที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 5 ก็มีสิทธิสอบเข้ารับราชการในตำแหน่งนี้ได้แล้ว ส่วนนักเรียนที่ศึกษาจากคณะรัฐฏประศาสนศาสตร์ นอกจากจะสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มาแล้ว ยังต้องศึกษาในคณะนี้อีกถึง 3 ปี ดังนั้น กระทรวงธรรมการจึงได้นำความทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระบรมราชานุญาตให้เลิกคณะนี้เสียเมื่อนักเรียนที่เหลืออยู่สำเร็จการศึกษาหมดแล้ว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ได้มีพระบรมราชานุญาต

เมื่อกระทรวงธรรมการได้สั่งปฏิบัติการตามกระแสพระบรมราชโองการแล้ว ต่อมามีสมุหเทศาภิบาลและข้าราชการฝ่ายปกครองเป็นอันมากมาร้องทุกข์ว่าควรจะมีการสอนวิชานี้ต่อไป ทั้งกระทรวงมหาดไทยก็เล็งเห็นว่าจะขาดประโยชน์อย่างยิ่งถ้าขาดนักปกครองที่ผลิตจากคณะรัฐฏประศาสนศาสตร์ จึงได้มีการประชุมพิจารณาระหว่างคณะกรรมการดำริรูปการมหาวิทยาลัย ผู้แทนกระทรวงมหาดไทยและผู้แทน ก.ร.พ. (กรรมการพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน) ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นพ้องกันว่าควรจะมีการสอนวิชานี้ต่อไป แต่ต้องเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการศึกษาเสียใหม่และเปลี่ยนแปลงวิธีการรับนิสิตด้วย นอกจากนั้นได้เสนอความคิดเห็นให้เปลี่ยนชื่อคณะรัฐฏประศาสนศาสตร์ เป็นแผนกวิชาข้าราชการพลเรือน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชานุญาตตามข้อเสนอ และให้ขึ้นตรงต่อผู้บัญชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและหัวหน้าแผนกคือ ผู้อำนวยการ ซึ่งมีฐานะเท่ากับคณบดี

ครั้นต่อมาเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2476 ได้มีพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ตั้งคณะนิติศาสตร์ขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยโอนโรงเรียนกฎหมายเข้าสมทบในคณะนิติศาสตร์ด้วย (ต่อมากลายเป็น คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

ในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2476 ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง พ.ศ. 2476 ซึ่งมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติฉบับนี้บัญญัติว่า "ให้โอนคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ในจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ตลอดจนทรัพย์สินและงบประมาณของคณะเหล่านี้มาขึ้นต่อมหาวิทยาลัยนี้ ก่อนวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2477" เป็นอันว่าคณะรัฐฏประศาสนศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้สิ้นสภาพลงตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ต่อมาในปี พ.ศ. 2491 รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการบริหารประเทศในอันที่จะได้ปฏิบัติราชการที่เพียบพร้อมไปด้วยบุคคลที่มีความรู้ความชำนาญในการปกครองและการบริหารให้มีจำนวนเพียงพอ จึงได้จัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกครั้งหนึ่ง โดยการตราพระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2491 หลังจากที่ได้ยุบเลิกไปเป็นเวลาถึง 15 ปีเศษ และก็ได้เจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้

คณะรัฐศาสตร์พัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน บุกเบิกความเป็นสมัยใหม่ทางวิชาการ ไม่เฉพาะในสาขารัฐศาสตร์ แต่ยังพัฒนาไปถึงในสาขาสังคมศาสตร์อื่นๆ ด้วย ในขณะนั้นมีวิชาด้านที่เปิดสอนอยู่หลายสาขา คือ การปกครอง การทูต รัฐประศาสนศาสตร์ การคลัง นิติศาสตร์ สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา และประชากรศาสตร์ จนกระทั่งบางสาขาพัฒนามากขึ้นจึงจำเป็นต้องแยกตัวออกไปตั้งเป็นคณะใหม่ โดยแผนกวิชาการคลังรวมกับแผนกวิชาเศรษฐศาสตร์ของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีตั้งเป็นคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2513 และแผนกวิชานิติศาสตร์ ได้ยกฐานะขึ้นเป็นคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2515 และแผนกสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ ได้ยกฐานะเป็นแผนกอิสระสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ และปัจจุบันคือคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนั้น สถาบันประชากรศาสตร์ สถาบันวิจัยสังคมสถาบันความมั่นคงและนานาชาติ สถาบันพัฒนานโยบายและการจัดการ และสถาบันเอเชียศึกษา ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจากคณะรัฐศาสตร์อีกด้วย

ใกล้เคียง

คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 63 คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 62 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 60 คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 59 คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 54 คณะรัฐมนตรีไทย คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 56 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 61

แหล่งที่มา

WikiPedia: คณะรัฐศาสตร์_จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย http://maps.google.com/maps?ll=13.734678,100.53333... http://www.multimap.com/map/browse.cgi?lat=13.7346... http://www.terraserver.com/imagery/image_gx.asp?cp... http://www.globalguide.org?lat=13.734678&long=100.... http://pgschula.org http://www.wikimapia.org/maps?ll=13.734678,100.533... //tools.wmflabs.org/geohack/geohack.php?pagename=%... http://www.polsci.chula.ac.th/ http://www.polsci.chula.ac.th/Master1.htm http://www.polsci.chula.ac.th/curriculum.htm