ประวัติคณะ ของ คณะวิศวกรรมศาสตร์_สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ประวัติของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แบ่งเป็น 2 ยุค คือ ยุคแรก นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงวันที่ได้รับอนุมัติให้เปลี่ยนเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และยุคที่ 2 นับจากวันที่ได้รับอนุมัติ จนถึงปัจจุบัน

ยุคต้น

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2503 รัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีพิธีการลงนาม ร่วมมือกัน จัดตั้ง “ศูนย์ฝึกโทรคมนาคมนนทบุรี” สังกัด กองโรงเรียนพาณิชย์ กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 ได้เริ่มดำเนินการสอนครั้งแรกใน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร 6 เดือน สำหรับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพนักงานองค์กรในสายงานโทรคมนาคม และ หลักสูตร 1 ปี สำหรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกรมไปรษณีย์โทรเลข หรือจบปีที่ 2 จากโรงเรียนอาชีวศึกษาชั้นสูง แผนกวิทยุโทรคมนาคม ในตอนนั้น มีอาจารย์ชาวไทย จำนวน 10 คน และอาจารย์ชาวญี่ปุ่น จำนวน 8 คน โดยมีนักศึกษารุ่นแรกจำนวน 23 คน เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2505 มีการปรับปรุงหลักสูตร 1 ปี เป็นหลักสูตร 3 ปีให้เทียบเท่าวิทยาลัยเทคนิคทั่วไป ซึ่งมีคุณวุฒิระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 ได้รับการยกฐานะเป็น “วิทยาลัยโทรคมนาคม นนทบุรี”[1]

ปี พ.ศ. 2511 และได้ปรับปรุงหลักสูตรปวส. จากหลักสูตร 3 ปี เป็นหลักสูตร 5 ปี ในสาขาวิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม และมีนักศึกษารุ่นแรกจำนวน 49 คน ในปี พ.ศ. 2512[1] ปีถัดมาเกิดมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อ สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติวิทยาลัยเทคโนโลยี โดยให้ใช้ชื่อว่า “สถาบันเทคโนโลยี” และมีฐานะเทียบเท่ามหาวิทยาลัย ซึ่งประกอบด้วย วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี และวิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ ในวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2513

ในวันที่ 24 เมษายนพ.ศ. 2514 ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ใช้พระนาม “พระจอมเกล้า” เป็นชื่อของสถาบันทั้ง 3 วิทยาเขต ภายใต้พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า โดยมีฐานะเป็นกรม สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ในปีเดียวกันนั้นได้ย้ายวิทยาเขตมาอยู่ที่ลาดกระบัง ซึ่งเป็นที่ดินของทายาท ท่านเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์(วร บุนนาค หรือ เจ้าคุณทหาร) มีเนื้อที่กว่า 1000 ไร่ เรียกว่า "วิทยาเขตนนทบุรี-ลาดกระบัง"[2] และได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นเงินกว่า 70 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างอาคารเรียนและอื่นๆ และในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2515 สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ก็ได้รับรอง "ปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม"[3]

ยุคที่ 2

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2515 วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี ได้รับอนุมัติให้เปลี่ยนสถานภาพเป็น “คณะวิศวกรรมศาสตร์” [3] ต่อมาอีก 2 ปีในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517 มีการโอนสังกัดของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ไปสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย ปีถัดมาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้เปิดสอนในระดับปริญญาโท “หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า” โดยได้รับความเห็นชอบหลักสูตรในวันที่ 19 มิถุนายนในปีเดียวกันนั้น และในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2519 นับเป็นเกียรติประวัติสูงสุดเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เสด็จมาทำการเปิดวิทยาเขตลาดกระบังและได้มีการจัดงานนิทรรศการ "พระจอมเกล้าลาดกระบัง" ขึ้นในระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน พ.ศ. 2519

พ.ศ. 2521 คณะวิศวกรรมศาสตร์ร่วมกับกรมวิเทศสหการและรัฐบาลญี่ปุ่น จัดการอบรมนานาชาติ หลักสูตรเทคโนโลยีโทรคมนาคมขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งยังมีการจัดต่อมาในทุกๆปี นอกจากนี้ยังได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ โซลิดสเตท(ศูนย์วิจัยอิเล็กทรอนิกส์) และอิเล็กทรอนิกส์ และอีกก้าวที่นับเป็นจุดสูงสุดของการศึกษาคือเปิดสอนในระดับปริญญาเอก “หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า” เป็นแห่งแรกในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2525และมีนักศึกษาจบหลักสูตร เป็นคนแรกในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2529[1] ในปี พ.ศ. 2528 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าวิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้มีฐานะเป็นมหาวิทยาลัยอิสระ ตามพระราชบัญญัติ มีชื่อเต็มว่า "สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง"[1]

จากจุดเริ่มต้นของศูนย์ฝึกโทรคมนาคม ในปีพ.ศ. 2503 ซึ่งมีนักศึกษารุ่นแรก 23 คน คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมุ่งมั่นที่จะผลิตบัณฑิต ทางวิศวกรรมศาสตร์ที่มีความรู้ ความสามารถและมีคุณธรรมสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง คณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ เปิดการเรียนการสอนให้สาขาวิชาที่หลากหลาย โดยมีการดำเนินการจัดตั้งเป็นภาควิชาต่าง ๆ ดังนี้

พ.ศ. 2503 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคมพ.ศ. 2519 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าพ.ศ. 2519 จัดตั้งภาควิชาอิเล็กทรอนิกส์พ.ศ. 2519 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลพ.ศ. 2521 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2525 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมระบบควบคุมพ.ศ. 2525 จัดตั้งศูนย์วิจัยอิเล็กทรอนิกส์พ.ศ. 2530 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมเกษตรพ.ศ. 2533 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมโยธา (ชื่อเดิม ภาควิชาเทคโนโลยีการก่อสร้าง เมื่อพ.ศ. 2529)พ.ศ. 2537 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมเคมีพ.ศ. 2538 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมอาหารพ.ศ. 2540 จัดตั้งโครงการภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการพ.ศ. 2543 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมการวัดคุม (ชื่อเดิมภาควิชาเทคโนโลยีการวัดคุมทางอุตสาหกรรม เมื่อพ.ศ. 2526)พ.ศ. 2544 จัดตั้งภาควิชาวิศวกรรมสารสนเทศ (ชื่อเดิม ภาควิชาเทคนิคอุตสาหกรรม เมื่อพุทธศักราช 2517)

ในปัจจุบัน คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ระดับแนวหน้าของประเทศที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ มีหลักสูตรระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอกในหลายสาขาทางวิศวกรรมศาสตร์ มีศูนย์วิจัยทางวิศวกรรมศาสตร์จำนวน 2 ศูนย์ โดยในปัจจุบัน มีคณาจารย์จำนวน 296 คน และบุคลากรที่สนับสนุนงานด้านวิชาการจำนวน 246 คน[4]

ใกล้เคียง

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

แหล่งที่มา

WikiPedia: คณะวิศวกรรมศาสตร์_สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง http://161.246.18.199/telecom/ http://161.246.20.21/ http://maps.google.com/maps?ll=13.726725,100.78012... http://www.kmitl.com/ http://www.multimap.com/map/browse.cgi?lat=13.7267... http://www.terraserver.com/imagery/image_gx.asp?cp... http://www.globalguide.org?lat=13.726725&long=100.... http://www.wikimapia.org/maps?ll=13.726725,100.780... //tools.wmflabs.org/geohack/geohack.php?pagename=%... http://agrieng.kmitl.ac.th/