คดีระหว่างบราวน์กับคณะกรรมการการศึกษา

คดีระหว่างบราวน์ กับคณะกรรมการการศึกษาโทเพกา (อังกฤษ: Brown v. Board of Education of Topeka) รหัส 347 U.S. 483 (1954)[1] เป็นคำวินิจฉัยหลักสำคัญของศาลสูงสุดสหรัฐ ที่ซึ่งศาลวินิจฉัยว่ากฎหมายรัฐของสหรัฐซึ่งกำหนดให้มีการแบ่งแยกเชื้อชาติในโรงเรียนรัฐบาลขัดต่อรัฐธรรมนูญ แม้โรงเรียนที่แบ่งแยกแล้วนั้นจะมีคุณภาพที่เท่ากันก็ตาม ศาลฯ มีคำวินิจฉัยในวันที่ 17 พฤษภาคม 1954 ด้วยมติเอกฉันท์ (9 ต่อ 0) ระบุว่า "สิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษาที่แยกกันนั้นไม่เท่าเทียมในตัวเอง" ฉะนั้นจึงเป็นการฝ่าฝืนวรรคการให้ความคุ้มครองเท่าเทียมกันของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 14 อย่างไรก็ตาม ในคำวินิจฉัยยาว 14 หน้านี้ไม่ได้ระบุวิธีการยุติการแบ่งแยกเชื้อชาติในโรงเรียน และคำวินิจฉัยของศาลฯ ที่สองในคดีบราวน์ 2 (349 U.S. 294 (1955)) เพียงแต่สั่งให้รัฐต่าง ๆ ยุติการแบ่งแยก "โดยใช้ความเร็วรอบคอบทั้งปวง"คดีนี้เริ่มในปี 1951 เมื่อเขตพื้นที่การศึกษาของโรงเรียนรัฐบาลในโทเพกา รัฐแคนซัส ปฏิเสธรับธิดาของประชากรท้องถิ่นผิวดำ ออลิเวอร์ บราวน์ เข้าศึกษาในโรงเรียนที่ใกล้บ้านของเขาที่สุด กลับบังคับให้เธอต้องเดินทางด้วยรถประจำทางไปยังโรงเรียนประถมศึกษาที่แยกไว้สำหรับคนผิวดำ (segregated black school) ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป ในขณะที่เขตพื้นที่การศึกษาของรัฐอื่น ๆ ที่ปรากฏในคดีร่วม (combined case) ศาลล่างในโทเพกาวินิจฉัยว่าโรงเรียนที่แบ่แยกนั้น "มีความเท่าเทียมโดยสภาพเมื่อคำนึงถึงสิ่งปลูกสร้าง การขนส่ง หลักสูตรและคุณวุฒิการศึกษาของครู" แม้กำหนดให้มีการเยียวยาอยู่บ้าง ฉะนั้นเมื่อมีส่วนเกี่ยวข้องของคดีแคนซัส ข้อวินิจฉัยของศาลสงสุดจึงขึ้นอยู่กับปัญหาการแบ่งแยกโดยเฉพาะ[2]ครอบครัวบราวน์และครอบครัวคนผิวดำท้องถิ่นอื่นอีก 12 ครอบครัวที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกันยื่นฟ้องคดีในนามกลุ่มบุคคลต่อศาลกลางของสหรัฐต่อคณะกรรมการการศึกษาโทเพกา โดยอ้างว่านโยบายการแบ่งแยกของคณะกรรมการฯ ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ องค์คณะผู้พิพากษาสามคนของศาลแขวงเขตแคนซัสมีคำตัดสินของคณะลูกขุนให้ครอบครัวบราวน์แพ้คดี โดยอ้างบรรทัดฐานคำวินิจฉัยของศาลสูงสุดในปี 1896 ใน คดีระหว่างเพลสซีกับเฟอร์กูสซัน ซึ่งศาลฯ วินิจฉัยว่าการแบ่งแยกเชื้อชาติไม่ได้ละเมิดวรรคการให้ความคุ้มคอรงเท่าเที่ยมกันในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 14 หากสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่กำลังกล่าวถึงนั้นเท่าเทียมกัน หลักที่ต่อมารู้จักในชื่อ "แบ่งแยกแต่เท่ากัน" ครอบครัวบราวน์ โดยประธานที่ปรึกษาของ NAACP เทอร์กูด มาร์แชล ว่าความให้ อุทธรณ์ต่อไปยังศาลสูงสุด ซึ่งรับไต่สวนคดีคำวินิจฉัยของศาลฯ ในคดีบราวน์กลับคำวำนิจฉัยใน คดีระหว่างเพลสซีกับเฟอร์กูสซัน บางส่วน โดยการประกาศว่าหลัก "แบ่งแยกแต่เท่าเทียม" ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญสำหรับโรงเรียนรัฐบาลและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษาของสหรัฐแม่แบบ:Notetag คำตัดสินนี้เป็นการปูทางไปสู่การหลอมรวมทางเชื้อชาติ (Racial integration) และเป็นชัยสำคัญของขบวนการสิทธิพลเมือง[3] และเป็นต้นแบบสำหรับคดีตัวอย่างเพื่อทำการทดสอบผลทางกฎหมาย (impact ligigation) ในอนาคตอีกมาก[4]ในภาคใต้ของสหรัฐ โดยเฉพาะในแถบ "ดีพเซาธ์" ซึ่งการแบ่งแยกเชื้อชาติฝังรากลึกนั้น ปฏิกิริยาของคำวินิจฉัยในหมู่สาธารณชนคนขาวส่วนใหญ่คือ "เสียงดังรบกวนและดื้อดึง" (noisy and stubborn)[5] ผู้นำทางรัฐบาลและการเมืองหลายคนในภาคใต้รับแผนชื่อ "การขัดขืนครั้งใหญ่" สร้างขึ้นโดยสมาชิกวุฒิสภา แฮรี เอฟ. เบิร์ด เพื่อขัดขวางความพยายามบีบบังคับพวกตนให้ยุติการแบ่งแยกระบบโรงเรียน สี่ปีต่อมา ในคดีระหว่าง คูเพอร์ กับแอรอน ศาลฯ ยืนยันคำวินิจฉัยในคดีบราวน์ และระบุชัดเจนว่าข้าราชการและสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐไม่มีอำนาจทำให้คำวินิจฉัยนี้เป็นโมฆะ

คดีระหว่างบราวน์กับคณะกรรมการการศึกษา

ก่อนหน้า Judgment for defendants, 98 F. Supp. 797 (D. Kan. 1951); probable jurisdiction noted, 344 U.S. 1 (1952).
อ้างอิง 347 U.S. 483 (more)
74 S. Ct. 686; 98 L. Ed. 873; 1954 U.S. LEXIS 2094; 53 Ohio Op. 326; 38 A.L.R.2d 1180
ชื่อเต็มคดี Oliver Brown, et al. v. Board of Education of Topeka, et al.
ส่วนใหญ่ วอร์เรน, joined by เอกฉันท์
ถัดไป Judgment on relief, 349 U.S. 294 (1955) (Brown II); on remand, 139 F. Supp. 468 (D. Kan. 1955); motion to intervene granted, 84 F.R.D. 383 (D. Kan. 1979); judgment for defendants, 671 F. Supp. 1290 (D. Kan. 1987); reversed, 892 F.2d 851 (10th Cir. 1989); vacated, 503 U.S. 978 (1992) (Brown III); judgment reinstated, 978 F.2d 585 (10th Cir. 1992); judgment for defendants, 56 F. Supp. 2d 1212 (D. Kan. 1999)
คำตัดสิน Opinion

ใกล้เคียง

คดีระหว่างนายทะเบียนพรรคการเมือง กับพรรคประชาธิปัตย์ (2553) คดีระหว่างบริษัทมอนซานโต้แคนาดากับชไมเซอร์ คดีระหว่างพนักงานอัยการ กับพิมล กาฬสีห์ และนภาพันธ์ กาฬสีห์ คดีระหว่างล็อกเคบินรีพับลิกันส์ กับสหรัฐ คดีระบายข้าวจีทูจี คดีระหว่างบราวน์กับคณะกรรมการการศึกษา คดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดชลบุรีกับณัชกฤช จึงรุ่งฤทธิ์ คดีระหว่างบริษัทแอปเปิลกับบริษัทซัมซุงอิเล็คทรอนิกส์ จำกัด คดีระหว่างบริษัท 303 ครีเอทีฟ จำกัดกับเอเลนิส คดีระหว่างรัฐมินนิโซตากับชอวิน

แหล่งที่มา

WikiPedia: คดีระหว่างบราวน์กับคณะกรรมการการศึกษา http://www.floridamemory.com/exhibits/floridahighl... http://crdl.usg.edu/events/brown_vs_boe/ http://eisenhower.archives.gov/Research/Finding_Ai... http://eisenhower.archives.gov/research/online_doc... http://cdn.loc.gov/service/ll/usrep/usrep347/usrep... http://www.nps.gov/brvb/ http://www.clearinghouse.net/detail.php?id=5479 http://landmarkcases.c-span.org/Case/8/Brown-v-Boa... http://www.crmvet.org/tim/timhis54.htm#1954bvbe //www.jstor.org/stable/3504874