ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม (
อังกฤษ: Humanitarian aid) คือความช่วยเหลือด้านสิ่งของและ
โลจิสติกส์สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งมักจะเป็นความช่วยเหลือระยะสั้นจนกว่ารัฐบาลและสถาบันอื่น ๆ จะเข้ามาช่วยเหลือในระยะยาว ในบรรดาคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ได้แก่ ผู้ไร้ที่อยู่, ผู้ลี้ภัย และผู้ประสบภัยจากภัยธรรมชาติ, สงคราม และความอดอยาก ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมคือความช่วยเหลือด้านสิ่งของหรือด้านลอจิสติกส์เพื่อวัตถุประสงค์ด้าน
มนุษยธรรม โดยทั่วไปในการตอบสนองต่อความพยายามด้านมนุษยธรรมรวมถึง
ภัยธรรมชาติและ
ภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น วัตถุประสงค์หลักของการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมคือการช่วยชีวิต, บรรเทา
ความทุกข์ และรักษา
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้นจึงอาจแตกต่างจาก
ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา ซึ่งพยายามที่จะแก้ไขปัจจัยทาง
สังคมเศรษฐศาสตร์ที่อาจนำไปสู่วิกฤตหรือภาวะฉุกเฉิน มีการอภิปรายในเรื่องการเชื่อมโยงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและความพยายามในการพัฒนา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก
การประชุมสุดยอดด้านมนุษยธรรมโลกในปี ค.ศ. 2016 อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวถูกมองในเชิงวิพากษ์โดยผู้ปฏิบัติงาน
[1]ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาทุกข์ในระยะสั้นให้กับผู้ประสบภัยจนกว่ารัฐบาลและสถาบันอื่น ๆ จะสามารถบรรเทาทุกข์ได้ในระยะยาว ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมถือว่า "เป็นการแสดงออกพื้นฐานของคุณค่าสากลของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างผู้คนและความจำเป็นทางศีลธรรม"
[2] ซึ่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมาจากชุมชนในหรือต่างประเทศก็ได้ ในการเข้าถึงชุมชนระหว่างประเทศ
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรม (OCHA)
[3] ของ
สหประชาชาติ (UN) มีหน้าที่รับผิดชอบในการประสานงานการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน โดยให้ข้อมูลต่อสมาชิกหลายคนของ
คณะกรรมการประจำระหว่างหน่วยงาน ซึ่งสมาชิกมีหน้าที่ในการบรรเทาทุกข์ในกรณีฉุกเฉิน หน่วยงานของสหประชาชาติ 4 แห่งที่มีบทบาทหลักในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ได้แก่
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP),
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR),
กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) และ
โครงการอาหารโลก (WFP)
[4]อ้างอิงจาก
สถาบันพัฒนาโพ้นทะเล ซึ่งเป็นสถาบันการวิจัยในลอนดอน ที่ผลการวิจัยได้รับการเผยแพร่ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2009 ในเอกสาร "การให้ความช่วยเหลือในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย: อัปเดตปี ค.ศ. 2009" ปีที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้ให้ความช่วยเหลือในประวัติศาสตร์ของมนุษยธรรมนิยมคือปี ค.ศ. 2008 ซึ่งพนักงานช่วยเหลือ 122 คนถูกสังหารและ 260 คนถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนประเทศที่ถือว่าปลอดภัยน้อยที่สุดคือ
โซมาเลียและ
อัฟกานิสถาน[5] ในปี ค.ศ. 2014 กลุ่มวิจัยการดำเนินงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมรายงานว่าประเทศที่เกิดเหตุการณ์สูงสุด ได้แก่ อัฟกานิสถาน, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง, เซาท์ซูดาน, ซูดาน, ซีเรีย, ปากีสถาน, โซมาเลีย, เยเมน และเคนยา
[6]