ประวัติ ของ คัต-ตุน

2001–2005: ก่อตั้งวงและงานก่อนเดบิว

ก่อน ที่จะมาเป็น KAT-TUN สมาชิกแต่ละคนมาจากยูนิตฝึกหัดแตกต่างกันภายใต้ค่าย Johnny & Associates ปี 2001 มีจูเนียร์ 8 คนที่ถูกเลือกให้มาเป็นยูนิตชั่วคราวในการเต้นสนับสนุน โดโมโตะ โคอิจิ (Kinki Kids) ในรายการเพลงทางช่อง NHK ชื่อ Pop Jam สมาชิกถูก ผลัดเปลี่ยนจนกระทั่งได้กลายมาเป็น KAT-TUN กับสมาชิก 6 คนอย่างในปัจจุบัน แม้ว่าการก่อตั้งวง เป็นเพียงการมุ่งหมายให้เป็นยูนิตเต้นแบกกิ้งชั่วคราว แต่ KAT-TUN ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจนกลายเป็นยูนิตถาวร[1]

ในปี 2002 เพื่อตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องที่เข้ามามากมาย KAT-TUN จึงได้จัดคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองเป็นครั้งแรกชื่อ โอคาคุซามะ วะ คามิซามะ - คอนเสิร์ต โกะจูโกะมัน นิน ไอ โนะ รีเควสต์ นิ โคตาเอะเตะ!! (Okyakusama wa Kamisama - Concert 55man Nin Ai no Request ni Kotaete!!) ซึ่งเกิดจากจดหมายรักรีเควสต์จากแฟนๆจำนวน 550,000 คนที่อยากดูคอนเสิร์ตคัตตุน[2] ในปีเดียวกัน พวกเขาได้แสดงคอนเสิร์ต 11 งานในวันเดียว และนี่ได้กลายเป็นสถิติสูงสุดในญี่ปุ่นของศิลปินที่แสดงคอนเสิร์ตมากที่สุด ในวันเดียว ตั้งแต่นั้นมา KAT-TUN ก็ได้จัดคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นแทบทุกฤดูกาล

ในปี 2003-2004 ความโด่งดังของเพิ่มขึ้นถึงระดับเทียบเท่าวงที่เดบิวแล้ว คือในระดับที่พวกเขาได้ถูกเชิญไปแสดงรายการ Music Station หลายต่อหลายครั้ง นอกจากนี้ยังได้ร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับ Tackey & Tsubasa ในทั้งประเทศและนอกประเทศด้วย ซึ่งช่วง 2 ปีนี้ KAT-TUN ได้มาเมืองไทยเพื่อร่วมคอนเสิร์ตต่างๆถึง 4 ครั้ง

ในปี 2005 KAT-TUN ได้ออก DVD คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก คือ คัตตุน ไลฟ์ ไคโซคุบัง (KAT-TUN Live Kaizokuban แปลว่า เรือโจรสลัด) ซึ่งเป็น DVD ที่มียอดขายสูงสุดอันดับ 1 ประจำปี โดยการจัดอันดับของ Oricon และในงาน 20th Japan Gold Disc Awards ดีวีดี Live Kaizokuban ก็ได้เป็นหนึ่งใน Music Video Of The Year[3]

ในปี 2005 ความโด่งดังของ KAT-TUN ถูกเสริมด้วยงานละครที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก Gokusen ภาค 2 ซึ่งนำแสดงโดย คาเมะนาชิ และ อาคานิชิ กลายเป็น Gokusen ภาคที่โด่งดังด้านยอดผู้ชมสูงที่สุดใน 3 ภาค โดยทำเรทติ้งตอนจบทะลุเป้าไปถึง 32.5% และยังต่อเนื่องด้วยละคร โด่งดังปลายปีอย่าง Nobuta Wo Produce ซึ่งคาเมะนาชิ แสดงนำร่วมกับ ยามะพีแห่งวงนิวส์ ละครทำเรทติ้งสวยงาม และเพลงประกอบ Seishun Amigo โดย Shuji To Akira (ชูจิ โตะ อาริกะ) ซึ่งเป็น ยูนิตพิเศษของ คาเมะนาชิ คาซึยะ และ ยามาชิตะ โทโมฮิสะ หรือยามะพีแห่งวงนิวส์ ทำยอดขายถล่มทลายแบบฉุดไม่อยู่ไปมากกว่า 1,000,000 แผ่น กลายเป็นซิงเกิลขายดีอันดับ 1 ประจำปี 2005 และยังขายดีมาถึงปี 2006 ซึ่งยังติดอันดับขายดีอันดับ 3 ของปี 2006 อีกด้วย

แม้ว่า KAT-TUN จะโด่งดังถึงขนาดวงที่ออกผลงานแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับอนุมัติให้เดบิวอย่างเป็นทางการจนกระทั่ง 5 ปีหลังจากการก่อตั้งวง สมาชิกวง นากามารุ ได้เปิดเผยในภายหลังว่า วงเริ่มเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆว่าจะไม่มีโอกาสได้ออกอัลบั้ม ดังนั้นเขา พร้อมทั้ง คาเมะนาชิ และ อาคานิชิ ได้เข้าพบประธานบริษัทเพื่อขอให้อนุมัติให้วงได้เดบิว แต่ก็ได้รับแจ้งจากทางคุณจอห์นนี่ ว่า "บริษัทได้วางแผนยิ่งใหญ่สำหรับวงไว้แล้ว ให้จงมุ่งมั่นต่อไปก่อน~!"

2006: การเดบิว และ "Real Face"

พวกเค้าได้ถูกประกาศเดบิว อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2006 และในวัน ที่ 22 มี.ค. KAT-TUN ได้ออกซิงเกิลเดบิว "Real Face" พร้อมกับการออกอัลบั้ม Best of KAT-TUN รวมทั้ง DVD Real Face Film ทั้ง 3 ผลงานนี้ออกภายใต้สังกัดย่อยของตัวเองคือ J-One Records และวงยังได้ออกทัวร์ทั่วประเทศทันทีในทัวร์ชื่อ Live of KAT-TUN "Real Face" เพื่อซัพพอร์ตอัลบั้ม ในเวลาเพียงสัปดาห์แรก อัลบั้ม Best of KAT-TUN ซิงเกิล "Real Face" และดีวีดี Real Face Film ก็ขึ้นอันดับ 1 โอริคอนในชาร์ตทั้ง 3 ชาร์ต ด้วยยอดขาย 556,548 แผ่น, 754,234 แผ่น และ 374,202 แผ่นตามลำดับ[4] พวกเขาได้กลายเป็นศิลปินคนที่ 2 ของญี่ปุ่นที่สามารถเหมาอันดับ 1 บนชาร์ตทั้ง 3 ในคราวเดียว (ศิลปินที่ทำได้คนแรกคือ ฮามาซากิ อายุมิ) และด้วยตัวเลขยอดขาย ขนาดนี้ ทำให้คัตตุนกลายเป็นเจ้าของสถิติยอดขาย ซิงเกิลเดบิว สูงสุดในประวัติศาสตร์ (สถิตินี้เดิมเป็นของวง Arashi ด้วยยอดขายซิงเกิล Arashi จำนวน 557,000 แผ่นเมื่อปี 1999) [5]

นอกจากนี้ ซิงเกิล "Real Face" ยังได้ครองอันดับ 1 โอริคอนติดต่อกันถึง 3 สัปดาห์ ซึ่งทำให้กลายเป็นซิงเกิลแรกในรอบ 8 ปีที่ทำแบบนี้ได้ (ก่อนนี้หน้าเป็นซิงเกิลเดบิวของ KinKi Kids เพลง "Garasu no Shonen) [6] ซิงเกิลมียอดขายไปมากกว่าล้านแผ่นภายใน 9 สัปดาห์ และทำให้ Real Face กลายเป็นซิงเกิลที่ขายดีที่สุดของปี 2006[7]

ในเดือนมี.ค. 2006 KAT-TUN กลายเป็นวงแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถเปิดคอนเสิร์ตที่คอนเสิร์ตโดมที่ดัง ที่สุดของญี่ปุ่น โตเกียวโดม ตั้งแต่ก่อนเดบิว พวกเขาได้แสดงคอนเสิร์ตต่อหน้าแฟนๆ 110,000 คนใน 2 วัน และประมาณ 630,000 คนตลอดทั้งทัวร์

DVD คอนเสิร์ตที่ Tokyo Dome ชื่อ Live of KAT-TUN "Real Face" ได้วางแผงในปีถัดมา (2007) โดยDVD นี้กลายเป็นผลงานต่อเนื่องชิ้นที่ 5 ของพวกเขาที่ขึ้นอันดับ 1 Oricon ด้านยอดขายดีวีดีมิวสิค และยังทำสถิติใหม่ของยอดขายสัปดาห์แรกของปีนั้น KAT-TUN ครองสถิติยอดขายอันดับหนึ่งประจำปีของ Oricon musical DVD charts เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันสำหรับดีวีดีของพวกเขา

สามเดือนหลังจากออก Real Face คัตตุนก็ได้ออกซิงเกิลที่สองของพวกเขาคือ "Signal" และตามคาด ซิงเกิลขายไปมากกว่า 400,000 แผ่นในสัปดาห์แรกที่เปิดขาย

อย่างไรก็ตามวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2006 หนึ่งในสมาชิกที่ดังที่สุดของวง อาคานิชิ จิน ประกาศหยุดพักงานในฐานะวงเพื่อที่จะไปศึกษาด้านภาษาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยไม่ได้กำหนดระยะเวลาแน่นอน ทั้งนี้สร้างความตกใจและเสียใจให้แฟนคลับที่มีอยู่แทบทุกประเทศเนื่องจาก แถลงข่าวพักงานนั้นมีก่อนที่ซิงเกิล 3 จะวางขายไม่ถึงเดือน ทำให้ซิงเกิลดังกล่าวต้องเลื่อนวันวางแผงและมีการเปลี่ยนเพลงซึ่งก่อนหน้า นี้ระบุไว้ว่าจะเป็นเพลง You (ประกอบละคร Sapuri) เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ KAT-TUN กลายเป็นวง 5 คนอยู่นาน 6 เดือน[8][9]

สมาชิกที่เหลือยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องโดยออกซิ งเกิ้ลที่ 3 คือ โบะคุระ โนะ มาจิ เดะ "Bokura no Machi de" ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครของสมาชิกวง คาเมะนาชิ และ ทานากะ เรื่อง ทัตตะ ฮิโตทซึ โนะ โค้ย (Tatta Hitotsu no Koi) และได้ออกอัลบั้มที่ 2 ของพวกเขา ชื่อ Cartoon KAT-TUN II You เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.

ถึงตอน นี้ KAT-TUN ได้กลายเป็นวงแรกในญี่ปุ่นที่สามารถมีซิงเกิล 3 ซิ้งเกิ้ลจากเดบิวที่มียอดขายเกิน 500,000 แผ่นใน 1 ปี จนได้ตำแหน่งที่ 1 ที่ 5 และ ที่ 13 ในอันดับซิงเกิลขายดีประจำปีของโอริกอน[7]

2007: Cartoon KAT-TUN II You

ภายใต้ ชื่อเดียวกับอัลบั้มที่สองของวง KAT-TUN ได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ Tour 2007 Cartoon KAT-TUN II You ซึ่งยังคงปราศจาก อาคานิชิ จิน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. วันถัดมา KAT-TUN ได้เริ่มรายการวาไรตี้โชว์ของตัวเองชื่อ Cartoon KAT-TUN ซึ่งออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.55-00.26 น.

อาคานิชิ เดินทางกลับสู่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 19 เม.ย. และกลับไปทำงานในวันที่ 20 เม.ย. มีการจัดงานแถลงข่าว พร้อมสมาชิกคัตตุนครบวง อาคานิชิปรากฏตัวร่วมกับสมาชิกคัตตุนอื่นๆในการทัวร์ คอนเสิร์ตวันที่ 21 ที่ เซนได ในช่วงอองกอร์ และถือเป็นการกลับมาสู่ KAT-TUN อย่างเป็นทางการ

วันที่ 6 มิ.ย. KAT-TUN ออกซิงเกิลที่ 4 เพลง โยโรโคบิ โนะ อุตะ "Yorokobi no Uta" ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครของ ทานากะ เรื่อง โตคคิว ทานากะ ซัน โกะ (Tokkyu Tanaka 3 Go) ซิงเกิลนี้ขึ้นอันดับ 1 weekly chart

วันที่ 21 มิ.ย. พวกเราออกซิงเกิลอย่างต่อเนื่องด้วยซิงเกิลที่ 5 เพลง คีฟ เดอะ เฟธ "Keep the Faith" เป็นเพลงประกอบละครของละครของ อาคานิชิ และ ทากุจิ เรื่อง ยูคัง คลับ (Yukan Club) รวมถึง DVD คอนเสิร์ตที่ Tokyo Dome ชื่อ Live of KAT-TUN "Real Face" DVD นี้กลายเป็นผลงานต่อเนื่องชิ้นที่ 5 ของพวกเขาที่ขึ้นอันดับ 1 Oricon ด้านยอดขายดีวีดีมิวสิค และยังทำสถิติยอดขายสัปดาห์แรกใหม่ของปีนั้น KAT-TUN ครองสถิติยอดขายอันดับหนึ่งประจำปีของ Oricon musical DVD charts เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันสำหรับดีวีดีของพวกเขา

ณ จุดนี้ หลังจาก KinKi Kids แล้ว KAT-TUN เป็นศิลปินที่ 2 ที่สามารถมีซิงเกิลทั้งหมดจากเดบิวที่มียอดขายสูงกว่า 300,000 ในสัปดาห์แรกที่วางขาย

2008: Queen of Pirates

KAT-TUN ออกซิงเกิลเพลงประกอบละครของ คาเมะนาชิ ที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง อิจิ พอนโดะ โนะ ฟุคุอิน (One Pound Gospel) ชื่อเพลง LIPS เป็นซิงเกิลที่ 6 ของพวกเขาเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ซิงเกิลก็ขึ้นอันดับ 1 โอริกอน เพลงนี้เป็น hardrock หนักที่สุดในบรรดาซิงเกิลทั้งหมดของพวกเขาเลยทีเดียว

KAT-TUN ออกซิงเกิลที่ 7 เพลง "Don't U Ever Stop" เมื่อวันที่ 14 พ.ค. และขึ้นอันดับ 1 โอริกอน วันที่ 15 พ.ค. ช่วงที่ MC โปรโมทซิงเกิล "Don't U Ever Stop" ในรายการ Music Station คาเมะนาชิได้ประกาศว่ามีการเพิ่มรอบคอนเสิร์ตที่ Tokyo Dome อีก 2 รอบ ทำให้กลายเป็นทั้งหมด 4 รอบต่อเนื่องที่ Tokyo Dome นี่เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับ Tokyo Dome โดย KAT-TUN กลายเป็นวงแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถเปิดคอนเสิร์ตที่โตเกียวโดมอย่างต่อ เนื่องได้ถึง 4 รอบตั้งแต่เปิดใช้มา ก่อนหน้านี้มีสถิติ 3 รอบต่อเนื่องที่ทำไว้โดย SMAP, X Japan และ Ayumi Hamasaki วง The Rolling Stones และ Michael Jackson ได้แสดงหลายครั้งที่โดม แต่ว่าไม่ใช่การแสดงต่อเนื่อง

วันที่ 4 มิ.ย. KAT-TUN วางแผงอัลบั้มที่ 3 ของพวกเขา KAT-TUN III: Queen of Pirates

วัน ที่ 3 ธ.ค. KAT-TUN ออกซิงเกิล "White X'mas" เป็นซิงเกิลคริสต์มาสเพลงแรกของพวกเขา ซิงเกิลมี 2 เวอร์ชัน และวางขายในช่วงคริสต์มาสเท่านั้น ซิงเกิลที่มีไม่ได้เป็น tie-in และไม่มี B-side แถมเลย ก็ยังสามารถขายได้ค่อนข้างดี โดยทำยอดขายในสัปดาห์แรกไป 250,000 แผ่น

KAT-TUN ประกาศวางแผงซิงเกิลใหม่ "One Drop" เพื่อเป็นเพลงประกอบละครของ คาเมะนาชิ Kami no Shizuku ในอีก 2 เดือนถัดมา ซึ่งก็ขึ้นอันดับ 1 เช่นเดียวกัน

2009: Break the Records: By You & For You

วัน ที่ 1 ม.ค. มีประกาศว่า คาเมะนาชิ จะแสดงละครเวที Dream Boys ต่ออีกปีในเดือน ก.ย. จำนวนทั้งสิ้น 38 รอบ ละครเวทีเรื่องนี้เปิดแสดงกันต่อเนื่องมาถึง 6 ปี นอกจากนี้ KAT-TUN ยังได้วางแผงดีวีดี KAT-TUN Live Tour 2008 Queen of Pirates ซึ่งถ่ายจากวันสุดท้ายใน 4 รอบที่โตเกียวโดม

วันที่ 11 ก.พ. KAT-TUN ออกซิงเกิล "One Drop" ซึ่งได้กลายเป็นซิงเกิลอันดับ 1 เพลงที่ 9 จากเดบิว ขายไป 281,359 แผ่นในสัปดาห์แรก หนึ่งเดือนถัดมา วันที่ 11 มี.ค. KAT-TUN ออกซิงเกิล "Rescue" ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครของ นากามารุ เรื่อง เรสคิว : โทคุเบทสึ โคโดะ คิวโจไต (Rescue: Tokubetsu Kodo Kyujotai) ซิงเกิลนี้ได้กลายเป็นซิงเกิลอันดับ 1 เพลงที่ 10 ติดต่อกันจากเดบิวของคัตตุน ขายไป 322,597 แผ่นในสัปดาห์แรก ด้วยความสำเร็จนี้ ทำให้ KAT-TUN ได้มาอยู่อันดับเดียวกันกับวง News ในการเป็นอันดับ 2 ของศิลปินที่มีซิงเกิลอันดับ 1 จากเดบิวมากที่สุด (Kinki Kids ครองอันดับ 1 ด้วยยอด 29 เพลง)

29 เม.ย. อัลบั้ม Break the Records: By You & For You วางแผง ถือเป็นอัลบั้มที่ 4 ของคัตตุน

ก่อน หน้านี้มีการประกาศว่าคัตตุนจะเปิดคอนเสิร์ตต่อเนื่องถึง 7 รอบที่โตเกียวโดมซึ่งเป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ตในร่มที่มีเกียรติที่สุด และใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งได้ทำให้คัตตุนเป็นศิลปินแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำได้ อย่างไร ก็ตาม สิ้นเดือนมี.ค. เนื่องจากจำนวนตั๋วคอนเสิร์ตที่ถูกจองไปล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก คัตตุนจึงได้เปิดรอบเพิ่ม โดยทำให้คัตตุนเปิดคอนเสิร์ตที่โตเกียวโดมถึง 8 รอบติดต่อกันจาก 15-22 พ.ค. ตามด้วย 29-31 พ.ค.ที่โอซาก้า แล้วกลับมาอีก 2 รอบที่ โตเกียวโดม กลายเป็นจำนวนทั้งสิ้น 13 รอบคอนเสิร์ตใน 2 เมือง และ 10 วันที่โตเกียวโดม การขายบัตร 8 รอบที่โตเกียวโดมของ KAT-TUN มีขึ้นวันที่ 4 เม.ย. และในวันเดียวกันนั้นเอง ตั๋วทั้งหมด 440,000 ใบ ก็ soldout หลังจาก 8 วันที่โตเกียวโดม คัตตุนประกาศว่าจะทัวร์ซัมเมอร์คอนเสิร์ตทั่วญี่ปุ่น โดยเริ่มวันที่ 7 ก.ค.

วัน ที่ 24 พ.ค. มีรายงานว่า คุณจอห์นนี่ คิตะกาว่า ได้ส่งสถิติของคัตตุนที่แสดงคอนเสิร์ตต่อเนื่อง 8 วันที่โตเกียวโดม ให้บันทึกลง Guinness World Records ในฐานะสถิติการแสดงคอนเสิร์ตต่อเนื่องมากที่สุดในสเตเดียมที่มีความจุ มากกว่า 50000 คน

2010: การทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศ และการลาออกของ อาคานิชิ จิน

วันที่ 10 ก.พ. KAT-TUN ออกซิงเกิลแรกหลังจากซิงเกิลที่แล้วเมื่อ มี.ค. 2009 ชื่อเพลง Love Yourself (Kimi ga Kirai na Kimi ga Suki) ถูกใช้เป็นเพลงประกอบละครของคาเมนาชิ ซึ่งดัดแปลงจากผลงานหนังสือการ์ตูนของ ฮายาคาว่า โทโมโกะ เรื่อง Yamato Nadeshiko Shichihenge (หรือชื่อไทย หนุ่มหล่อเฟี้ยว แปลงโฉมสาว) ออกอากาศครั้งแรก 15 ม.ค.ทาง TBS ซิงเกิลนี้ขึ้นอันดับ 1 ประจำสัปดาห์บนโอริกอน ทำให้กลายเป็นซิงเกิลอันดับ 1 เพลงที่ 11 ติดต่อกันจากเดบิว และได้เป็นซิงเกิลแรกของ KAT-TUN ที่มียอดขายสัปดาห์แรกมากกว่า 350,000 แผ่น ตั้งแต่ พ.ค. 2008 กับซิงเกิล "Don't U Ever Stop" ซึ่งมียอดขายสัปดาห์แรกมากกว่า 381,000 แผ่น

วันที่ 24 มี.ค. Johnny & Associates ประกาศการทัวร์เอเชียครั้งแรกของ KAT-TUN ในแบบวง 5 คน ในขณะที่ อาคานิชิ จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวใน Los Angeles ทำให้เขากลายเป็นจอห์นนี่คนแรกที่ได้แสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวในสหรัฐอเมริกา KAT-TUN เริ่มทัวร์เอเชียจากต้นเดือนพ.ค.จนถึงปลายเดือนส.ค. และถึงแม้ว่าคอนเสิร์ตส่วนใหญ่จะจัดในญี่ปุ่น KAT-TUN วางแผนมีคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ วันที่ 31 ก.ค., โซล 6-7 ส.ค. และ ไทเป 27-28 ส.ค. เนื่องจากว่าไม่ได้ร่วมทัวร์เอเชียและโปรโมทซิงเกิล อาคานิชิ จึงไม่ได้เข้าร่วมอัดเสียงซิงเกิลที่ 12 ของ KAT-TUN คือเพลง "Going!" ซึ่งจะวางแผงวันที่ 12 พ.ค. เนื่องด้วยความไม่สงบทางการเมืองในประเทศไทย Johnny & Associates ประกาศเมื่อวันที่ 15 พ.ค. เลื่อนคอนเสิร์ต KAT-TUN ในกรุงเทพฯ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

KAT-TUN วางอัลบั้มแรกในปี 2010 ชื่อ No More Pain เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. อัลบั้มขึ้นอันดับ 1 ประจำสัปดาห์ของโอริกอน และกลายเป็นอัลบั้มอันดับ 1 ชุดที่ 5 ติดต่อกันของวง

Johnny & Associates ประกาศวันที่ 17 ก.ค. ว่าอาคานิชิ จะออกจากวงในปลายปี 2010 เพื่อเป็นศิลปินเดี่ยว ในขณะที่สมาชิกอีก 5 คนจะทำงานต่อไปในฐานะวงห้าคน วันที่ 21 ก.ค. อาคานิชิ ยืนยันผ่านเว็บไซต์มือถือทางการ Johnny's Web ว่าเขาจะออกจาก KAT-TUN เพื่อมุ่งมั่นในฐานะศิลปินเดี่ยว

KAT-TUN ยังคงสร้างผลงานต่อไปในฐานะวง 5 คน ในวันที่ 28 ส.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของ World Big Tour 2010 KAT-TUN ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงแผนการทัวร์คอนเสิร์ตปี 2011 เพื่อฉลองการเดบิวครบรอบ 5 ปี โดยจะทัวร์คอนเสิร์ตในนิคมอุตสาหกรรมใน 5 เมืองใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น และเปิดคอนเสิร์ตต่างประเทศใน 5 ประเทศ ได้แก่ เกาหลี ไต้หวัน ไทย จีน และ ฮาวาย (ประเทศสหรัฐอเมริกา) [10] [11] คอนเสิร์ตที่ฮาวายจะทำให้พวกเขากลายเป็นศิลปินจอห์นนี่รายแรกที่ได้เปิดคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการที่ฮาวายด้วย[12]

ในวันที่ 13 ตุลาคม KAT-TUN ได้ประกาศการวางแผงซิงเกิลใหม่ "Change Ur World" ซึ่งเป็นซิงเกิลที่ 13 ของวง และเป็นซิงเกิลแรกหลังจากการลาออกของอาคานิชิ จิน อย่างเป็นทางการ ซิงเกิลนี้วางแผงวันที่ 17 พฤศจิกายน [13]

การมาเยือนประเทศไทย

คัตตุนมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการทั้งหมดจนถึงปัจจุบันจำนวน 4 ครั้ง ตั้งแต่ก่อนเดบิว โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มศิลปินจอห์นนี่ส์จูเนียร์ ที่เป็น backing dancer ให้กับ Tackey & Tsubasa

มีนาคม 2010 คัตตุนประกาศ World Big Tour 2010 โดยวางแผนให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกนอกญี่ปุ่นที่คัตตุนจะมาเยือน วงมีแผนเดินทางมาโปรโมทในไทยในเดือน เม.ย. และจัดคอนเสิร์ต ณ อิมแพ็ค อารีน่า วันที่ 31 ก.ค. แต่แผนทุกอย่างถูกยกเลิกเพราะสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของไทย

สิงหาคม 2010 คัตตุนและต้นสังกัดประกาศแผนทัวร์คอนเสิร์ตปี 2011 ใน 5 ประเทศ รวมทั้ง ประเทศไทย

  • 2002 Pattaya Music Festival (19-25 มี.ค.)
  • 2003 Pattaya Music Festival (19-24 มี.ค.)
  • 2003 J-Asean Pops Concert ณ อิมแพ็ค อารีน่า (26 ต.ค.)
  • 2004 Thai J-Pop Concert ณ อิมแพ็ค อารีน่า (24 ก.ค.)
  • 2010 KAT-TUN World Big Tour Live In Bangkok (ยกเลิกเพราะความไม่สงบทางการเมืองในประเทศไทย)

แหล่งที่มา

WikiPedia: คัต-ตุน http://www.allmusic.com/artist/kat-tun-p814258 http://www.sanspo.com/geino/news/100828/gng1008280... http://www.tokyograph.com/news/id-187 http://www.tokyograph.com/news/id-928 http://www.cdjapan.co.jp/detailview.html?KEY=JEBN-... http://www.j-storm.co.jp/kattun/ http://www.oricon.co.jp/music/special/060322_02.ht... http://www.oricon.co.jp/music/special/061221_02.ht... http://www.oricon.co.jp/news/ranking/16719/ http://www.oricon.co.jp/news/ranking/18199/