ผู้ตาย ของ ฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์

นักวิจัยส่วนใหญ่เห็นว่า ผู้ตายที่แน่ชัดที่สุดมีสิบสองคน แม้ว่าปัจจุบันมีพยานหลักฐานใหม่ที่ยันว่า ที่แน่ชัดควรเป็นสิบสามคน รวมเอาหญิงนิรนามที่เรียกกันว่า "นางทะเลสาบ" เข้าไว้ด้วย ในบรรดาผู้ตายสิบสองคนดังกล่าวนี้ มีเพียงสองคนที่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ ที่เหลืออีกอีกสิบคน แบ่งเป็น ชายหกคน ซึ่งเรียก นาย ก ถึงนาย ฉ และเป็นหญิงอีกสี่คน ซึ่งเรียก นาง ช ถึงนาง ญ

ลำดับที่พบศพผู้ตายวันที่พบสถานที่พบรายงานการชันสูตรพลิกศพเวลาที่น่าจะตายวันที่ถูกฆ่าลำดับที่น่าจะถูกฆ่า
1นาย ก23 กันยายน 1935บริเวณเขาแจ็กแอส (Jackass Hill) ที่ลำน้ำคิงส์บิวรี ใกล้ถนนตะวันออกที่ 49 (East 49th Avenue) กับถนนปราฮา (Praha Avenue)ไม่อาจพิสูจน์อัตลักษณ์ได้จนบัดนี้ ส่วนศีรษะนั้นพบแล้วเบื้องต้น ประเมินว่าน่าจะตายมาแล้วเจ็ดถึงสิบวันก่อนพบศพ ต่อมาเปลี่ยนเป็นสามถึงสี่สัปดาห์ก่อนพบศพเดือนสิงหาคมหรือกันยายน 19351
2เอ็ดเวิร์ด ดับเบิลยู. แอนแดรสซี
(Edward W. Andrassy)
23 กันยายน 1935บริเวณเขาแจ็กแอส ที่ลำน้ำคิงส์บิวรีพบศพของเอ็ดเวิร์ดห่างจากศพของนาย ก ไปสามสิบฟุต ส่วนศีรษะนั้นพบแล้วสองถึงสามวันก่อนพบศพกันยายน 19352
3ฟลอเรนซ์ เจเนวีฟ พอลิลโล
(Florence Genevieve Polillo)
หรือ มาร์ติน (Martin)
26 มกราคม 1936ระหว่างซอย 2315 และซอย 2325 ของถนนตะวันออกที่ 20 ในใจกลางเมืองคลีฟแลนด์ร่างถูกซอยเป็นชิ้น ๆ ส่วนศีรษะนั้นยังไม่พบสองถึงสี่วันก่อนพบศพมกราคม 19363
4นาย ข5 มิถุนายน 1936ลำน้ำคิงส์บิวรีถูกตัดศีรษะทั้งเป็น และศีรษะก็พบแล้วสองวันก่อนพบศพมิถุนายน 19365
5นาย ค22 กรกฎาคม 1936บริเวณบิกครีก (Big Creek), นครบรูกลิน (City of Brooklyn) ตะวันตกของเมืองคลีฟแลนด์ถูกหั่นร่างกายทั้งเป็น ส่วนศีรษะนั้นพบแล้ว ผู้ตายคนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่ตรวจพบในทางตะวันตกของเมืองสองเดือนก่อนพบศพพฤษภาคม 19364
6นาย ง10 กันยายน 1936ลำน้ำคิงส์บิวรีพบศพเพียงท่อนบน ส่วนท่อนล่างตั้งแต่สะโพกลงมานั้น ไม่เหลือซากให้พบ ส่วนศีรษะก็ไม่พบ และไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ด้วยสองวันก่อนพบศพกันยายน 19367
7นาง ช23 กุมภาพันธ์ 1937อุทยานหาดยูคลิด (Euclid Beach Park) บนชายฝั่งของทะเลสาบเอรี (Lake Erie)มีศพหญิงอีกศพพบในจุดเดียวกันเมื่อ 1934 แต่ไม่นับกันว่าเป็นผู้ตายโดยฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์นี้ หญิงนี้เรียกกันว่า "นางทะเลสาบ" และศีรษะของนางทะเลสาบก็ไม่พบจนบัดนี้สามถึงสี่วันก่อนพบศพกุมภาพันธ์ 19378
8นาง ซ6 มิถุนายน 1937ใต้สะพาน สะพานอนุสรณ์โฮป (Hope Memorial Bridge) ซึ่งสมัยนั้นเรียก สะพานลอเรน-คาร์เนกี (Lorain-Carnegie bridge)เป็นผู้ตายคนเดียวที่เป็นชาวอเมริกันพื้นเมือง (คนดำ) ศีรษะถูกตัด และซี่โครงถูกรื้อหายไป บัดนี้ พบศีรษะแล้วหนึ่งปีก่อนพบศพมิถุนายน 19366
9นาย จ6 กรกฎาคม 1937โผล่ออกมาจากแม่น้ำคูยาโฮกา (Cuyahoga River) แถวแฟลตรูหนูคลีฟแลนด์พบแต่ร่าง แต่ศีรษะไม่พบสองถึงสามวันก่อนพบศพกรกฎาคม 19379
10นาง ฌ8 เมษายน 1938แม่น้ำคูยาโฮกา แถวแฟลตรูหนูคลีฟแลนด์พบแต่แข้ง ศีรษะและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายนั้นหาไม่พบ และเป็นผู้ตายคนเดียวที่ปรากฏสารเคมีในร่างกายเมื่อถูกฆ่าสามถึงห้าวันก่อนพบเมษายน 193812
11นาง ญ16 สิงหาคม 1938ถนนตะวันออกที่ 9 แถวเลกชอร์ดัมป์ (Lakeshore Dump)พบศพ และพบศีรษะสี่ถึงหกเดือนก่อนพบศพกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 193811
12นาย ฉ16 สิงหาคม 1938ถนนตะวันออกที่ 9 แถวเลกชอร์ดัมป์พบพร้อมกันกับศพของนาย จ ศพของนาย ฉ ถูกตัดศีรษะ และศีรษะนั้นพบถูกยัดอยู่ในกระป๋องเจ็ดถึงเก้าเดือนก่อนพบศพพฤศจิกายน 1937 ถึงมกราคม 193810

ผู้ตายคนนี้ มีรอยสักประหลาดหลายรอยอยู่บนร่างกาย รอยหนึ่งเป็นชื่อคน นามว่า "เฮเลนกับพอล" (Helen and Paul) อีกรอยเป็นชื่อย่อ ว่า "ดับเบิลยู.ซี.จี." (W.C.G.) กางเกงในที่สวมอยู่กับศพมีตราร้านซักรีด ระบุชื่อย่อของเจ้าของกางเกงในว่า "เจ.ดี." (J.D.) มีชาวเมืองคลีฟแลนด์นับพันเข้าชมศพบรรจุโลงและหน้ากากศพซึ่งจัดแสดงที่ นิทรรศการเกรตเลกส์ (Great Lakes Exposition) แต่ก็ไม่ช่วยพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้ตาย

ผู้ตายคนนี้ เป็นไปได้ว่า คือ "โรส วอลเลส" (Rose Wallace) เจ้าพนักงานตำรวจตรวจพิสูจน์ฟันของผู้ตายแล้ว พบว่า มีโครงสร้างพันธุกรรมอย่างเดียวกับชายที่แสดงตัวและระบุว่าผู้ตายน่าจะเป็นมารดาของตน โชคร้ายที่พนักงานแพทย์ผู้ตรวจพิสูจน์ได้ตายลงก่อน ประกอบกับที่ผู้ตายนั้นตายมาเป็นปี โดยที่ศพหายไปกว่าสิบเดือนถึงพบ การพิสูจน์อัตลักษณ์จึงกลายเป็นพ้นวิสัยไป

ผู้ที่น่าจะตายเนื่องในฆาตกรรมต่อเนื่องนี้

มีการถกกันว่า มีอีกหลายคนที่น่าจะถูกฆ่าเนื่องในฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ ในจำนวนนั้น รายแรก เป็นสตรีนิรนาม ได้ชื่อว่า "นางทะเลสาบ" เพราะพบศพของเธอใกล้หาดยูคลิด บนชายฝั่งทะเลสาบเลกเอรี เมื่อวันที่ 5 กันยายน 1934 อันเป็นจุดเดียวกับที่พบศพของนาง ช เนื่องจากถูกพบก่อนใครเพื่อน จึงมีผู้เรียกศพของหญิงนี้ว่า "นางหมายเลข 0" (Victim Zero) ด้วย

ศพชายนิรนามศีรษะขาดอีกศพ พบอยู่ในรถไฟบรรทุก (boxcar) ที่เมืองนิวแคสเซิล (New Castle) รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1936 ส่วนศพศีรษะขาดอีกสามราย พบอยู่ในรถไฟบรรทุกใกล้เมืองแมกคีส์ร็อกส์ (McKees Rocks) รัฐเดียวกัน เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 1940 ศพทั้งหมดมีร่องรอยบาดแผลอย่างเดียวกับในศพทั้งสิบสองข้างต้น มีศพถูกชำแหละอีกจำนวนหนึ่งพบอยู่ในหนองใกล้เมืองนิวแคสเซิล รัฐเพนซิลเวเนีย ในช่วงปี 1921 ถึง 1934 และปี 1939 ถึง 1942

อีกศพ ซึ่งพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วว่าคือ รอเบิร์ต รอเบิร์ตสัน พบที่อาคารธุรกิจแถวแถนนดาเวนพอร์ต (Davenport Avenue) ซอย 2138 ในเมืองคลีฟแลนด์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 1950 ชายผู้นี้ถูกฆ่ามาแล้วหกถึงแปดสัปดาห์ก่อนพบ และศีรษะก็ถูกตัดไปโดยเจตนา

ใกล้เคียง

ฆาตกรจักรราศี ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์ ฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรรมหมู่ในนครชิคาโกด้วยยาไทลินอล พ.ศ. 2525 ฆาตกรรมในตระกูลอินุงามิ ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่ ฆาตกรตัวอักษร ฆาตกรรม ความตาย และสายฝน ฆาตกรล่องหน