รายละเอียดการจัดงาน ของ งานประกาศผลรางวัลออสการ์_ครั้งที่_93

ในมติที่ประชุมของสมาชิกอคาเดมี หรือสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563 ลงมติให้ยุบรวมสาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม และสาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม เข้าด้วยกันเป็นสาขาเสียงประกอบยอดเยี่ยม เนื่องจากทั้งสองสาขาทำให้เกิดความกังวลถึงรายละเอียดและขอบเขตในการตัดสินรางวัลที่ทับซ้อนกันมากเกินไป[6] นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงกฎการตัดสินในสาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม คือ ภาพยนตร์ที่จะถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาดังกล่าว ต้องมีดนตรีประกอบที่สร้างขึ้นมาใหม่คิดเป็น 60% ของภาพยนตร์ทั้งเรื่อง ส่วนภาพยนตร์ที่เป็นภาคต่อหรือภาพยนตร์ที่เป็นชุด ต้องมีดนตรีประกอบที่สร้างขึ้นมาใหม่คิดเป็น 80% ของภาพยนตร์ทั้งเรื่อง[6] และในสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม มอบสิทธิ์ให้สมาชิกของอคาเดมีทุกคนมีสิทธิ์ร่วมลงคะแนนในรอบคัดเลือก[6]

ในฐานะที่อคาเดมี เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม การแจกจ่ายเอกสารด้านภาพยนตร์ที่จับต้องได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สำเนาภาพยนตร์, สำเนาบทภาพยนตร์ หรือซีดีเพลง จะถูกยกเลิกหลังจากงานประกาศผลรางวัลออสการ์ในครั้งนี้สิ้นสุดลง และจะเริ่มให้บริการดังกล่าวผ่านบริการสตรีมออนไลน์ "Academy Screening Room" แก่สมาชิกของอคาเดมีต่อไป[6]

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ได้มีการประกาศออกมาว่าเจสซี คอลลินส์, สเตซี เชอร์ และสตีเวน โซเดอร์เบิร์ก ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นโปรดิวเซอร์ในงานประกาศผลรางวัลครั้งนี้[7] ส่วน Glenn Weiss รับหน้าที่เป็นผู้กำกับงาน[8] และยังคงไม่ใช้พิธีกรหลักในการดำเนินงานเหมือนเช่นปีที่ผ่านมา[9]

เกร็ดความรู้ของผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล

แมงค์ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดถึง 10 รางวัล และเป็นภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่กลับไม่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และยังถือเป็นปีแรกนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ที่ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาการแสดงด้วยอย่างน้อยหนึ่งรางวัล จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ได้เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยมีผู้อำนวยการสร้างเป็นชาวผิวสีทั้งหมด และ Collective นับเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงทั้งสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม และสาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ต่อจากภาพยนตร์เรื่อง Honeyland

นับเป็นปีแรกที่มีผู้กำกับหญิงถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม มากกว่าหนึ่งคน ได้แก่ โคลอี เจา และ เอมเมอรัลด์ เฟนเนลล์ อีกทั้งผู้กำกับหญิงทั้งสองคนยังถือเป็นผู้หญิงคนที่สอง และสาม ต่อจากโซเฟีย คอปโปลา เมื่อปี 2003 ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในฐานะผู้อำนวยการสร้าง และผู้เขียนบทจากภาพยนตร์ของตัวเองอีกด้วย, โคลอี เจา เป็นบุคคลที่สาม และผู้หญิงคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงทั้งในฐานะผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ ผู้เขียนบท และผู้ตัดต่อ ต่อจากพี่น้องโคเอน เมื่อปี 2008 (ถึงแม้พี่น้องโคเอนจะอ้างว่า Roderick Jaynes เป็นผู้ตัดต่อ) นอกจากนี้ยังเป็นปีแรกที่มีผู้กำกับเชื้อสายเอเชียถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม มากกว่าหนึ่งคน ได้แก่ โคลอี เจา และ ลี ไอแซก ชุง นอกจากนี้ Another Round เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามต่อจากภาพยนตร์เรื่อง ปล้ำแค่ตาย และ Cold War ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่กลับไม่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

สตีเว่น ยอน เป็นนักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง มินาริ และริซ อาห์เมด เป็นนักแสดงชายมุสลิมคนแรกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง เสียงที่หายไป[10], แชดวิก โบสแมน เป็นนักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว, แอนโทนี ฮ็อปกินส์ กลายเป็นนักแสดงชายที่มีอายุมากที่สุดที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในวัย 83 ปี, วิโอลา เดวิส และแอนดรา เดย์ เป็นนักแสดงหญิงผิวสีคู่ที่สองที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในปีเดียวกัน ต่อจากไดอานา รอสส์ และ ซิซิลี ไทสัน อีกทั้งแอนดรา เดย์ และซิซิลี ไทสัน ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงจากบทบาทบิลลี ฮอลิเดย์ เหมือนกันอีกด้วย นอกจากนี้ วิโอลา เดวิส ยังกลายเป็นนักแสดงหญิงผิวสีที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาการแสดงมากที่สุดถึง 4 ครั้ง

เลสลี่ โอดอม จูเนียร์ เป็นบุคคลที่สี่และผู้ชายคนแรกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาการแสดง และสาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน ต่อจากแมรี เจ. ไบลจ์, เลดีกากา และซินเธีย เอริโว นอกจากนี้ ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในฐานะผู้อำนวยการสร้าง และฐานะนักแสดงนำหญิง จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน

แอนน์ รอธ ในวัย 89 ปี นับเป็นบุคคลที่มีอายุมากที่สุดอันดับที่สามที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ตามหลังสถิติของอาเญส วาร์ดา และ เจมส์ ไอวอรี ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 90 ไม่กี่เดือนตามลำดับ

แดเนียล คาลูยา และ ลาคีธ สแตนฟิลด์ จากภาพยนตร์เรื่อง จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม พร้อมกันทั้งคู่ ทั้งที่วอร์เนอร์บราเธอส์ บริษัทผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ ระบุว่า ลาคีธ สแตนฟิลด์ รับบทเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์ สร้างความสับสนแก่สาธารณชนเป็นอย่างมาก[11] นอกจากนี้ มาเรีย บาคาโลวา และ ยูน ยอ จอง เป็นนักแสดงชาวบัลแกเรีย และชาวเกาหลีใต้คนแรกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาการแสดงตามลำดับ

งานประกาศผลรางวัลออสการ์ในครั้งนี้ มีผู้หญิงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในสาขาต่าง ๆ มากถึง 17 สาขา ที่สำคัญได้แก่ นับเป็นครั้งแรกที่ภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้หญิง ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม มากกว่าหนึ่งเรื่อง ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง The One and Only Ivan และ มู่หลาน นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์มากถึง 16 เรื่องจากบริษัทผลิตภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง เน็ตฟลิกซ์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากถึง 35 รางวัลในทุกสาขา ยกเว้นสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม เท่านั้น

ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19

การระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์อเมริกัน รวมถึงทำให้การผลิตภาพยนตร์หยุดชะงักไป มีการปิดโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ เนื่องจากข้อจำกัดด้านการค้าและการชุมนุมสาธารณะ คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่องานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 93 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านคุณสมบัติของภาพยนตร์ที่จะถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ซึ่งกำหนดให้ภาพยนตร์ดังกล่าวต้องฉายภายในโรงภาพยนตร์เขตลอสแอนเจลิส อย่างน้อย 7 วัน โดยมีการฉายอย่างน้อย 3 รอบต่อวัน ในขณะเดียวกันรางวัลลูกโลกทองคำ ก็ได้เปลี่ยนคุณสมบัติสำหรับภาพยนตร์ที่จะเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในปี 2021 เช่นเดียวกัน เพื่อให้ภาพยนตร์ที่มีแผนกำหนดไว้แต่แรกว่ามีกำหนดเข้าฉายตามโรงภาพยนตร์ในลอสแอนเจลิส ระหว่างวันที่ 15 มีนาคมถึง 30 เมษายน มีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล แม้ภายหลังจะเลือกเผยแพร่โดยตรงผ่านระบบสตรีมมิ่ง[12] สำหรับรางวัลออสการ์นั้น อคาเดมีระบุว่า "อยู่ระหว่างการประเมินในทุกแง่มุมของกฎเกณฑ์ที่ไม่แน่นอนนี้และอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง"[12]

สถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ เลื่อนการประชุมไปจนถึงวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563[13][14] โดยมีมติอนุญาตให้ภาพยนตร์ที่ออกฉายครั้งแรกผ่านการป้องกันด้วยรหัสผ่าน (ครอบคลุมไปถึงบริการสตรีมมิงแบบสมัครสมาชิก) หรือบริการวีดิทัศน์ตามคำขอ มีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 93 หากเดิมมีกำหนดจะฉายผ่านโรงภาพยนตร์อยู่แล้ว และต้องให้สมาชิกได้รับชมผ่านเว็บไซต์ภายใน 60 วันนับจากวันที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นออกฉายในรูปแบบสตรีมมิง หรือวีดีโอ และเมื่อโรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการตามปกติ กฎเดิมก็จะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง นอกจากนี้เพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติตามเกณฑ์ดังกล่าว การฉายในโรงภาพยนตร์จะได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้นในเมืองอื่น ๆ นอกเหนือจากลอสแอนเจลิส โดยเฉพาะแอตแลนตา, ชิคาโก, ไมแอมี, นิวยอร์ก และบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก[6][15][16]

สำหรับการเลื่อนการจัดงานตามกำหนดเดิม[17] เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2563 อคาเดมีระบุว่างานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 93 จะถูกเลื่อนออกไปอีกสองเดือนจากวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เป็นวันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2564 พร้อมทั้งขยายกำหนดระยะเวลาการฉายของภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ที่จะเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ออกไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564[18] ในแถลงการณ์ร่วมของ David Rubin ประธาน และ Dawn Hudson กรรมการผู้จัดการของอคาเดมี กล่าวว่า "เป็นเวลากว่าศตวรรษที่ภาพยนตร์มีบทบาทสำคัญในการปลอบโยนสร้างแรงบันดาลใจและให้ความบันเทิงแก่เราในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด การขยายระยะเวลาการฉายภาพยนตร์ที่มีสิทธิ์เสนอชื่อเข้าชิงรางวัล และการเลื่อนการจัดงานประกาศผลรางวัลออกไป จะทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีความจำเป็นต้องยืดหยุ่นระยะเวลาการถ่ายทำและเผยแพร่ภาพยนตร์ของพวกเขา ปราศจากการถูกคาดโทษจากสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของพวกเขา"[18] นอกจากนี้การประกาศผลรางวัลออสการ์เกียรติยศ และรางวัลออสการ์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคนิคภาพยนตร์ ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด[18] ภายหลังจากนั้น งานประกาศผลรางวัลแบฟตา ก็เลื่อนจากเดือนกุมภาพันธ์ ไปจัดช่วงเดือนเมษายนแทน[18] ในขณะที่รางวัลลูกโลกทองคำ เลื่อนไปจัดงานแทนกำหนดการเดิมของออสการ์คือวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564[19]

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2563 อคาเดมีได้ออกคำชี้แจงถึงคุณสมบัติเพิ่มเติมของภาพยนตร์ที่มีสิทธิ์ถูกเสนอชื่อเข้าชิงว่า ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แบบขับรถยนต์เข้าไปชมอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ตามเมืองที่กำหนด มีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลด้วย[20]

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ตัวแทนของอคาเดมีให้สัมภาษณ์กับนิตยสารวาไรตี้ ถึงรูปแบบการจัดงานว่าอาจจะเป็นการจัดงานแบบมีการปรากฏตัวของผู้เข้าชิงในงาน แตกต่างจากรูปแบบการสื่อสารทางไกลแบบงานประกาศผลรางวัลเอมมี ครั้งที่ 72 ที่ผู้ประกาศผลรางวัล และผู้เข้าชิงรางวัล อยู่คนละสถานที่กัน[21] และเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2564 อคาเดมีประกาศว่างานประกาศรางวัลจะจัดขึ้นที่สถานีรถไฟเก่ายูเนียนสเตชัน ควบคู่ไปกับการจัดงานที่โรงภาพยนตร์ดอลบีเธียเตอร์ โดยยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะแบ่งช่วงของการประกาศผลรางวัลใน 2 สถานที่นี้อย่างไรทั้งนี้งานประกาศผลรางวัลอื่น ๆ แบบปรากฏตัวภายในงานที่เกี่ยวข้องกับรางวัลออสการ์ ถูกยกเลิกทั้งหมดแล้ว[22]

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564 คณะผู้จัดงานได้ส่งจดหมายแจ้งให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ทราบว่า "สำหรับคนที่มาร่วมงานไม่ได้เพราะตารางงาน หรือมีความยากลำบากในการเดินทาง จะไม่มีการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอภายในงาน" และจดหมายยังกล่าวต่ออีกว่า "เราได้พยายามเป็นอย่างมากที่จะมอบค่ำคืนที่สนุกสนานและปลอดภัยให้กับทุกคน รวมไปถึงคอหนังกว่าล้านคนทั่วโลก"[23] อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2564 อคาเดมีประกาศว่าจะเพิ่มสถานที่จัดงานย่อยในลอนดอน และปารีส เพื่อลดการเดินทางของผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงบางส่วน[24]

ใกล้เคียง

งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 93 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 96 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 60 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 65 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 62 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 74 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 73 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 67 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 76

แหล่งที่มา

WikiPedia: งานประกาศผลรางวัลออสการ์_ครั้งที่_93 http://oscar.go.com/ http://www.oscars.org/ https://abc.com/shows/oscars/news/nominations/osca... https://collider.com/who-is-hosting-oscars-2021/ https://deadline.com/2020/03/golden-globes-eligibi... https://deadline.com/2020/04/oscars-academy-moves-... https://deadline.com/2020/04/oscars-major-changes-... https://deadline.com/2021/03/academy-president-con... https://www.hollywoodreporter.com/news/golden-glob... https://www.hollywoodreporter.com/race/oscars-acad...