ประวัติ ของ จอร์จ_ลูคัส

จอร์จ ลูคัสเคยฝันอยากเป็นนักขับรถแข่ง แต่พอประสบอุบัติเหตุหลังสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม ต่อจากนั้นได้เข้าเรียนในโรงเรียนสอนทำหนังของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย และในฐานะนักเรียนหนัง เขาผลิตภาพยนตร์สั้นมาหลายเรื่องรวมทั้ง THX-1138: 4EB (Electronic Labyinth) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังนักเรียนแห่งชาติเป็นครั้งแรกในปี 1967-68

และในปี 67 นั้น เขายังได้รับทุนการศึกษาจากทางวอร์เนอร์ บราเธอร์ส เพื่อให้เข้ามาสังเกตการณ์ในกองถ่ายหนังของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา เรื่อง Finian's Rainbow ทั้งคู่สนิทสนมกันจนร่วมกันจัดตั้งบริษัท อเมริกัน โซโทรป ในปี 1969 และลูคัสก็ส่ง THX-1138 ฉบับภาพยนตร์ยาวออกสู่สายตาประชาชน จากนั้นไม่นานคอปโปลาก็มีผลงานเรื่อง The Godfather ที่เป็นที่รู้จัก ลูคัสแยกมาตั้งบริษัทของตัวเองในชื่อ ลูคัสฟิล์ม จำกัด

ปี 1973 หนังกึ่งอัตชีวประวัติเรื่อง American Graffiti ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำและเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 5 สาขา และด้วยความสำเร็จในครั้งนี้นี่เอง เป็นแรงผลักดันให้เขาเขียนบทหนังสงครามอวกาศซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก แฟลช กอร์ดอน และหนังเรื่อง Planet of the Apes จนออกมาเป็นสตาร์ วอร์สในปี 1977 และเขายังก่อตั้ง บริษัท ไอแอลเอ็ม (ILM-Industrial Light & Magic) ผลิตงานด้านวิชวลเอฟเฟ็กต์ซึ่งเป็นส่วนที่จำเป็นของหนัง รวมทั้งยังมีการตั้งบริษัท สปร็อกเก็ต ซิสเต็มส์ ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อกำกับและมิกซ์เสียง จนต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในนาม สกายวอล์กเกอร์ ซาวนด์

แต่หนังของเขาถูกสตูดิโอหลายเจ้าปฏิเสธจนท้ายที่สุด ค่ายทเวนตีเซ็นจูรีฟ็อกซ์ จึงหยิบยื่นโอกาสให้ ลูคัสยอมไม่รับค่าจ้างจากการกำกับหนังเรื่องนี้ แต่ขอส่วนแบ่งจากบ็อกซ์ออฟฟิซ 40% และสิทธิในการจัดจำหน่ายสินค้าของหนังเป็นข้อแลกเปลี่ยน และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สถิติของบ็อกซ์ออฟฟิศ และรับออสการ์ให้หนังถึง 7 สาขาด้วยกัน (แต่ไม่มีให้ตัวเอง) พร้อมทั้งก่อให้เกิดคำว่า blockbuster หรือหนังฟอร์มยักษ์ทำเงินถล่มทลาย ขึ้นมาด้วย

ในช่วงเวลาพัก ลูคัสก็ทำสตาร์ วอร์สภาคต่อทันที เคียงข้างไปกับการจับมือ สตีเฟน สปิลเบิร์ก สร้างสรรค์ซีรีส์การผจญภัยของ อินเดียนา โจนส์ ขึ้นมาซึ่งก็ถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศ ไปอีกครั้ง จากนั้นปี 1980-1985 ลูคัสก็ง่วนอยู่กับการสร้างกิ่งก้านสาขาให้กับสกายวอล์กเกอร์ ทั้งในเรื่องของการเพิ่มฝ่ายครีเอทีฟ ฝ่ายเทคนิคและการจัดการบริหารซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อลูคัสฟิล์มทั้งสิ้น

นอกจากนี้ลูคัสยังเป็นผู้วิวัฒนาการให้โรงหนังเกิดระบบ THX ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อคงคุณภาพมาตรฐานสูงสุดของเสียงในการฉายภาพยนตร์ ทั้งยังสร้างหนังใหญ่ยักษ์ให้วงการอีกมากมาย พร้อมทั้งขึ้นเป็นประธานบอร์ดกองทุนเพื่อการศึกษา เดอะจอร์จ ลูคัสเอดดูวเคชันแนลฟาวเดชัน (The George Lucas Educational Foundation) อีกด้วย

ในปี 1992 จอร์จ ลูคัส ได้รับรางวัล ไอร์วิง จี ธัลเบิร์ก ซึ่งตัดสินโดยบอร์ดบริหารของทางสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์การภาพยนตร์ผู้ทำการมอบรางวัลออสการ์ ให้กับคนในวงการภาพยนตร์ สำหรับการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตลอดชีวิตของเขานั่นเอง