ประวัติ ของ จอห์น_เทร์รี

จอห์น เทร์รี เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1980 เล่นฟุตบอลกับเชลซีมาตั้งแต่สมัยเยาวชน เล่นตำแหน่งกองหลังตัวกลาง ติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรกใน ค.ศ. 2003 เขามีความรับผิดชอบสูงและเกลียดความพ่ายแพ้ เวลาว่างเขากับเพื่อน ๆ จะไปเล่นเพนต์บอล (Paint Ball) กันเป็นประจำ จอห์น เทร์รี เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูง เป็นขวัญและกำลังใจให้กับลูกทีมทั้งเชลซีและทีมชาติอังกฤษ ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะเคยเป็นแบดบอย ติดเหล้าและการพนัน แต่เขาก็สามารถปรับปรุงตัวใหม่ และก้าวไปสู่ความสำเร็จได้มั่นคง (ว่ากันว่าเทร์รีจะหลีกเลี่ยงการดื่มเหล้าหรือเบียร์ด้วยการดื่มน้ำส้มคั้นแทน ทุกครั้งที่มีการเลี้ยงฉลองที่ผับหรืองานเลี้ยงรื่นเริง) ดังนั้นเทร์รีจึงอาจจะเป็นผู้ชายในฝันชองสาว ๆ หลายคน ถึงแม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้วก็ตาม

จอห์น เทร์รี ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมเชลซีครั้งแรกในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่เชลซีพบกับชาร์ลตัน แอธเลติก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 2001[3]

วันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 ในนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก จอห์น เทร์รี ยิงจุดโทษพลาด ทำให้เชลซีต้องพลาดแชมป์ จอห์น เทร์รี ยังมีแฟนบอลมากกว่าที่คิด นอกจากนั้นก่อนที่จะได้เข้ามาในสโมสรเชลซียังถูกตีราคาถึง 70 ล้านปอนด์ทีเดียว เข้ามาวันแรกก็โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมทีเดียว นอกจากนั้นยังมีส่วนในการนำทีมชาติอังกฤษไปถึงฟุตบอลโลกด้วย

ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 ฟาบีโอ กาเปลโล ผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ได้ปลดเทร์รีจากตำแหน่งกัปตันทีมชาติ เนื่องจากข่าวความสัมพันธ์ของเขากับกับวาเนสซา เพอร์รอนเซล ภรรยาของเวย์น บริดจ์ เพื่อนร่วมทีมชาติ[4]

ในปี ค.ศ. 2012 เทร์รีลาออกจากการเป็นกองหลังให้กับทีมชาติอังกฤษหลังจากถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษแบนในคดีเหยียดสีผิวแอนทอน เฟอร์ดินานด์ ฟุลแบ็กสโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์ เนื่องจากศาลได้มีคำพิพากษาให้จอห์น เทร์รีพ้นผิด แต่สมาคมฟุตบอลอังกฤษยืนยันที่จะริบปลอกแขนของเขา ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้เขาและฟาบีโอ กาเปลโลอย่างมาก เป็นเหตุผลให้ทั้งคู่หันหลังให้ทีมชาติอังกฤษ

ฤดูกาล 2014-2015 เทร์รีทำสถิติลงเล่นครบ 38 นัดในลีก ถือเป็นนักเตะคนที่สองที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูซึ่งลงเล่นทุกนาทีกับทีมในหนึ่งฤดูกาล และยังคว้าแชมป์มาครองได้ ต่อจากแกรี พูลลิสเตอร์ ในฤดูกาล 1992-1993 และทำลายสถิติเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังที่ยิงประตูสูงสุดตลอดกาลพรีเมียร์ลีกที่ 39 ประตู แซงหน้าเดวิด อันสเวิร์ท ตำนานฟุลแบ็กของเอฟเวอร์ตัน และพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแคพิทัลวันคัพ พร้อมทั้งติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลอีกด้วย