ประวัติ ของ จอห์นเรียล_คาซิเมโร

คาซิเมโรขึ้นชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ชนะคะแนน โลเบิร์ต บาโย จากนั้นขึ้นชกชนะรวดมาตลอดจนได้ครองแชมป์ฟิลิปปินส์รุ่นฟลายเวท (112 ปอนด์) เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ชนะคะแนน โรเดล กีลาตนจากนั้น ขึ้นชิงแชมป์องค์กรมวยโลก (WBO) เอเชียรุ่นจูเนียร์ฟลายเวท (108 ปอนด์) ที่ว่างเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ชนะทีเคโอ​ เหลี่ยมเพชร ศ.วีระพล ยก 5 ขึ้นชกป้องกันตำแหน่งได้ 1 ครั้ง จากนั้น ได้ครองแชมป์เฉพาะกาลรุ่นจูเนียร์ฟลายเวทของ WBO เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ชนะทีเคโอ​ เซซาร์ กันชิลา ยก11 ที่นิคารากัว แต่พอป้องกันแชมป์ครั้งแรกก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน ราโมน การ์ซิอา อิราเลส ที่เม็กซิโกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เสียแชมป์ไป จากนั้น ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท IBF เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554 ก็เป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอ​ โมรูติ มทาลาเน ยก 5 ที่แอฟริกาใต้

คาชิเมโรได้ชิงแชมป์โลกอีกครั้งเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 โดยไปชิงแชมป์เฉพาะกาลรุ่นจูเนียร์ฟลายเวท IBF พบกับลุยส์ อัลเบร์โต ลาซาร์เต การชกจบลงโดยคาชิเมโรเป็นฝ่ายชนะทีเคโอในยกที่ 10 เมื่อการชกจบลง กองเชียร์ของลาซาร์เตไม่พอใจได้ก่อความวุ่นวายขึ้นในสนามจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก หลังจากการชกครั้งนั้น คาชิเมโรได้เลื่อนเป็นแชมป์โลกตัวจริงในรุ่นนี้ และป้องกันแชมป์โลกไว้ได้แล้ว 3 ก่อนที่จะเสียแชมป์ในการชกป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 4 เนื่องจากทำน้ำหนักไม่ผ่านในการชกกับ เมาริซิโอ ฟูเอนเตส นักมวยชาวโคลัมเบีย ถึงแม้ว่าคาชิเมโรจะเป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอ​ไปได้เพียงแค่ยกแรกก็ตาม เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ก่อนที่ในปลายปีเดียวกันจะเป็นฝ่ายเอาชนะน็อกยก 2 อาร์มันโด ซานโตส นักมวยชาวเม็กซิกัน ถึงประเทศเม็กซิโก ไปได้ ในการชกคัดเลือกตัวผู้ท้าชิงแชมป์โลกในรุ่นฟลายเวท IBF

ในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558 คาชิเมโรขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นฟลายเวท IBF ภาคบังคับ กับ อำนาจ รื่นเริง เจ้าของตำแหน่งชาวไทย ที่อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก[3] ผลการชก ปรากฏว่า คาชิเมโรถูกนับ 8 ไปถึง 2 ครั้งในยกที่ 2 และยกที่ 7 เมื่อครบ 12 ยก จึงเป็นฝ่ายแพ้อำนาจไปอย่างเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 116-110, 113-112 และ 115-110 [4] โดยหลังการชกครั้งแล้ว ทางฝ่ายคาซิเมโรได้ร้องเรียนไปยัง IBF ขอให้มีการจัดชกใหม่ โดยเห็นว่าฝ่ายตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการชกครั้งนี้ เนื่องจากอำนาจได้ใช้การเหวี่ยงและกอดรัดแบบมวยไทยหลายครั้งอีกทั้งกรรมการห้ามบนเวทีก็ไม่ได้ห้ามปราม แต่ทางฝ่าย IBF ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ากรรมการทำหน้าที่อย่างเป็นธรรมแล้ว และมีมติว่าไม่ต้องชกใหม่[5]

แต่ต่อมาทาง IBF ได้กำหนดให้ทั้งคู่ชกกันอีกครั้ง โดยคาซิเมโรไม่ได้ขึ้นชกอีกเลย นับตั้งแต่แพ้อำนาจมาเป็นเวลากว่า 11 เดือน การชกเกิดขึ้นภายในสนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยในการชั่งน้ำหนักต้องชั่งถึงสองครั้ง เนื่องจากทั้งคู่ทำน้ำหนักไม่ผ่านในการชั่งครั้งแรกทั้งคู่ ต้องทำการชั่งใหม่ในเช้าวันชก ผลการชกปรากฏว่า คาซิเมโรเอาชนะทีเคโออำนาจไปได้ในยกที่ 4 โดยไม่มีใครคาดคิด โดยเป็นฝ่ายใช้หมัดฮุกซ้ายเข้าที่หน้าอำนาจอย่างเต็มในจังหวะบวก และใช้หมัดซ้ายตัดลำตัวอำนาจจนแพ้ไปในที่สุด และคาซิเมโรป้องกันตำแหน่งไว้ได้ครั้งหนึ่งด้วยการชนะทีเคโอ​ผู้ท้าชิงชาวอังกฤษ ถึงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากนั้นในปลายปีเดียวกัน คาซิเมโรได้สละแชมป์ไปเนื่องจากต้องการเลื่อนรุ่นขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่ขึ้น[6]