ประวัติการชก ของ จักรกริช_แอลจียิม

เมื่อ สายรุ้ง อ.สุวรรณศิลป์ เสียแชมป์ให้ เฮซุส ชอง อย่างไม่คาดฝัน จักรกริช แอลจียิม เป็นผู้ที่ไดรับเลือกให้ขึ้นชิงแชมป์แก้มือแทนสายรุ้งที่ต้องเลื่อนรุ่นเพราะปัญหาน้ำหนักตัว ในวันแถลงข่าวการชกกับ เฮซุส ชอง นั้น จักรกริชแต่งกายด้วยชุดนักเรียนขาสั้นไปร่วมงานแถลงข่าว สร้างความฮือฮาให้กับสื่อมวลชนพอสมควร เนื่องจากขณะนั้นจักรกริชเป็นเพียงนักมวยโนเนม ไม่มีใครรู้จักมาก่อน และนึกไม่ถึงว่าจะเป็นเพียงเด็กนักเรียนมัธยม ซึ่งขณะนั้นจักรกริชอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ม.5) เท่านั้น

จักกริชขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นจูเนียร์ฟลายเวทของสหพันธ์มวยโลก (WBF) ในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2538 ที่จังหวัดหนองคาย กับ เฮซุส ชอง นักมวยชาวเม็กซิกัน ผลการชกจักรกริชเป็นฝ่ายชนะคะแนน 12 ยก ไป แต่ระหว่างการชกจักรกริชถูกหมัดหนัก ๆ ของชองเข้าไปหลายหมัด ถึงแม้จะเป็นฝ่ายชนะคะแนนไปก็ดูค้านสายตา และสร้างความบอบช้ำให้จักรกริชเป็นอย่างมาก และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วถึงผลการชก

ความบอบช้ำจากการชิงแชมป์โลกยังไม่ทันหายดี จักรกริชขึ้นชกอุ่นเครื่องกับเบน เอสโคเบีย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2538 ปรากฏว่าเป็นฝ่ายชนะคะแนนแบบสะบักสะบอมอีก จนกระทั่งระหว่างการฝึกซ้อมที่จะป้องกันตำแหน่งนั้น จู่ ๆ จักรกริชก็สลบล้มลง เมื่อนำส่งโรงพยาบาล แพทย์ตรวจพบว่าสมองของจักรกริชบอบช้ำมาก เชื่อว่าเป็นผลจากการชกกับ เฮซุส ชอง นี่เอง เมื่อทำได้ทำการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งออกก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นบุคคลทุพพลภาพ ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ จึงต้องแขวนนวมไปโดยปริยาย และต่อมาก็มีหลายบุคคลในวงการมวยได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน

จักรกริช แอลจียิม นับได้ว่าเป็นนักมวยที่น่าสงสารมากที่สุดคนหนึ่ง ที่ต้องกลายเป็นคนพิการทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อยอยู่ ปัจจุบันนี้ จักรกริช อาศัยอยู่กับครอบครัวที่บ้านเกิด มีสภาพร่างกายซีกซ้ายไม่สามารถขยับได้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ให้ความช่วยเหลือจักรกริชและครอบครัวเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ทุกเดือน โดยช่วยเหลือมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2548[1]

ใกล้เคียง

จักรกฤษณ์ อำมรัตน์ จักรกลสาวใส ใจวัยทีน จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม จักรกฤษ ลาภตระกูล จักรกริช บุญคำ จักรกลยอดมนุษย์เมทัลเดอร์ จักรกริช พาละพล จักรกฤษณ์ คชรัตน์ จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ จักรกฤษณ์ ทองศรี