สมเด็จพระจักรพรรดิเหลียวไท่จง (เย่ว์ลู่เต๋อกวง) (902-947) เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 2 ใน
จักรพรรดิเหลียวไท่จู่ โดยเป็นพระอนุชาในองค์ชายเย่ว์ลู่ทู่อี้ พระราชบิดาของ
จักรพรรดิเหลียวซื่อจง เมื่อเย่ว์ลู่ทู่อี้ พระเชษฐาซึ่งเป็นองค์รัชทายาท ถูกฮองเฮาสู้ลี่ว์พระมารดาและข้าราชสำนักบีบบังคับ ให้ลี้ภัยไปยังราชสำนักโฮ่วถัง และตั้ง เย่ว์ลู่เต๋อกวง พระราชโอรสองค์รองที่ทรงพระปรีชาสามารถด้านการทหาร ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทแทน เมื่อจักรพรรดิเหลียวไท่จู่สวรรคตในปี พ.ศ. 1469 (ค.ศ. 926) องค์รัชทายาทเย่ว์ลู่เต๋อกวง พระชนม์ 24 พรรษา จึงขึ้นครองราชย์เป็น จักรพรรดิเหลียวไท่จง จักรพรรดิองค์ที่ 2 แห่ง
ราชวงศ์เหลียวจักรพรรดิเหลียวไท่จงทรงสานนโยบายการปกครองของเหลียวไท่จู่พระราชบิดา และทรงศึกษาวัฒนธรรมของ
ชาวฮั่น ส่วนการปกครองได้นำระบอบการปกครองของ
ราชวงศ์ถังมาใช้ และสนับสนุนการเกษตร จึงทำให้เศรษฐกิจของ
ต้าเหลียวและขุมกำลังเจริญรุดหน้าและเข้มแข็งขึ้นปี ค.ศ. 936 (พ.ศ. 1479) เหลียวไท่จงทรงสบโอกาสเข้ามาขยายอิทธิพลในภาคกลาง โดยกองทัพเหลียว (ชิตัน) ได้ยกทัพเข้ามาช่วย
สือจิ้งถังล้มล้าง
ราชวงศ์โฮ่วถัง (หนึ่งใน
ห้าราชวงศ์) และสถาปนา
ราชวงศ์โฮ่วจิ้นขึ้น โดยโฮ่วจิ้นได้รับดินแดนแถบ
มณฑลเหอเป่ยและ
มณฑลซานซี 16 เมือง (ปัจจุบันคือ
ปักกิ่งและ
ต้าถง) อีกทั้งบรรณาการประจำปีเป็นการตอบแทนแต่เมื่อสือจิ้งถังสิ้นชีพลง ผู้สืบทอดตำแหน่งต้องการเป็นอิสระจากต้าเหลียว จักรพรรดิเหลียวไท่จงจึงยกกองทัพลงใต้บุกยึด
เมืองไคฟง เมืองหลวงของราชวงศ์โฮ่วจิ้นได้สำเร็จ แต่เนื่องจากทรงไม่ได้เตรียมกองเสบียงมา เหล่าทหารจึงต้องออกปล้นเสบียงของชาวบ้านตลอดทางที่ผ่าน จึงทำให้ได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากชาวบ้าน กองทัพเหลียวจึงต้องถอยร่นกลับขึ้นเหนือ และจักรพรรดิเหลียวไท่จงสวรรคตอย่างกะทันหันระหว่างการถอยร่นกลับขึ้นเหนือในครั้งนี้เมื่อกองทัพเหลียวกลับถึงเมืองหลวง ก็เกิดการแย่งชิงราชสมบัติกันระหว่างหลี่หู พระราชอนุชาในจักรพรรดิเหลียวไท่จง และเย่ว์ลี่หร่วนพระโอรสในองค์รัชทายาทองค์ก่อน ที่ร่วมรบในสงครามครั้งนี้ นายทัพได้ยกเขาให้ขึ้นครองราชสมบัติเป็น
จักรพรรดิเหลียวซื่อจง ปรากฏว่าหลี่หู ที่ซู่ว์ลี่ฮองเฮาสนับสนุนพ่ายแพ้ จึงตกลงกันทำสัญญาว่าจะให้ทายาทของทั้ง 2 สายสลับกันขึ้นครองราชสมบัติ ส่วนเหลียวซื่อจง ฮองเฮาก็สนับสนุนให้ครองราชย์ต่อไป
ด้านครอบครัว