ประวัติ ของ จารุณี_สุขสวัสดิ์

  • จารุณี สุขสวัสดิ์เริ่มการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลทองโชติ
  • ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ที่โรงเรียนธัมมสิริศึกษา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
  • ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ที่โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ กรุงเทพฯ
  • ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนบางกะปิ
  • ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่โรงเรียนพาณิชยการเจ้าพระยา
  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
  • ระดับปริญญาโท จากสำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ก่อนจะเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิง จารุณี สุขสวัสดิ์เคยทำงานในสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ (คลองจั่น บางกะปิ) ทำหน้าที่จำหน่ายบัตรผ่านประตูและเครื่องดื่ม บางโอกาสก็แสดงเป็นสโนว์ไวท์ในขบวนพาเหรดของสวนสนุกและยังเคยหารายได้พิเศษด้วยการทำงานรับจ้างเป็นจับกังและคนงานก่อสร้างเพื่อส่งเสียตนเองให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือและเจียดเงินส่งให้ครอบครัว นับเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นแบบอย่างอันงดงามที่ดาราวัยรุ่นคนหนึ่งในยุคนั้นพึงมีให้กับเยาวชนและสังคมไทย ถือเป็นก้าวแรกๆ ในวงการบันเทิงที่คนไทยทั้งประเทศรักและศรัทธาจารุณี สุขสวัสดิ์ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่สามารถเป็นแบบฉบับหรือ Idol ในดวงใจให้กับคนในสังคมได้เป็นอย่างดี

จารุณี สุขสวัสดิ์แสดงภาพยนตร์ในสังกัดสีบุญเรืองฟิล์มเรื่อง "สวัสดีคุณครู" เป็นเรื่องแรกภายใต้การกำกับการแสดงของบรมครู "พันคำ" เมื่อปี พ.ศ. 2520 โดยแสดงร่วมกับนางเอกวัยรุ่นอีกคน คือ กาญจนา บุญประเสริฐ และเป็นนางเอกเต็มตัวในภาพยนตร์เรื่องที่สอง "รักแล้วรอหน่อย" (เนื้อเรื่องเดียวกับ "วนาลี") คู่กับ สรพงศ์ ชาตรี

พ.ศ. 2523 บ้านทรายทอง กำกับการแสดงโดย รุจน์ รณภพ แห่งบริษัทไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ประสบความสำเร็จท่วมท้น ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 9 ล้านบาทซึ่งถือว่ามหาศาลในยุคนั้น ตามด้วย พจมาน สว่างวงศ์ ซึ่งทำรายได้ถล่มทลายไม่แพ้กัน ทำให้ชื่อของจารุณี สุขสวัสดิ์ เป็นที่ต้องการของบรรดาผู้สร้าง ผู้กำกับ สายหนังและแฟนภาพยนตร์ไทยจนได้รับสมญานามจากสื่อมวลชนว่าเป็น "ดาราทอง" นอกจากนี้ จารุณียังเป็นนักแสดงจอเงินเพียงผู้เดียวที่สวมบทบาทเป็นทั้ง "ปริศนา""เจ้าสาวของอานนท์"และ"รัตนาวดี" จากนวนิยายไตรภาค บทประพันธ์ของหม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิตหรือ ว.ณ ประมวญมารค รัตนาวดีถือเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายภายใต้การกำกับการแสดงของรุจน์ รณภพที่จารุณีแสดงให้กับบริษัทไฟว์สตาร์โปรดักชั่นในฐานะนักแสดงนำหญิง ก่อนที่หลายปีต่อมา จารุณีจะมารับบทเป็นนักแสดงสมทบให้กับบริษัทไฟว์สตาร์อีกครั้งในเรื่อง"บุญชุ 8 เพื่อเธอ" ภาพยนตร์ที่จารุณีแสดงโดยเฉพาะในยุคเฟื่องฟูนั้นจะเรียกติดปากโดยอัตโนมัติว่า "หนังจารุณี" ทั้งๆ ที่จารุณีไม่ได้เป็นผู้กำกับการแสดงหรือผู้สร้าง เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นนักแสดงเท่านั้น ภาพยนตร์ที่จารุณีแสดงส่วนใหญ่มักได้รับการพากย์เสียงโดย ดวงดาว จารุจินดา

จารุณี สุขสวัสดิ์ มีงานหลั่งไหลเข้ามามากมายจนได้ชื่อว่าเป็น "นางเอกคิวทอง" สามารถแสดงได้ทุกบทบาททั้งชีวิต บู๊ ตลก แก่น เซี้ยว เปรี้ยว ซนและได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนั้น เนื่องจากจารุณีมีรัศมีความเป็นสุดยอดดารา (Superstar) แสดงภาพยนตร์เป็นธรรมชาติ มีฝีมือและเสน่ห์ (charismatic) ในการแสดงที่แพรวพราว หาตัวจับได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าท่าทาง แววตา อารมณ์และความรู้สึก ภาพยนตร์ของเธอทำเงินทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มเล็กหรือฟอร์มใหญ่ ถึงขนาดมีการการันตีว่า "ถ้าหนังเรื่องไหนได้จารุณีเป็นนางเอกแล้ว รับรองไม่มีเจ๊งหรือขาดทุนอย่างแน่นอน" แฟนภาพยนตร์เป็นจำนวนมากที่รักและศรัทธาในตัวจารุณีได้ก่อตั้ง "ชมรมสุขสวัสดิ์" ขึ้นเพื่อเผยแพร่แลกเปลี่ยนข่าวสารซึ่งกันและกัน ถือเป็นแฟนคลับยุคแรกๆของศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ยุคที่ยังไม่มีระบบสารสนเทศและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยเหมือนในยุคปัจจุบัน

แม้ว่าจารุณี สุขสวัสดิ์ จะเป็นนักแสดงมืออาชีพที่มีชื่อเสียงโด่งดังสุดขีดระดับตำนานประวัติศาสตร์ "ราชินีหนังไทย" และ "ราชินีจอเงิน" นับจาก เพชรา เชาวราษฎร์แล้ว ในด้านชีวิตส่วนตัวกลับต้องทำงานหนักตลอดเวลา ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอและประสบมรสุมชีวิตหนักๆหลายครั้ง เช่น เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งแรกขณะขี่เรือหางยาวเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "ลูกสาวกำนัน" จนเกือบเสียชีวิต อุบัติเหตุร้ายแรงครั้งที่สอง ระหว่างเดินทางในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง "บ้านสีดอกรัก" ที่เชียงใหม่ จนเกือบต้องพิการตลอดชีวิต และประสบปัญหาด้านสุขภาพ มีอาการตัวบวมเนื่องจากต่อมไทรอยด์เป็นพิษระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "วันนี้ยังมีรัก" ประกอบกับในช่วงนั้น รายได้และจำนวนการผลิตหนังไทยเริ่มลดลง เป็นผลให้จารุณี สุขสวัสดิ์ ต้องหยุดงานภาพยนตร์ไปช่วงระยะเวลาหนึ่งทั้ง ๆ ที่ยังมีชื่อเสียงอยู่ ในที่สุดจารุณี สุขสวัสดิ์ ก็ได้มีโอกาสเข้าสู่วงการละครโทรทัศน์ มีผลงาน เช่น ตะรุเตา คือหัตถาครองพิภพ ไฟลวง รังหนาว ขิงก็ราข่าก็แรง นิมิตมาร ปีกมาร ฯลฯ มีผลงานเพลงสองชุดกับค่ายคีตาและงานบันเทิงด้านต่าง ๆ เช่น พิธีกร ละครเวที เป็นต้น

ในวงการภาพยนตร์ไทย นางเอกภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและมีดีกรีความโด่งดังระดับแม่เหล็กของวงการ เรียกว่าเป็นราชินีจอเงินที่ดังเป็นพลุ มีอยู่ 2 ท่านเท่านั้น คือ เพชรา เชาวราษฎร์ (2504-2513) และจารุณี สุขสวัสดิ์ (2520-2532)

ใกล้เคียง

จารุณี สุขสวัสดิ์ จารุณี สารนอก จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ จารุวรรณ ปัญโญภาส จารุวรรณ เมณฑกา จารุภัทร เรืองสุวรรณ จารุศิริ ภูวนัย จารุพรรณ กุลดิลก

แหล่งที่มา

WikiPedia: จารุณี_สุขสวัสดิ์ //scholar.google.com/scholar?q=%22%E0%B8%88%E0%B8%... //www.google.com/search?&q=%22%E0%B8%88%E0%B8%B2%E... //www.google.com/search?as_eq=wikipedia&q=%22%E0%B... //www.google.com/search?q=%22%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0... //www.google.com/search?tbs=bks:1&q=%22%E0%B8%88%E... http://www.thaifilmdb.com/th/pp01016/ https://www.facebook.com/Ple-Jarunee-1523584424521... https://thaifilmreviews.com/starring/%E0%B8%88%E0%... https://www.jstor.org/action/doBasicSearch?Query=%...