ปฐมวัย

โดม เกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2534 เดิมทีครอบครัวของเขามีฐานะปานกลาง โดมมีน้องชายหนึ่งคน คือ นายธนวัฒน์ เชี่ยวอร่าม (บอลลี่) บิดาของเขา (นายธวัชชัย เชี่ยวอร่าม) ในอดีตเคยรับราชการเป็นปลัดอำเภอ จนกระทั่งบิดาของเขาได้ประสบอุบัติเหตุลื่นล้มจนเส้นเลือดในสมองแตกจนเป็นอัมพฤกษ์ ซึ่งส่งผลให้มารดาของเขา (นางเรวดี เชี่ยวอร่าม) ต้องลาออกจากงานเพื่อดูแลบิดาที่ล้มป่วยอยู่ ทำให้ฐานะทางครอบครัวยากจนลง ณ ขณะนั้น[1] โดมได้เข้าร่วมแข่งขันประกวดร้องเพลงชิงเงินรางวัลหลากหลายรายการหลายเวทีและรับจ้างร้องเพลงตั้งแต่อายุสิบหกปี[2] เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการเลี้ยงดูครอบครัวของมารดา ซึ่งเป็นช่วงที่บิดาของเขาได้ล้มป่วยลงพอดี คราวหนึ่งได้ทำการแสดงร่วมเวทีเดียวกันกับ แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น (ซึ่งเป็นพี่สาวของเพื่อนสนิทอดีตคนรักเก่า คือ ลูกเกต-จิณภัค เปียกลิ่น และต่อมาเป็นเดอะสตาร์คนที่ 4 ของประเทศไทยและนักร้องร่วมสังกัดเดียวกัน) จึงได้รับแรงบันดาลใจจากแก้มที่มีรูปโฉมไม่งาม แต่มีความสามารถมากมายเหลือล้น เปรียบดังเจ้าชายอสูรที่ภายนอกดูไม่งามแต่จิตใจลึกๆแล้วมีความงามซ่อนอยู่ภายใน

สำหรับชีวิตในวัยเรียน โดมเข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนประจำจังหวัด โดมเป็นเด็กเรียนห้องคิงส์และกิจกรรมตัวยง แต่ไม่เคยทิ้งการเรียน โดมเป็นตัวแทนที่ทำหน้าที่ร้องเพลงชาติหน้าเสาธงทุกเช้า ที่โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยเนื่องจากเสียงของเขาดีมาก โดมยังเคยเป็นประธานชุมนุมร้องเพลงขั้นเทพและชุมนุมประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย และได้เคยร้องเพลงในงานกีฬาจังหวัดภูเก็ตในวันเปิดงาน 3 ปีซ้อนอีกด้วย[3] และขณะศึกษาระดับอุดมศึกษา โดมสามารถสอบเข้าชิงทุนการศึกษาได้ตั้งแต่ ม6 เทอม 2 กิจกรรมโดมได้เป็นประธานชุมนุม ทียู โฟล์กซอง รุ่นที่ 8[4] ของมหาวิทยาลัย และครั้งหนึ่ง เคยได้ทำการแสดงในคอนเสิร์ตของชุมนุม ทียู โฟล์กซอง ร่วมกับ เบน ชลาทิศ ตันติวุฒิ ตั้งแต่โดมยังไม่ได้เป็นนักร้องมืออาชีพและมีชื่อเสียงโด่งดัง

ปัจจุบันโดมจบการศึกษาจาก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยเกียรตินิยมอันดับ2

วงการบันเทิง

โดมได้สมัครเข้าร่วมรายการประกวดร้องเพลง เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 4 และ 5 แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก กระทั่งกลับมาสมัครแข่งขันอีกครั้งในปีที่ 8 ด้วยความพร้อมและความตั้งใจพยายามอย่างมากและได้รับการคัดเลือกเป็นแปดคนสุดท้ายของรุ่น ด้วยรหัสการประกวด หมายเลข 1[5] ซึ่งโดมได้ทำการแสดงและผ่านเข้าถึงรอบสองคนสุดท้าย เข้าชิงร่วมกับ แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ และชนะเลิศ เป็นเดอะสตาร์คนที่ 8 ของประเทศไทย[6]

ภายหลังชนะการประกวด โดมมีผลงานเพลงที่โด่งดัง อาทิเช่น คำอธิษฐานด้วยน้ำตา, กลัวความห่างไกล, รักแท้อยู่เหนือกาลเวลา, เรื่องจริงเรื่องสุดท้าย และ หนึ่งหัวใจ โดยเฉพาะเพลง รักแท้อยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครโทรทัศน์ชุด สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายปวรรุจ ซึ่งทำให้โดมได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขาเพลงประกอบละครยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2556 เพียงคนเดียวจากตอนอื่นๆ นอกจากความสามารถด้านการขับร้องแล้ว โดมมีความอัจฉริยะและความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรีหลากชนิด(12 ชนิด) และประพันธ์เพลงดังๆในปัจจุบันอีกด้วย เช่น ได้ร่วมแต่งทำนองเพลง ภาวะว่างเปล่า ของฮั่น-อิสริยะ ภัทรมานพ ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่มาก รวมทั้งบทเพลงของตนเองโดมก็แต่งขึ้น

โดมมีผลงานบันเทิงด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่ ผลงานการแสดงและพิธีกร อาธิเช่น เงาอโศก ยีนเด่น 4 โพดำ เป็นต้น อีกทั้งยังมีผลงานการเขียนหนังสือที่มีความนิยมติดอันดับหนึ่งในตอนนั้นเป็นหนังสือที่รวบรวมสิ่งต่างๆที่ผ่านมาและมีคุณค่า คือ Twelve Songs 12 วรรคทองจาก 12 บทเพลงชีวิต และให้เสียงภาษาไทยแก่แอนิเมชันขนาดสั้นชื่อดัง Lava ซึ่งฉายปะหน้าภาพยนตร์แอนิเมชัน มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง (Inside Out)

ด้านสุขภาพ โดมมีอาการป่วยบ่อย ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลและพักงานอยู่หลายครั้ง เป็นที่น่ากังวลและน่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง[7][8][9] จนเมื่อต้นปี พ.ศ. 2558 โดมมีอาการป่วยเรื้อรังและโหมงานหนักอย่างต่อเนื่อง[10] ต่อมา แพทย์ตรวจพบอาการของโรคหมอนรองกระดูกแตกทับเส้นประสาท[11] ซึ่งสาเหตุน่าจะสืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุรถชนช่วงที่เรียนอยู่ระดับมัธยมศึกษา และโดมยังมีอาการป่วยจากโรคร้ายนี้[12]

ในปัจจุบัน โดมได้เป็นที่ปรึกษาทางด้านดนตรีให้กับศิลปินต่างๆ เช่น นิว จิ๋ว (ช่วยแต่งทำนองเพลงและเนื้อเพลง "ถ้าตรงนั้นมีความสุข") ฮั่น พรีน ซึ่งเป็นศิลปินในค่ายเดียวกัน

พ.ศ. 2563 โดมได้เข้าประกวดร้องเพลงในรายการ The Mask งานวัด โดยเลือกเป็น "หน้ากากเมียงู" ในกลุ่มที่ 2 และคว้าแชมป์ของรายการดังกล่าว เป็นแชมป์ที่ 2 ของเขา