การเปลี่ยนสู่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ของ จูเต๋อ

ค.ศ. 1927 เกิดสงครามกลางเมือง โจวเอินไหลได้ปฏิวัติหนันชางได้จนสำเร็จ โดย จูเต๋อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งหนันชางในขณะนั้น ได้เชิญนายทหารของพรรคก๊กมินตั๋งไปกินเลี้ยงร่ำสุรากัน และถูกกันตัวไปไหนไม่ได้ ขณะในเมืองทั้งสองฝ่ายรบกันอย่างดุเดือดถึง 4 ชั่วโมง และในที่สุดจูเต๋อและหลินเปียวได้สบทบกำลังเป็นทหารของจีนคอมมิวนิสต์อย่างเต็มตัว และ จากนั้นพรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดหนันชางได้เพียงสัปดาห์เดียว ทหารก๊กมินตั๋งเข้ามายึดเมืองคืนได้สำเร็จ

จูเต๋อ พร้อมด้วยหลินอี้ หลินเปียว เข้ายึดเมืองเซียนจ้าง ที่พรรคก๊กมินตั๋งปกครองอยู่ได้สำเร็จ โดยเจียงไคเชคเริ่มเห็นบทบาทของจูเต๋อมากขึ้น จึงสั่งการให้กำจัด จนในที่สุดจูเต๋อต้องล่าถอยหนีและได้พบกับเหมาเจ๋อตง ที่เขาจิงกัง ฐานที่มั่นของเหมาเจ๋อตง จูเต๋อได้รวมกำลังกับเหมาเจ๋อตงนำกองกำลังชาวนาเข้าร่วมเป็นกองกำลังจรยุทธ์ ในฤดูหนาวปี 1927-1928 เขาสามารถรวบรวมกำลังผลที่ผสมระหว่างชาวนาและกรรมกรถึง 10,000 คน โดยจูเต๋อเป็นผู้บัญชาการทหาร ส่วนเหมาเจ๋อตงเป็นประธานทางการเมือง จากนั้นเหมาเจ๋อตงกับจูเต๋อช่วยกันตีเมืองต่างๆ จนประชาชนได้เรียกทั้ง 2 คนเป็นเสียงเดียวกันว่า "จูเหมา"

ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1930 ถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 1933 เจียงไคเชคได้ทำการล้อมปราบคอมมิวนิสต์จีนเขาจิงกัง จนครั้งสุดท้าย เจียงไคเชคได้นำกองทหารจำนวนหนึ่งล้านคน และเครื่องบินอีก 200 ลำ เข้าล้อมปราบ และปี ค.ศ. 1934 โดยยุทธวิธีการปิดล้อมทางเศรษฐกิจของเจียงไคเชคทำให้ "จูเหมา" เสียฐานที่มั่นเขาจิงกัง