ความสำเร็จและรางวัล ของ ฉิ้น_อรมุต

หนังฉิ้น ธรรมโฆษณ์ ได้รับการต้อนรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วภาคใต้ ด้วยความสามารถในการแสดงที่จัดเจนรอบด้าน ตั้งแต่การวางโครงเรื่องที่สนุกน่าติดตาม บทกลอนที่ลื่นไหลงดงาม บทเจรจาที่น่าประทับใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเสนอเรื่องราวที่ส่งเสริมศีลธรรมและคุณธรรมอันดีงาม ซึ่งสอดแทรกไว้อย่างแนบเนียน แม้กระทั่งบทตลก ซึ่งเป็นบทสำคัญมากอย่างหนึ่งของหนังตะลุง หนังฉิ้นก็สามารถสร้างความขบขันและสนุกสนานให้กับผู้ชมได้โดยไม่ต้องใช้ถ้อยคำสกปรกหรือหยาบคายเลย

นามพระราชทาน

หนังฉิ้น ธรรมโฆษณ์ ได้ออกตระเวนเล่นหนังทั้งในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ได้แสดงแพร่ภาพทางโทรทัศน์อยู่เสมอ และเทปบันทึกเสียงการแสดงก็ได้มีการเผยแพร่ออกอากาศทางวิทยุมาโดยตลอด เมื่อพ.ศ. 2517 หนังฉิ้น ธรรมโฆษณ์ ได้เล่นหนังตะลุงถวายให้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทอดพระเนตร ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ และเป็นที่พอพระราชหฤทัย จึงได้พระราชทานนามคณะหนังตะลุงของหนังฉิ้นว่า "หนังอรรถโฆษิต" อันหมายถึงคณะหนังตะลุงที่ประกาศความดี ยังความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจแก่หนังฉิ้นเป็นล้นพ้น

เมื่อประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดในวิชาชีพแล้ว หนังฉิ้น ธรรมโฆษณ์ ก็ได้ใช้ความสามารถและศักยภาพของความเป็นนายหนังตะลุงยอดนิยม ช่วยเหลืองานทางสังคมต่างๆ ฐานะสื่อที่ช่วยเผยแพร่ข่าวสารและเสริมสร้างศีลธรรมอันดีงามในสังคม ส่วนในด้านการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงหนังตะลุงนั้น หนังฉิ้นได้ทำการบันทึกการแสดงเอาไว้ทั้งที่เป็นภาพถ่าย เทปบันทึกเสียง และเทปบันทึกภาพ ตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด แล้วนำไปมอบให้เป็นสมบัติของศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา สถาบันทักษิณคดีศึกษา เพื่อให้เป็นข้อมูลและหลักฐานสำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาค้นคว้าได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังได้ถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ที่สนใจและเป็นวิทยากรรับเชิญในหลายโอกาส

ศิลปินแห่งชาติ

ในปีพ.ศ. 2532 หนังฉิ้น ธรรมโฆษณ์ ได้รับการประกาศให้เป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาศิลปะการแสดง (หนังตะลุง) และ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (หนังตะลุง) ในปีเดียวกัน นับเป็นนายหนังตะลุงคนที่สองที่ได้รับการเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ท่านแรกคือหนังกั้น ทองหล่อ ครูผู้ล่วงลับไปแล้วของหนังฉิ้นนั่นเอง