ฟุตบอลสโมสร ของ ชนาธิป_สรงกระสินธ์

บีอีซี เทโรศาสน

ฤดูกาล 2554

ในสมัยที่ชนาธิป ยังเล่นฟุตบอลระดับนักเรียน เขาเคยถูกทีโอทีปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาด้วยเพราะรูปร่างเล็กเกินไปไม่เหมาะจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก่อนที่บีอีซี เทโรศาสนจะนำตัวเขามาร่วมทีมชุดเยาวชนของสโมสร โดยให้ค่าแรงเดือนละ 10,000 บาท

ชนาธิป อยู่ในทีมชุดเยาวชน U-19 ของสโมสรและสามารถพาทีมเยาวชนของสโมสรคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 ได้สำเร็จ โดยในนัดชิงชนะเลิศ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ที่สนามศุภชลาศัย เขาสามารถพาสโมสรเอาชนะทีมเยาวชน U-19 ของบุรีรัมย์ พีอีเอ ไปได้ 5-2 และได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังจบเกม

ด้วยผลงานที่ดีในทีมเยาวชนของบีอีซี เทโรศาสน ทำให้ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 เขาถูกสมชาย ชวยบุญชุม โค้ชทีมชาติชุดเยาวชนในขณะนั้น เรียกติดทีมชาติไทยชุดเยาวชน 19 ปี แข่งขันในรอบคัดเลือกของฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ปี 2012 โดยทีมชาติไทยได้แชมป์กลุ่มและได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในรอบคัดเลือกนี้ชนาธิป ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงและยิงประตูให้ทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุ 19 ปีได้ 1 ลูก ในเกมส์ที่ถล่มเยาวชนทีมชาติกวมไปถึง 13-0 ที่สนามเทพหัสดิน

ฤดูกาล 2555

หลังจากสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 ชนาธิปก็ได้รับโอกาสจากแอนดรูว์ อ็อด กุนซือใหญ่ของทีมในขณะนั้นให้ติดทีมชุดใหญ่ ชนาธิปได้รับโอกาสลงเล่นให้กับต้นสังกัดเป็นครั้งแรกในนัดเปิดสนามของไทยพรีเมียร์ลีก 2555 วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555 ที่ทีมของเขาต้องออกไปเยือนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่สนามไอโมบาย โดยชนาธิปลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ทีมของเขาแพ้ไป 2-1 และมายิงประตูแรกได้ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ในนัดที่บีอีซี เทโรศาสนออกไปเยือนการท่าเรือไทย ที่แพตสเตเดียม ซึ่งเขาถูกเปลี่ยนลงมาแทนจักรกริช บุญคำในครึ่งหลัง โดยในการแข่งขันนัดดังกล่าวเขาทำผลงานให้เป็นที่จดจำของแฟนบอลด้วยการถูกส่งลงมาในฐานะตัวสำรองแล้วยิงคนเดียว 2 ประตูโดยลูกที่ 2 เป็นการกระชากด้วยความเร็วกว่าครึ่งสนามก่อนจะล็อกหลบวัลลภ แซ่จิ๋ว นายประตูเจ้าบ้านแล้วค่อย ๆ เลี้ยงบอลผ่านเส้นประตูเข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้สโมสรบุกมาชนะการท่าเรือถึงถิ่น 2-0

ด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่จากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม ทำให้ชนาธิป ยึดตำแหน่งภายในทีมได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ขึ้นมาจากทีมเยาวชน โดยในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เขาได้ลงสนามในรายการ โตโยต้า ลีกคัพ 2555 ในรอบ 32 ทีมสุดท้ายซึ่งเป็นการลงเล่นรายการนี้เป็นนัดแรกของเขา ในเกมส์นัดดังกล่าวทีมของเขาต้องออกไปเยือนลำพูน วอร์ริเออร์ที่แม่กวงสเตเดียม และเขาก็ช่วยให้ทีมชนะ 2-1 ต่อมาในวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เขายิงได้อีก 1 ประตูในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีกที่บีอีซี เทโรศาสน ต้องออกไปเยือนสงขลา ยูไนเต็ด ที่สนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา โดยเขายิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ทีมของเขาจะชนะเจ้าบ้านไป 2-1

วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ลงเล่นฟุตบอลชิงถ้วยไทยคม เอฟเอคัพ เป็นครั้งแรก โดยเป็นเกมส์รอบ 32 ทีมสุดท้าย ที่สโมสรต้องออกไปเยือนพัทยา ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬาเทศบาลหนองปรือ โดยเขาเป็นคนเปิดให้กิลเบิร์ต คุมสัน ยิงประตูชัยให้บีอีซี บุกมาชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย และต่อมาในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีกวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ระหว่างบีบีซียูกับบีอีซี เทโรศาสน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ชนาธิป ยิงให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอ 2-2

ชนาธิปได้ลงสนามในฤดูกาลนี้รวม 33 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 28 นัด, โตโยต้า ลีกคัพ 3 นัด, เอฟเอ คัพ 2 นัด) ยิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 4 ประตู และบีอีซี เทโรศาสนจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 จากผลงานและลีลาการเล่นในฤดูกาลนี้ทำให้ชนาธิป สรงกระสินธ์ได้เล่นให้ทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ไปแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียรอบสุดท้ายที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากเคยเล่นในรอบคัดเลือกเมื่อปีที่แล้ว และติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012

ฤดูกาล 2556

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ชนาธิป ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ทำได้เพียงแค่คว้าอันดับ 3 ร่วมกับทีมชาติเกาหลีเหนือ

ในฤดูกาลนี้สโมสรเปลี่ยนแปลงโค้ชเป็นสเตฟาเน่ เด โมล และชนาธิป เริ่มต้นฤดูกาล 2556 ในเกมส์ที่บีอีซี-เทโรศาสนบุกไปชนะราชบุรี 1-0 ที่สนามกีฬาจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม โดยเป็นตัวสำรองและถูกส่งลงมาแทนคลีตัน ซิลวา ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมส์

การยิงประตูแรกในฤดูกาลนี้ของเขาเกิดขึ้นในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีกที่เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมายิงตีเสมอให้กับทีม ซึ่งประตูที่เขายิงได้ในนัดนี้ถือเป็นประตูแรกที่เขายิงได้ต่อหน้าแฟนบอลที่สนามเหย้าของสโมสร

ต่อมาวันที่ 18 สิงหาคม เขายิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้อีก 1 ประตู โดยยิงให้บีอีซี เทโรศาสนตีเสมอบางกอกกล๊าส 1-1 ก่อนจะจบลงด้วยการบุกมาชนะ 3-2 ที่ลีโอสเตเดียม แต่ในช่วงท้ายเกมเขากลับถูกใบแดงไล่ออกจากสนามเพราะไปมีปัญหากับฟลาเวียง มิเชลินี่ และธีรเทพ วิโนทัย นักเตะของบางกอกกล๊าส โดยถือเป็นการได้ใบแดงครั้งแรกของเขาในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ

วันที่ 27 ตุลาคม เขายิงได้ 1 ประตูในเกมส์เปิดบ้านเสมอเมืองทอง ยูไนเต็ด 2-2 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

จบฤดูกาลชนาธิปลงสนาม 28 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 26 นัด, เอฟเอคัพ 1 นัด, ลีกคัพ 1 นัด) ยิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 3 ประตู พาบีอีซี เทโรศาสนต้นสังกัดคว้าอันดับ 6 ในลีก และเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองได้เรียกติดฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี แข่งขันในกีฬาซีเกมส์ 2013 ที่ประเทศพม่าในเดือนธันวาคม

ฤดูกาล 2557

ในช่วงต้นฤดูกาล ชนาธิปต้องพลาดโอกาสในการลงสนามเนื่องจากได้รับบาดเจ็บกระดูกหน้าแข้งหักจากการลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในกีฬาซีเกมส์เมื่อปลายปีก่อน และมาได้ลงสนามนัดแรกในฤดูกาลนี้เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ในเกมที่เปิดบ้านเสมอกับเมืองทอง ยูไนเต็ด 1-1 โดยเป็นตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาเล่นในช่วง 20 นาทีสุดท้าย

วันที่ 22 มิถุนายน ชนาธิป ยิงประตูแรกในฤดูกาลนี้ และช่วยให้บีอีซี-เทโรศาสนเปิดบ้านเสมอกับเชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 ในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีก และนัดต่อมา วันที่ 25 มิถุนายน เขายิงให้ทีมขึ้นนำ 1-0 และจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูได้อีก 1 ลูก ในเกมที่เอาชนะสมุทรสงคราม 2-0 ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของบีอีซี เทโรศาสน และในเกมส์ระหว่างบีอีซี เทโรศาสน เปิดบ้านพบอาร์มี่ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม เขายิงไกลเป็นประตูชัยให้บีอีซี ชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 2-0 โดยประตูดังกล่าวเป็นประตูที่ 10 ที่ชนาธิปยิงให้บีอีซี เทโรศาสนในไทยพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสร

เดือนกันยายน ชนาธิปถูกเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองเรียกตัวติดทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ และพาทีมชาติคว้าอันดับ 4 มาครอง

หลังจากกลับมาจากเอเชียนเกมส์ ชนาธิป ลงสนามให้บีอีซี เทโรศาสน ในเกมส์โตโยต้าลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557 และช่วยให้ทีมชนะบุรีรัมย์ไปได้ 2-0 และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ โดยเป็นแชมป์รายการแรกของเขากับบีอีซี-เทโรศาสน

ในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่พบกับเชียงราย ยูไนเต็ด ชนาธิปยิงได้อีก 1 ประตู แต่จบเกมบีอีซีแพ้ไป 2-1 และจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3

ฤดูกาล 2558

ชนาธิปเริ่มต้นฤดูกาลนี้ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกนัดที่เปิดบ้านเสมอกับเชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 และยิงประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้ในนัดที่บุกไปชนะสโมสรโอสถสภา 3-2 ฤดูกาลนี้เขาถูกอาการบาดเจ็บรบกวนทำให้ไม่ได้ลงสนามมากเท่าที่ควร โดยบีอีซี เทโรศาสนทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในลีก ทำให้เขาต้องย้ายไปร่วมสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว

เมืองทอง ยูไนเต็ด

ฤดูกาล 2559

28 มกราคม 2559 ชนาธิป เปิดตัวเป็นนักเตะคนใหม่ของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดในไทยพรีเมียร์ลีกร่วมกับธนบูรณ์ เกษารัตน์และพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา 2 นักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งทั้งสามมาร่วมทีมเมืองทองด้วยสัญญายืมตัวพร้อมตัวเลือกซื้อขาดจากบีอีซี เทโรศาสน โดยชนาธิปพร้อมกับพีระพัฒน์และธนบูรณ์ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะของเมืองทองเป็นการถาวร

ชนาธิปลงสนามนัดแรกให้เมืองทอง ยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ในการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือกนัดที่พบกับยะโฮร์ ดารุล ตะก์ซิมจากมาเลเซีย และจากผลงานที่ยอดเยี่ยมของชนาธิปทำให้เมืองทอง ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ไทยลีกได้เป็นสมัยที่ 4 ซึ่งผลงานดังกล่าวทำให้สโมสรคอนซาโดเล ซัปโปะโระทีมฟุตบอลจากเจลีกของญี่ปุ่นได้ติดต่อมายังสโมสรเมืองทองเพื่อดึงตัวชนาธิปไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว

คอนซาโดเล ซัปโปะโระ

ฤดูกาล 2560-เลก 2

ชนาธิปเปิดตัวกับคอนซาโดเล ซัปโปะโระในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ในสัญญายืมตัวจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยชนาธิปได้ย้ายไปเล่นเจลีกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560 และเริ่มเข้าร่วมทีมตั้งแต่เลก 2 ของฤดูกาล

ชนาธิป สามารถคว้าตำแหน่ง MVP ของสโมสรประจำฤดูกาล2018 ไปครองโดยได้ผลคะแนนโหวตมาเป็นอันดับหนึ่งจากเพื่อนร่วมทีมทั้ง 22 คน และนอกเหนือจากนี้ ชนาธิปยังได้รับการโหวตให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งเจลีกในฤดูกาล 2018 อีกด้วย นับว่าเป็นนักเตะชาวไทยที่ได้รับการยอมรับในฝีเท้าจากแฟนบอลในแดนปลาดิบอย่างมาก

หลังจากที่ชนาธิป ถูกซัปโปะโระยืมตัวเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง ทางสโมสรได้ทำการเซ็นสัญญาถาวรตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยมีสัญญาถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568[3]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ชนาธิป_สรงกระสินธ์ http://www.goal.com/th/people/%E0%B9%84%E0%B8%97%E... http://www.youtube.com/watch?v=RpaYI2dDvok http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsi... http://www.manager.co.th/SPORT/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1... http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/141228_1... http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%82%E0%B8%... https://footballdaily365.com/%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0... https://www.transfermarkt.com/chanathip-songkrasin... https://www.thairath.co.th/content/1499201